หลังจากที่เจียงหลีได้อาบน้ำ ก็รู้สึกสดชื่นขึ้นมาก
ในตอนที่มู่ชิงเหยียนมาเคาะประตู เจียงหลีก็เป็นปกติแล้ว
“น่ารักจัง” ถึงแม้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มู่ชิงเหยียนเจอกับเจ้าเปี๊ยก แต่ทุกครั้งที่เจอก็จะรู้สึกว่ามันน่ารักมาก อดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าไปลูบไล้มัน
แต่มือของนางยังไม่ทันแตะต้องตัวมัน เจ้าเปี๊ยกก็หลบอย่างรวดเร็ว ทำให้มู่ชิงเหยียนเก็บมือกลับอย่างเก้อเขิน ทำอะไรไม่ถูก
“มันก็เป็นเช่นนี้แหละ นอกจากข้า ก็ไม่ชอบให้ใครจับ ไม่ว่าหญิงชายก็เหมือนกัน” เห็นนางท่าทางเช่นนั้น เจียงหลีเลยอธิบาย
มู่ชิงเหยียนพยักหน้า ยิ้มกล่าว “เมื่อครู่ข้ากระโตกกระตากเกินไป ไม่ใช่ว่าข้าเพิ่งรู้ว่าเจ้าเปี๊ยกไม่ชอบให้คนเข้าใกล้ แต่ข้าก็อดไม่ได้”
“ไม่เป็นไร” เจียงหลีพูดอย่างไม่ถือสา
มู่ชิงเหยียนเลิกมองเจ้าเปี๊ยก แล้วพูดกับเจียงหลีว่า “ด้านนอกได้เตรียมอาหารเช้าไว้เรียบร้อยแล้ว”
“ไปกันเถอะ” เจียงหลีเดินนำออกไป
มู่ชิงเหยียนเห็นว่านางไม่ได้อุ้มเจ้าเปี๊ยกออกไป ก็พูดเตือนว่า “วันนี้เจ้าไม่เอามันไปด้วยหรือ” ช่วงนี้เจียงหลีกับเจ้าเปี๊ยกตัวติดกันตลอด
เจียงหลีหันมามองเจ้าเปี๊ยกที่อยู่บนเตียง ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แล้วส่ายหน้าอย่างช้าๆ “ไม่ล่ะ ที่นี่คือวังเทียนอู่กง ปลอดภัยเป็นอย่างมาก ให้มันอยู่ในห้องนี่แหละ”
“เอ๊ะ” คำตอบนี้ เหมือนว่าจะทำให้มู่ชิงเหยียนประหลาดเล็กน้อย
เจียงหลีชะงักไป แล้วพูดเสริม เหมือนว่ากำลังพูดโน้มน้าวตัวเองว่า “พวกเรามาเป็นแขก นำสัตว์เลี้ยงไปด้วย ถ้าเกิดปะทะกันจะไม่ดีเอา”
มู่ชิงเหยียนพยักหน้า แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
ทั้งสองเดินออกจากห้องไปพร้อมกัน ทิ้งเจ้าเปี๊ยกไว้ในห้องเพียงลำพัง
มองประตูที่กำลังปิด ในแววตาที่แวววาวคู่นั้นของเจ้าเปี๊ยกเผยความสับสนออกมา
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่ไหม” พอเดินออกมา มู่ชิงเหยียนถามด้วยความห่วงใย
เจียงหลีหันมา ในสายตามีความงงงัน
มู่ชิงเหยียนยิ้มแล้วพูดอธิบายว่า “ดูเหมือนว่าเจ้ามีเรื่องอะไรในใจ”
ชัดขนาดนั้นเชียวหรือ
เจียงหลีหรี่ตาทั้งสองข้าง แล้วยิ้มออกมา ไม่ได้ตอบอะไร
นางก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร ตื่นมาเช้านี้ ก็รู้สึกแปลกๆ เป็นเพราะว่าลู่เจี้ย หรือเป็นเพราะว่าดวงตาที่แวววาวคู่นั้น ทำไมนางเห็นดวงตาที่แวววาวคู่นั้นแล้วถึงนึกว่ามันคือลู่เจี้ยได้ล่ะ
เพียงแต่ เรื่องพวกนี้นางไม่สามารถบอกใครได้ ทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้ในส่วนลึกของหัวใจ
ตอนที่กินอาหารเช้า กงเสวี่ยฮวาก็มาถึงแล้ว เขารู้ตัวว่าต้องมากินอาหารกับหญิงสาวทั้งสอง แล้วยังไม่ลืมที่จะบอกแผนการของวันนี้ “ท่านพ่อข้ากำลังเก็บตัวฝึกฝนอยู่ ไม่รู้ว่าสองสามวันนี้จะมาได้หรือไม่ ข้าได้บอกแม่ข้าแล้วว่าอีกครู่พวกเราจะไปพบนาง หลังจากนั้นก็พาพวกเจ้าเดินดูวังเทียนอู่กง”
ดังนั้น ภายใต้การเชื้อเชิญที่เป็นมิตรของกงเสวี่ยฮวา หลังจากที่กินอาหารเช้าแล้ว เจียงหลีและมู่ชิง เหยียนก็เลยไปพบเจ้าของวังเทียนอู่กง
ก่อนหน้านี้ กงเสวี่ยฮวาเคยพูดถึงแม่เขา
วันนี้ได้เจอตัวจริง เจียงหลีรู้สึกนางเป็นหญิงงามที่อ่อนโยนเหมือนน้ำจริงๆ วาจาท่าทางก็ล้วนแต่ทำให้คนรู้สึกผ่อนคลาย ไม่มีมาดของฮูหยินเจ้าของวังเลยสักนิด
ฮูหยินเจ้าของวังก็รู้เช่นกันว่าระหว่างพวกนางกับนางไม่มีเรื่องอะไรจะคุยกัน พูดกันแค่สองสามประโยค ก็สั่งให้กงเสวี่ยฮวาต้อนรับพวกนางให้ดีๆ แล้วก็ให้พวกนางไป
“ท่านแม่เจ้านิสัยใจคอไม่เลว” หลังจากเดินออกมา เจียงหลีก็พูดขึ้นมา
กงเสวี่ยฮวายิ้มแล้วพูดว่า “นั่นเป็นเพราะว่าเจ้าไม่เคยเห็นนางตอนโมโหไงเล่า”
เจียงหลีเลิกคิ้ว สงสัยเล็กน้อย


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์