“…”
คำพูดของเสิ่นฉง ทำให้เจียงหลีกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
หลายวันมานี้ที่รู้จักกัน นางรู้สึกดีต่อศิษย์พี่ทั้งสามของนาง พวกเขาใจดีกับนางมาก แน่นอนว่านางทำเป็นไม่รับรู้ไม่ได้
ระหว่างที่เสิ่นฉงพูดกับเจียงหลี หันเหยากวงก็หลับตาลงอีกครั้ง
“ไปเถิด” เจียงหลีก็ไม่ได้ใส่ใจ พูดเร่งเสิ่นฉง
เสิ่นฉงพยักหน้า สถานะอย่างเขา จิตใจจะไม่ถูกยั่วยุให้โกรธได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขาเห็นเจียงหลีมีสีหน้าเรียบนิ่ง กลับรู้สึกประหลาดใจ
ระหว่างทางขึ้นเขา เขาเอ่ยถามขึ้น “เจ้าอายุยังน้อย ยามที่แข่งขันชนะ เหตุใดถึงมีคนมาดูถูกเจ้า แล้วเจ้ายังมีท่าทีนิ่งเฉยล่ะ”
เจียงหลีหันมองพลางขมวดคิ้ว แล้วเอ่ยขึ้น “คนที่ไม่น่าอิจฉาก็มีแต่พวกคนธรรมดา!”
เสิ่นฉงตะลึง
ทันใดนั้นหัวเราะขึ้นมายกใหญ่ เยี่ยมมาก! เยี่ยมมาก! นับวันเขายิ่งชอบศิษย์น้องเล็กผู้นี้อย่างมาก
หลังจากเจียงหลีสลัดความคิดเรื่องหันเหยากวงออกอย่างรวดเร็ว นางเดินมายังสระน้ำที่มีผู้เฒ่าฉือยืนอยู่ข้างๆ แล้วจึงขอบคุณอย่างมีมารยาทอีกครั้ง
นี่จึงทำให้ผู้เฒ่าฉือมีความทรงจำอันดีต่อรองประมุขน้อยแห่งตำหนักเย่า
“ศิษย์น้องเล็ก เจ้าอยู่ที่นี่จงทำใจให้สบาย ข้าจะรออยู่ที่เชิงเขา” เสิ่นฉงเอ่ยกับเจียงหลีก่อนนางจะลงสระ
เจียงหลีพยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นมา “ศิษย์พี่ใหญ่หากท่านมีธุระ ไม่ต้องเฝ้าข้าที่นี่ก็ได้”
“ข้าไม่มีอะไรต้องทำ” เสิ่นฉงส่ายศีรษะ
เจียงหลีนึกขึ้นได้ในใจ เสิ่นฉงต้องเตรียมจู่โจมอาณาเขตหลิงหวงแล้ว เหตุใดถึงดูว่างเช่นนี้ เขาไม่วางใจให้นางอยู่ที่นี่ก็ช่างเถิด เพียงแต่ นางก็ไม่ใช่คนที่เขินอายเช่นนั้น สิ่งที่อยากจะพูดก็พูดไปหมดแล้ว เสิ่นฉงไม่ยินดี นางก็จะไม่บังคับ
ไม่ได้พูดอะไรอีก เจียงหลีก็ลงไปในสระ
หลังจากลงสระแล้ว แววตานางเป็นประกาย เกิดความสงสัยมองไปยังน้ำในสระที่ใสจนเห็นก้นสระ
พวกนี้แท้จริงแล้วไม่ใช่น้ำหรือ!
หลังจากที่นางลงสระ ไม่ได้รู้สึกว่าตนแช่อยู่ในน้ำเลย เพียงแต่มีความรู้สึกเย็น ปกคลุมไปทั่วร่างกาย
น่าประหลาดจริง! เจียงหลีเกิดความสงสัยในใจ แต่ก็ไม่ได้ถามออกไปในตอนนั้น
นางเก็บไว้ในใจ แล้วนั่งขัดสมาธิลงในสระ ให้น้ำในสระท่วมร่างกายครึ่งท่อนล่าง
เวลานี้ผู้เฒ่าฉือและเสิ่นฉงได้เดินออกไปแล้ว นางก็รีบผ่อนคลายอารมณ์ สงบนิ่งพร้อมกับหลับตาทั้งสองข้างลง
ผ่านไปสักพัก ข้างหูของเจียงหลีก็ไม่ได้ยินเสียงใดอีกเลย
ประสาทสัมผัสทั้งห้าของนางราวกับปิดสนิท ไม่รับรู้โลกภายนอก จิตใจและวิญญาณของนางคล้ายกับแช่อยู่ในสระน้ำที่เย็นฉ่ำ ตัดขาดจากโลกภายนอกทั้งหมด ปล่อยวางลงหมดสิ้น
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า หรือจะกล่าวได้ว่า เจียงหลีนั่งแช่อยู่ในสระน้ำจนลืมวันลืมคืน
หนึ่งวันผ่านไปอย่างเงียบสงบ
เสิ่นฉงรักษาคำพูด เฝ้าอยู่นอกสระสรรพสัตว์ สายตาจดจ้องยังสถานที่ที่เจียงหลีอยู่
วันที่สอง ผ่านไปอีกวัน
สถานที่ที่เจียงหลีอยู่ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เหมือนทุกอย่างหยุดนิ่งอยู่แบบนั้น
เข้าวันที่ห้า เวลาผ่านไปรวดเร็วราวกับม้าขาวผ่านช่องแคบ
วันที่หกยามพระอาทิตย์ขึ้นสู่ขอบฟ้า คุนอู๋และซีไหลที่อยู่ในตำหนักเย่าทนไม่ไหว จึงวิ่งมาที่ข้างสระสรรพสัตว์ มารอเจียงหลีพร้อมกับเสิ่นฉง
ท่านรองประมุขทั้งสามของตำหนักเย่ามาปรากฏตัวที่สระสรรพสัตว์รอคอยศิษย์น้องเล็กของพวกเขาพร้อมกันอย่างกะทันหัน กลายเป็นทิวทัศน์สวยงามที่ริมขอบสระสรรพสัตว์
ชั่วครู่ ข่าวแพร่ออกไป ดึงดูดให้ศิษย์จำนวนไม่น้อยในเมืองฮวงเสินรีบมาห้อมล้อมและมุงดู
ข่าวนี้ได้แพร่ไปถึงเจียงเฮ่า ลู่เสวียน เหวินเหรินชิ่งชิ่ง หนานอู๋เฮิ่น เฟิงสิงอวิ๋นคนที่รู้จักคุ้นเคยกับเจียงหลี ทุกคนล้วนมาถึงที่สระสรรพสัตว์กันหมดแล้ว
แสงอาทิตย์ยามพลบค่ำสาดส่องมายังสระสรรพสัตว์ ทำให้ปกคลุมไปด้วยผงทองหนึ่งชั้น
ทันใดนั้น สถานที่แห่งหนึ่งในสระสรรพสัตว์ก็ปรากฏภาพลวงตาขึ้นมา
วิหคโบยบินเจ็ดแปดตัว บินวนรอบศีรษะ บินเป็นวงกลม ขนที่มีสีสันสวยงามนั้น สวยเสมือนจริงเป็นพิเศษ
“นี่! รีบดู ปรากฏภาพลวงตาวิหคเหินขึ้นมาแล้ว! ”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์