“ยังจะบอกว่าฉลาดปราดเปรื่องอีกรึ แบบนี้เรียกว่าขี้ขลาดเหมือนหนู”
“ข้าดูแล้ว เดิมทีเจียงหลีก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมู่เหยี่ยนฉืออยู่แล้ว ไม่ช้าก็เร็ว นางต้องแพ้อยู่ดี”
“ก็จริง ถ้านางยังหลบเลี่ยงอยู่แบบนี้ตลอด อีกไม่นานก็คงถูกมู่เหยี่ยนฉือจัดการตกเวทีประลองแน่”
“…”
เหล่าลูกศิษย์ชายของวังเทียนอู่กงไม่พอใจ มีบางคนโกรธ แล้วรีบลุกขึ้นมาตอบโต้ทันที
“ทำไมสตรีอย่างพวกเจ้าถึงได้ใจแคบขนาดนี้ คนอื่นสวยกว่าพวกเจ้า ก็เลยหวังให้คนอื่นแพ้อย่างนั้นรึ!”
“มู่เหยี่ยนฉือที่เป็นบุรุษท้าต่อสู้กับสตรีคนหนึ่ง ไม่ขายหน้ารึ”
“…”
ลูกศิษย์หญิงก็ทนไม่ไหวลุกขึ้นมา
“เหอะ! พวกเจ้าเห็นว่านางสวยเลยลืมเพื่อนสินะ คงลืมไปแล้วว่าใครคือศิษย์ของวังเทียนอู่กงแล้วใช่ไหม ไอ้พวกลืมพรรคพวก ไอ้พวกเลว!”
“…”
ในขณะที่ลูกศิษย์ชายและหญิงที่อยู่บนยอดเขาทั้งห้าที่ปะทะกันอย่างแรงเพราะการประลองครั้งนี้ จู่ๆ ก็มีเสียงดังขึ้น ทำให้พวกเขาตกใจจนเงียบลงแล้วมองไปยังเวทีประลอง
ท่ามกลางฝุ่นควัน เห็นเพียงพลังที่บ้าคลั่งทำลายฉากกำบังบนเวทีประลองลง ร่างของมู่เหยี่ยนฉือถอยหลังไปทันทีหลายก้าว
ผู้คนต่างตะลึง
เกิดอะไรขึ้น
คนกลุ่มหนึ่งเสียดายที่เมื่อครู่นี้ทะเลาะกันอยู่ ทำให้พลาดช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมไป
ตอนนี้พวกเขาก็มีสติกลับมาแล้ว ไม่ได้ทะเลาะอะไรกันต่อ และดูการประลองอย่างตั้งใจ
มู่เหยี่ยนฉือยืนมั่นแล้ว ก้มหน้าลงมองรอยเท้าที่หน้าอกของตัวเอง แล้วยกมือขึ้นปัดเบาๆ เมื่อครู่เขาคิดว่าตัวเองจับเจียงหลีที่เคลื่อนไหวไปมาได้แล้ว แต่กลับคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายเคลื่อนไหวไปมาแล้วใช้วิธีเดียวกับเขา ถีบเข้าที่อกของเขาอย่างแรง
เจียงหลียังคงยืนอยู่ตรงหน้าเหมือนเดิม เลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วมองเขาด้วยสายตาที่เย้ยหยัน
มู่เหยี่ยนฉือแววตาวูบลง เขารู้สึกมาตลอดว่าเจียงหลียังไม่ปลดปล่อยพลังที่แท้จริงออกมา
หรือว่าตัวเขาเองไม่คู่ควรที่จะให้นางใช้พลังที่แท้จริงสู้ด้วยอย่างนั้นหรือ
มู่เหยี่ยนฉือเกิดความโกรธขึ้นในใจ เขารวมพลังวิญญาณในมือเป็นดาบ ทันใดนั้นพลังที่รุนแรงก็ปรากฎขึ้นบนเวทีประลอง
เจียงหลีถูกปกคลุมอยู่ในนั้น ในใจลึกๆ เกิดรู้สึกถึงอันตรายขึ้นมา
ดูท่าคงจะโกรธจริงๆ แล้ว ลมพัดผมของเจียงหลีปลิว
พลังลมปราณของมู่เหยี่ยนฉือระเบิดออกมาจนถึงขีดสุด พลังที่รุนแรงและน่ากลัวแผ่ออกมาไปทั่วทุกสารทิศ พลังที่รุนแรงนั้นพุ่งไปหาเจียงหลี ราวกับเข็มเล็กๆ ทิ่มแทงไปบนผิวหนังของนาง ทำให้ผมยาวของนางปลิวไสว
นางเก็บสีหน้าที่หยอกเย้า แล้วตั้งใจรับมือกับการต่อสู้นี้เป็นครั้งแรก
ลมพายุพัดมา ร่างกายของมู่เหยี่ยนฉือพุ่งเข้าไปโจมตีเจียงหลี วิญญาณยุทธ์ที่อยู่ด้านหลังเขาก็ผสานเข้าไปในร่างของเขาแล้ว พลังที่น่ากลัวเปล่งแสงสว่างไสว ปกคลุมตัวของเจียงหลีอยู่ตลอด
“เป็นพลังที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ!”
“พลังที่แข็งแกร่งแบบนี้ หลิงหวังขั้นหนึ่งก็คงจะไม่กล้าปะทะ”
“เลือดของข้าเหมือนจะระเบิดออกมาอย่างไรอย่างนั้น”
“พวกเรายังขนาดนี้ แล้วคนที่อยู่บนเวทีประลองยิ่งไม่ต้องพูดถึง”
“…”
บนยอดเขาทั้งห้า คนมากมายล้วนแต่ตกใจจนลุกขึ้นยืน
พลังของมู่เหยี่ยนฉือแข็งแกร่งมาก ทำให้ใจของพวกเขาเต้นแรง เหมือนว่าถูกคนเอามือมาบีบหัวใจอย่างแรง สามารถบีบให้แตกสลายได้ตลอดเวลา
ตอนนี้ในหัวของพวกเขามีเพียงความคิดเดียว
การโจมตีที่รุนแรงเช่นนี้ เจียงหลีจะรับไหวหรือไม่
“มู่เหยี่ยนฉือบ้าไปแล้ว! แค่การประลองเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าจะโจมตีด้วยพลังที่รุนแรงขนาดนี้!” กงเสวี่ยฮวาตะลึง รู้สึกจิตใจไม่สงบ
มู่เหยี่ยนฉือก็เป็นแบบนี้เช่นกัน ในแววตาของนางเต็มไปด้วยความกังวล จิตใจร้อนรน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์