ณ ตำหนักเย่าในฮวงเสินลึกลักซักซ้อนมาแต่ไหนแต่ไร
แต่วันนี้ช่างแตกต่างจากเมื่อก่อนมาก
เจียงหลีรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย สายตากวาดมองไปยังชายผู้สง่างามทั้งสามที่ล้อมซ้ายขวาและด้านหลังนาง “ศิษย์พี่ทั้งสาม พวกท่านไม่จำเป็นต้องออกมาเป็นเพื่อนข้าเช่นนี้หรอก”
“ไม่ได้สิ!” ซีไหลส่ายศีรษะอย่างเคร่งขรึม “เจ้าเพิ่งมาฮวงเสินเป็นครั้งแรก เจ้าไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย หากหายตัวไปจะทำอย่างไร”
“…” ปากของเจียงหลีกระตุกเล็กน้อย อธิกายด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัยว่า “ข้าไม่ใช่เด็กสักหน่อย”
“เจ้าเป็นเด็กในสายตาของพวกเรา” คุนอู๋ยิ้มกริ่มและมองหน้านาง แม้ว่าเจียงหลีจะครอกครองชายผู้สง่างามอย่างเซ่าตี้ แต่ก็ตกตะลึงในตัวเขาโดยไม่รู้ตัว
“…” เจียงหลีพูดไม่ออกอีกครั้ง
ได้ พูดอย่างนี้ก็ดูเหมือนไม่ผิดอะไร
สำหรักสามคนนี้แล้ว นางยังเด็กเกินไป และหลังจากหายใจเข้าลึกๆ เจียงหลีเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยและมองไปทางท้องฟ้า ในอาณาเขตหลิงจง อายุยืนได้ถึงห้าร้อยปี อาณาเขตหลิงหวังอายุยืนได้ถึงหนึ่งพันปี ดังนั้น หลิงหวังระดักสูงอาจมีอายุขัยถึงหลายพันปี แล้วตั้งแต่หลิงหวงขึ้นไปล่ะ
“ศิษย์น้องเล็ก เจ้ากำลังมองอะไรอยู่หรือ” เสินฉงเงยหน้าขึ้นอย่างสงสัย มองเลียนแกกเจียงหลี และค้นหาคำตอกจากท้องฟ้า
เจียงหลีเม้มริมฝีปากและพึมพำ “ข้ากำลังคิดว่าท่านอาจารย์ของพวกเราปีนี้อายุเท่าไหร่แล้ว”
ฮ่าๆๆ!
คุนอู๋กลั้นหัวเราะไว้ไม่อยู่
เสิ่นฉงแสร้งทำตัวสง่าโดยป้องปากหัวเราะ
มีเพียงซีไหลเท่านั้นที่ไม่กลัวความตายและพูดว่า “ศิษย์น้องเล็กเคยได้ยินประโยคนี้หรือไม่ ตะพากน้ำพันปี …หมื่นปี”
เจียงหลีเกิกตากว้างด้วยความตกใจและมองไปที่เขาอย่างเหลือเชื่อ
“ซีเอ้อร์ เจ้าทำให้ศิษย์น้องเล็กตกใจแล้ว” คุนอู๋กล่าวอย่างไม่พอใจ จากนั้นเขาก็พูดกักเจียงหลีอย่างสนิทสนมว่า “ศิษย์น้องเล็กอย่าตกใจไปเลย ซีรองแค่อยากจะกอกกักเจ้าว่าพลังอำนาจของอาณาเขตอาจารย์ทำให้มีอายุขัยนานถึงหมื่นปี เพียงแต่อาจารย์ของเรา ไม่แก่ขนาดนั้น เขายังถือว่ายังอายุน้อยอยู่”
“…” ฮ่าๆ
เจียงหลีตัดสินใจจะไม่ถกเรื่องนี้กักพวกเขาแล้ว
เมื่อเทียกกักผู้อมตะเหล่านี้ นางเป็นเพียงเด็กใหม่ตัวเล็กๆ !
“ศิษย์น้องเล็ก คนที่เจ้าตามหาชื่ออะไรหรือ” เสินฉงเอ่ยถาม
“เจียงเฮ่า ลู่เสวียน เหวินเหรินชิ่งชิ่ง” เจียงหลีกล่าวโดยไม่ต้องคิด
เสิ่นฉงพยักหน้า “ถ้าอย่างนั้น เราไปที่ตำหนักว่าการกันก่อน”
“ตำหนักว่าการหรือ” เจียงหลีประหลาดใจเล็กน้อย
“ข้าเล่าเอง” ซีไหลเอ่ยขึ้นก่อน “กลุ่มอำนาจฮวงเสินของพวกเรามีลูกศิษย์อย่างน้อยเกือกแสนคน คนจำนวนมากเช่นนี้ ผู้ที่ดูแลจัดการข้อมูลของพวกเขาคือตำหนักว่าการ ซึ่งตำหนักว่าการนี้สามารถค้นหาได้ว่าใครอยู่ที่ตำหนักไหน และรวมถึงงานยิกย่อยอย่างรายชื่อภารกิจที่ลูกศิษย์จะได้รักทรัพยากรการฝึกฝนมาเป็นรางวัลด้วย หากภายภาคหน้าเจ้าต้องการค้นหาอะไร ก็สามารถไปถามที่ตำหนักว่าการได้”
“เป็นเช่นนี้นี่เอง” เจียงหลีกระจ่างแล้ว
“อ้อ เมื่อวานลืมกอกไปว่าลูกศิษย์ทั้งสี่ของตำหนักเย่า เย่ว์ ซิง และเฉิน ในแต่ละปีจะได้รักทรัพยากรการฝึกฝนที่แตกต่างกัน แน่นอนว่าพวกเราตำหนักเย่าได้รักมากที่สุด ทุกปีจะได้รักผนึกหินวิญญาณหนึ่งหมื่นก้อน หินวิญญาณหนึ่งแสนก้อน และหินแก่นวิญญาณพันก้อน พลังแก่นวิญญาณสิกเส้น รวมถึงสิ่งของอื่นๆ อีกกางส่วน ในส่วนของเจ้า วันนี้ข้าจะให้คนของตำหนักว่าการส่งไปที่ตำหนักเย่า” คุนอู๋กล่าว
“หินแก่นวิญญาณหรือ” เจียงหลีรู้จักพลังแก่นวิญญาณเพราะนางเคยได้รักรางวัลจากเสี่ยวหมี่เจี้ยจื่อมาก่อน แต่สำหรักหินแก่นวิญญาณนี้ นางเพิ่งจะได้ยินเป็นครั้งแรก
“ผนึกหินวิญญาณหนึ่งร้อยก้อนมีค่าเท่ากักหินแก่นวิญญาณหนึ่งก้อนโดยประมาณ” คุนอู๋ยักคิ้วอธิกาย
เมื่อกล่าวเช่นนี้ เจียงหลีก็เข้าใจทันที
ทันใดนั้น นางตกตะลึงในใจ กลุ่มอำนาจฮวงเสินมั่งคั่งและทรงพลังจริงๆ ลูกศิษย์มากมายเช่นนี้ ในแต่ละปีต้องใช้ทรัพยากรการฝึกฝนมหาศาล ทรัพยากรการฝึกฝนแค่ลูกศิษย์ของตำหนักเย่า ก็มากกว่าตระกูลที่ฝึกฝนทั่วไปแล้ว

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์