เหอะ!
เจียงหลียิ้มอย่างขมขื่น ที่แท้ศิษย์ของตำหนักเย่ายังมีหน้าที่ข้อนี้ด้วย
“แต่เจ้าอย่ากดดันเกินไป หลังจากเข้าสู่ดินแดนผนึกมารแล้ว คนส่วนใหญ่จะแยกออกจากกัน เมื่อพบเจอศิษย์ร่วมสำนัก ก็ให้ดูแลกันไป” คุนอู๋ปลอบประโลม
เจียงหลียิ้มออกทันที
รอยยิ้มนั้นทำให้ใบหน้าเล็กๆ ที่มีเสน่ห์ของนางเปล่งประกายขึ้น
คุนอู๋แกล้งหยอกนาง “เจ้านี่ขี้เกียจแค่ไหนเชียว”
เจียงหลีไม่รู้สึกเขินอาย เลิกคิ้วขึ้นตออบว่า “สามารถกระดิกนิ้วสั่งได้จะดีที่สุด! ”
“เจ้านี่นะ!” คุนอู๋ส่ายศีรษะอย่างจนปัญญา
“ใช่แล้ว ศิษย์พี่สาม เมื่อครบสองปี พวกเราจะออกจากดินแดนผนึกมารเองใช่หรือไม่” เจียงหลีถามอย่างสงสัย
“อืม” คุนอู๋พยักหน้า “แต่ก็มีข้อยกเว้น”
“ข้อยกเว้นหรือ” เจียงหลีหันไปมองหน้าเขา
คุนอู๋อธิบายกับนางว่า “บางครั้งก็เกิดสถานการณ์พิเศษ เมื่อถึงเวลาต้องออก แต่ออกไม่ทัน ก็จะติดอยู่ในนั้นสามปี รอจนกว่าดินแดนผนึกมารจะเปิดอีกครั้ง และออกมาพร้อมกับคนกลุ่มใหม่ที่เข้ามา”
ทันใดนั้น คุนอู๋หยุดเดินและมองหน้านางอย่างจริงจัง “แน่นอนว่าเจ้าต้องมีชีวิตอยู่ให้ถึงตอนนั้นด้วย”
ดวงตาของเจียงหลีหดลง จากคำอธิบายเรียบง่ายของคุนอู๋แต่กลับได้ยินความลับมากมาย
ดินแดนผนึกมารไม่ใช่สถานที่สงบสุขแน่นอน ในเมื่อได้รับเลือกให้เป็นสถานที่ทดลอง จะต้องแฝงภัยอันตรายไว้มากมาย
สองปี สามปี อีกสองปี เจียงหลีหรี่ตาลง แอบมุ่งมั่นในใจว่าห้ามพลาดเวลาออกจากที่นั้นเด็ดขาด มิเช่นนั้นจะต้องรอไปอีกห้าปี เมื่อนับๆ ดูแล้ว ต้องติดอยู่ในนั้นถึงเจ็ดปี
เจ็ดปี หากถูกขังในดินแดนผนึกมารนั่นถึงเจ็ดปี ข้างนอกจะเกิดอะไรขึ้นบ้างก็ไม่รู้ เจียงหลีแอบคิดในใจ
สิ่งที่คุนอู๋เป็นกังวล เจียงหลีกลับไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
เพราะยังไงซะ นางยังเหลือโอกาสฟื้นคืนชีพจากนกอมตะอีกสองครั้ง คงไม่โชคร้ายและใช้โอกาสทั้งสองในดินแดนผนึกมารหรอกนะ
…
เจียงหลีเดินตามคุนอู๋และพบเจอกับท่านประมุข สิ่งที่ท่านประมุขพูดก็คล้ายคลึงกับที่คุนอู๋เคยพูด
แค่ตอนท้ายได้แจ้งเวลาออกเดินทางเพิ่ม รวมถึงรายชื่อคนที่จะเข้าไปด้วย
เวลาออกเดินทางคือในอีกหนึ่งเดือน
คนที่จะไปที่นั้นด้วยมีจำนวนไม่มาก รวมเจียงหลีด้วยแล้ว มีเพียงห้าคนเท่านั้น
ส่วนใครที่ไปที่นั่นบ้าง ท่านประมุขขออุบไว้ก่อน สำหรับเจียงหลีแล้ว อีกหนึ่งเดือนข้างหน้า ระหว่างออกเดินทาง นางก็จะรู้เอง และในหนึ่งเดือนนี้ ภารกิจในการฝึกฝนของเจียงหลีก็จะหนักหน่วงมากขึ้นกว่าเดิม
เสิ่นฉงจัดเตรียมหนังสือศาสตร์ลับไว้หลายเล่ม เพื่อนางจะได้ไม่ลืมที่จะฝึกฝนในขณะที่อยู่ในดินแดนผนึกมาร เมื่อถึงสิ้นเดือน ในที่สุดพลังจิตของเจียงหลีที่ถูกปิดผนึกโดยเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อก็กลับคืนสู่ภาวะปกติ และที่ทำให้นางประหลาดใจคือ หนึ่งเดือนมานี้ แม้ว่านางจะไม่สามารถใช้พลังจิต แต่พลังจิตของนางก็พุ่งสูงขึ้นมาก จนในที่สุด นางสามารถท้าทายอีกครั้งและทะลวงผ่านอาณาเขตเล็กๆ ได้สำเร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด และได้รับผลเนี่ยนกั่วสามเม็ดเป็นรางวัลจากเสี่ยวหมีเจี้ยจื่อ หลังจากกินมันแล้ว ระดับการฝึกฝนเนี่ยนซือของนางพุ่งสู่เนี่ยนจงขั้นสาม
ครบกำหนดหนึ่งเดือน วันนี้เป็นวันที่เจียงหลีออกเดินทาง
“ศิษย์น้องเล็ก เจ้าจะเดินทางแล้ว แต่กลับสามารถฝึกฝนศาสตร์ลับประเภทที่สองได้แล้ว” คุนอู๋รู้สึกหดหู่เล็กน้อย
สำหรับเรื่องนี้ เจียงหลีรู้สึกทำตัวไม่ถูกอย่างมาก
“เอา รับไป” คุนอู๋ยื่นม้วนหนังสือให้กับเจียงหลี
เจียงหลีมือหนึ่งอุ้มเจ้าเปี๊ยก อีกมือหนึ่งรับมันไว้ แล้วถามด้วยความสงสัย “นี่อะไร”
“นี่คือศาสตร์ลับเบื้องต้น หากเจ้าอยู่ในดินแดนผนึกมารแล้วมีเวลาว่างก็เปิดอ่านไปก่อน เมื่อเจ้าออกมา ข้าคอยสอนเจ้าอย่างละเอียด” คุนอู๋เอ่ย
เจียงหลีรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก นำม้วนหนังสือเข้าไปในกระเป๋าวิเศษอย่างไม่เกรงใจ
เสิ่นฉงและซีไหลกำชับอยู่ชั่วครู่ พวกเขาทั้งสามถึงจะส่งเจียงหลีออกจากตำหนักเย่าด้วยกันและเดินหน้าไปสมทบกับคนอื่นที่ห้องโถง

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์