ในจวนตระกูลลู่ มีการเล่าขานว่าไม่รู้นางใช้วิธีอะไรดึงดูดใจนายน้อย ทำให้นายน้อยที่มีจิตใจบริสุทธิ์ ไม่ถูกเนื้อต้องตัวสตรี กลับมีข้อยกเว้นให้นาง
อีกทั้ง เดิมที่ทุกคนกังวลว่าวันรุ่งขึ้นอาการของนายน้อยจะหนักขึ้น แต่คิดไม่ถึงเลย พอวันรุ่งขึ้น นายน้อยปรากฏต่อหน้าผู้คนด้วยความกระปรี้กระเปร่า จนทำให้ผู้คนแอบตกตะลึงอ้าปางค้าง
เจียงหลีโด่งดังแล้ว!
ต่อจากที่นางเดินโอ้อวดตามถนนเรื่องที่นางถอนหมั้นสำเร็จ นางก็มีชื่อเสียงอีกครั้งดังออกมาจากจวนตระกูลลู่ แล้วเรื่องทั้งหมดนี้ เจียงหลีที่ทุ่มเทกับการฝึกฝนอยู่ในถ้ำเก้าปีศาจนั้น ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลย!
โครม!
โครม! โครม!
รอบๆ เสียงสูดลมหายใจปนกับร้องด้วยความเจ็บปวด
“อดทนไว้ พวกเจ้ามีความสามารถเพียงเท่านี้หรือ!” เสียงของลู่จ้านดังก้องทั่วสนามฝึกซ้อม
ในสนามฝึกซ้อม ผู้อารักขาประจำตระกูลที่ได้รับการฝึกฝน ต่างพากันกอดหัวโค้งตัวลง เพื่อหลบหนีกระโจมตีจากทุกทิศทาง เจียงหลีก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย เพียงแค่ว่า นางต่างจากพวกที่หนีหัวซุกหัวซุน นางคงยืนหยัดอยู่ที่เดิม ใช้พลังในร่างกายต้านแรงจู่โจมอันรุนแรง
สนามฝึกซ้อมถูกล้อมไปด้วยผู้อารักขาประจำตระกูลลู่
พวกเขาเป็นผู้ช่วยของลู่จ้าน และยังช่วยเป็นผู้ฝึกซ้อมให้พวกผู้อารักขาประจำตระกูลอีก
คนเหล่านี้สวมเสื้อสีดำ ถูกห่อหุ้มด้วยเกราะทองแดง ยืนตัวตรงเอามือไขว้หลัง มีสีหน้าเคร่งขรึม โดยที่ทุกคนได้ปลดปล่อยวิญญาณยุทธ์ออกมา เงาสัตว์เปรียบเสมือนภูตผี ส่งเสียงคำรามดังก้องสนามฝึกซ้อม
การโจมตีอย่างต่อเนื่องของวิญญาณยุทธ์ ไม่เพียงเป็นการกดดันที่ทรงพลัง แต่ยังรวมไปถึงการโจมตีของเนื้อกายอีกด้วย อย่างไรก็ตามเด็กหนุ่มที่ถูกล้อมไปด้วยพวกเขา ทำได้เพียงยอมรับการถูกกระทำ ไม่ได้รับการอนุญาตให้ขัดขืน
การโจมตีที่ไร้ความปราณีทำให้เสื้อผ้าขาดกระจาย เนื้อหนังฉีดขาด จนหลายคนถึงกับล้มลงกับพื้น แม้ว่าจะกระอัดเลือดออกมา ก็ต้องพยายามยืนหยัดต่อ
“เพิ่มแรงโจมตี” เสียงลู่เจี้ยที่เอ่ยขึ้นมาเหมือนปีศาจ ทำให้เด็กหนุ่มทั้งหลายถึงขั้นหมดความสิ้นหวังเลยทีเดียว
เจียงหลีเงยหน้ามองไปทางลู่เจี้ยที่ยืนอยู่นอกสนาม พยายามกัดฟันสู้ต่อ
นี่คือการฝึกที่เรียกว่า ‘ต้านแรงโจมตี’ ตามที่ลู่จ้านกล่าวเอาไว้ หากต้านแรงโจมตีของอีกฝ่ายได้ ก็จะสามารถช่วยชีวิตเอาไว้ จึงจะหาโอกาสโต้กลับได้ เช่นกัน ถ้าหากว่าทนความทรมานนี้ได้ จะได้ไม่กลัวการที่ทดสอบที่แสนหฤโหด และจะไม่ทรยศหักหลังตระกูลลู่
เจียงหลีสายตาหรี่ลงเล็กน้อย เก็บความคิดฟุ้งซ่าน เม้มปากแน่น ใช้แผ่นหลังรับแรงโจมตีที่เกิดขึ้น สำนวนที่ว่า ‘กระบี่ที่แหลมคมมาจากการฝนลับ’ ตอนนี้นางรู้ซึ้งแล้ว
…
ชั่วพริบตาเดียว เหลือเวลาอีกเพียงหนึ่งเดือนก็จะถึงงานประลองชิงเจียว
เจียงหลีได้หายตัวไปจากถ้ำเก้าปีศาจ แม้ว่าเซียวเซียวไปหานางถึงจวนหินหลายครั้งก็ยังไม่พบตัวนาง เขาเองก็สงสัยว่าเจียงหลีจะไปไหนได้ แต่เขาก็ไม่ถามอะไรมากนัก
ภายในไม่กี่วัน เขาถึงจะสังเกตเห็นว่าลู่จ้านก็หายตัวไปพร้อมกับเจียงหลีเหมือนกัน
ขณะที่เซียวเซียวแปลกใจอยู่นั้น ลู่จ้านได้พาเจียงหลีเข้าไปในป่าลึกของหุบเขาปู้กุย ทำการฝึกซ้อมขั้นสุดท้ายของเจียงหลี
บรู๋ววววว!
เสียงคำรามของฝูงหมาป่ารัตติกาลได้ปรากฏตัวขึ้น
ร่างบอบบางของเจียงหลีได้ยืนอยู่กลางป่า แล้วมองไปรอบๆ ฝูงหมาป่าที่วิ่งเข้ามาหานาง ด้วยสายตาที่เฉียบคม
“ฝูงหมาป่ารัตติกาลแม้ว่าต่อตัวแล้วจะเป็นเพียงหลิงซื่อระดับที่สาม แต่พวกมันเชี่ยวชาญการต่อสู้เป็นกลุ่ม แม้หลิงซื่อระดับที่หกมาเจอกับพวกมัน ก็ทำได้เพียงวิ่งหนีเท่านั้น พวกมันจะเป็นคู๋ซ้อมของเจ้าในวันนี้ จงฆ่าพวกมันซะ ไม่เช่นนั้น จะเป็นพวกมันเองที่ฉีกกัดเจ้าทิ้ง” น้ำเสียงเย็นชาของลู่เจี้ยดังมาจากบนต้นไม้
VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์