บทหลิงหวัง!
ยังมีหลิงหวังอีกหนึ่งคน!
ที่แท้ นี่เป็นไพ่ใบสุดท้ายของสำนักพรตเสวียนหมิงสินะ เจียงหลีสะท้านในใจ
ตอนที่นางยังอยู่ในสำนักพรตเสวียนหมิง เคยได้ยินหลายคนบอกว่าถึงแม้สำนักพรตเสวียนหมิงจะอยู่ในกลุ่มอำนาจระดับต่ำ แต่กลับเป็นกลุ่มอำนาจระดับต่ำมีพลังความสามารถอันแข็งแกร่ง ในงานเลี้ยงเหล่าเซียนที่จัดขึ้นในอีกไม่กี่ปีหลังนี้ มีความเป็นไปได้มากที่สุดที่จะสามารถท้าทายสำเร็จและกลายเป็นกลุ่มอำนาจระดับกลาง
แต่ทว่าเวลานั้นสำหรับเจียงหลีแล้วนางเป็นเพียงแขกผู้มาเยือนสำนักพรตเสวียนหมิงเท่านั้น นางไม่ได้พินิจพิจารณาอะไรและยิ่งไม่รู้ว่าสำนักพรตเสวียนหมิงจะมีคุณสมบัติที่แข็งแกร่งอยู่ที่นั่น
เวลานี้ ในที่สุดนางก็เข้าใจแล้ว!
กลุ่มอำนาจระดับต่ำมีหลิงหวังนั่งกุมบังเหียนหนึ่งคน แต่สำนักพรตเสวียนหมิงกลับมีหลิงหวังถึงสองคน คนหนึ่งอยู่ในที่สว่าง อีกคนหนึ่งซ่อนตัวอยู่ในที่มืด!
ตู้มมม!
พลังอันน่าสะพรึงกลัวถาโถมเข้าใส่เจียงหลีดั่งพายุ
เจียงหลีไหวตัวหลบอย่างรวดเร็ว และยังมีการโจมตีบางส่วนตกใส่เกราะเสวียนกังของนาง
ทันทีที่เจียงหลียืนได้อย่างมั่นคงท่ามกลางซากปรักหักพัง นางก็เห็นร่างของคนๆ หนึ่งที่ซ่อนตัวภายในเสื้อคลุมมาปรากฏตัวข้างกายประมุขสำนักพรตเสวียนหมิง
“มหาปุโรหิต” แววตาของเจียงหลีดำดิ่ง
เจ้าวัตถุโบราณนี่ซ่อนตัวได้ดีทีเดียว ก่อนหน้านี้เจอหน้ากันไม่กี่ครั้ง นางสัมผัสถึงลมปราณของหลิงหวังบนเรือนร่างของเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
พลังควบคุมจิตหายไป ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงยืนขึ้นด้วยความอัปยศ
บัดนี้ ร่างของเขาโชกเลือดเนื้อหนังถลอกปอกเปิกและมีบางจุดมีกระดูกขาวโผล่ออกมา แต่เขาคือหลิงหวัง บาดแผลแค่นี้ไม่พอที่จะเอาชีวิตของเขาไปได้หรอก!
“นังสารเลว” ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงมองเจียงหลีด้วยแววตาดำมืดและเย็นเยียบ
เจียงหลีทำเขาจนบาดเจ็บเช่นนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน หากไม่ใช่เพราะฐานการฝึกบำเพ็ญของเขาสูงส่งกว่าเจียงหลี เขาคงตายไปแล้วด้วยพลังโจมตีอันน่ากลัวเมื่อครู่นี้
เจียงหลียกยิ้มมุมปากและหัวเราะออกมา นางปีศาจไร้พ่าย นางมองประมุขคู่ของสำนักพรตเสวียน
หมิงที่ยืนอยู่ตรงข้ามด้วยสายตาเย็นยะเยือก แล้วเอ่ยประชดประชัน “จิตใจอำมหิตของประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงไม่น้อยทีเดียวเชียว!”
“คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะสามารถหลุดพ้นจากยันต์ธาราทมิฬได้ ทำให้ข้าประหลาดใจยิ่งนัก” น้ำเสียงกักขฬะแหบต่ำดังออกมาจากเสื้อคลุม
ในมุมมองของเจียงหลียามนี้ มหาปุโรหิตท่านนี้ที่ไม่เคยเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงมีความน่าหวาดกลัวเสียยิ่งกว่าประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงอีก
เจียงหลียิ้มเย็นเฉียบ
นางสามารถถอนยันต์ธาราทมิฬออกจากร่างได้อย่างไร แน่นอนว่านางไม่อธิบายให้สองคนนี้ฟังหรอก
แต่ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงกลับหัวเราะอย่างมาดร้าย “นางมีความสามารถลบยันต์ธาราทมิฬได้หรือ… หึ ท่านดูนางสิ มีวิญญาณยุทธ์ขั้นหนึ่งถึงสีดวงทั้งยังเป็นสามประเภทร่วมฝึกด้วย แล้วไหนจะการโจมตีเมื่อครู่อีก”
“นั่นคือพลังควบคุมจิต” ในน้ำเสียงของมหาปุโรหิตนั้นเต็มไปความโลภโมโทสัน
“พลังควบคุมจิต” ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงหรี่ดวงตาทั้งสอง ประกายริษยาตาร้อนกะพริบไหวผ่านม่านตาของเขา “ล้วนเป็นสมบัติล้ำค่า! จับตัวนางไว้ดึงวิญญาณยุทธ์ของนางออกมาแล้วบีบบังคับให้นางบอกความลับของนาง”
มหาปุโรหิตพยักหน้าช้าๆ
ทันใดนั้นลมปราณของทั้งสองพลันเปลี่ยนไป ความเกรงขามอันน่าสะพรึงกลัวของหลิงหวังทั้งสองกดทับร่างของเจียงหลี
ทันใดนั้นเจียงหลีก็สัมผัสได้ถึงความมืดดำที่ครอบงำรอบด้าน
ความรู้สึกเย็นยะเยือกแปลกๆ ภายใต้แรงกดดันอันหนักหน่วงทำให้เจียงหลีเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว แสงที่มืดมนส่องผ่านยามราตรีกลายเป็นอุ้งมือผีดำทมึนจิกไปที่ศีรษะของเจียงหลี
เจียงหลีหรี่ตากำหมัดและชูขึ้นโจมตีไปยังอุ้งมือผีนั้น พลังหมัดและอุ้งมือผีประทะกันสั่นสะเทือนเป็นพลังคลื่นชั้นๆ ออกมา
ทันใดนั้น แสงบางละเอียดก็ตกลงมาจากอากาศพุ่งเข้าใส่เจียงหลี
เจียงหลีไหวตัวเพื่อหลบหนี ในขณะเดียวกันแรงกดดันจากทั้งสองฝ่ายก็ตกกระทบร่างของเจียงหลี
ประมุขสำนักพรตเสวียนหมิงและมหาปุโรหิตทั้งสองคือหลิงหวัง คิดไม่ถึงว่าจะหมาหมู่โจมตีเจียงหลีพร้อมกันอย่างหน้าไม่อาย!
แรงกดดันจากทั้งสองทาง ด้วยพลังมหาศาลที่กักเก็บนี้ปกคลุมร่างของเจียงหลีทันที



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์