“ความหน้าด้านนี้เจ้าได้แต่ใดมา”
น้ำเสียงอันเย็นชา ดังแว่วออกมากะทันหัน ทำให้ใบหน้าตื่นเต้นของจู๋เยี่ยนชาและกลายเป็นเย็นชาขึ้นทันที และไหวปี้ที่สิ้นหวังไปแล้วในตอนแรก แต่ในขณะที่ได้ยินเสียงนั้น สายตาก็ ปรากฏความหวังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
นางนั่นเอง!
ดวงตาของไหวปี้มีความดีใจเผยออกมา ความรู้สึกปลอดภัยโล่งใจที่ไม่เคยมีมาก่อนก็ออกจากหัวใจของนาง
ร่างของเจียงหลีปรากฏออกมาท่ามกลางแสงไฟ และเตะลงบนหน้าของจู๋เยี่ยนที่กำลังพุ่งเข้าหาไหวปี้อยู่อย่างจัง
ยังไม่ทันตั้งตัว จู๋เยี่ยนผู้เป็นหลิงหวังผู้นี้ กลับถูกเจียงหลีเตะจนกระเด็นลอยได้
ตั้งแต่เสียงแว่วออกมาจนเตะจู๋เยี่ยนจนกระเด็นนั้น เป็นเพียงชั่วพริบตา หลังจากนั้น เจียงหลีก็ลงมาอยู่หน้าไหวปี้และหันกลับไปยังนาง
เมื่อเห็นคนที่อยู่ตรงหน้า สายตาไหวปี้ก็เต็มไปด้วยความตื้นตันใจ ความอ่อนโยนและมีเสน่ห์ปรากฏขึ้นบนตัวนางอีกครั้ง “นับว่าเจ้ายังมีจิตสำนึกอยู่บ้าง”
น้ำเสียงที่ดูโกรธของนาง ทำให้เจียงหลีรู้สึกเย็นวาบ จนถอยหลังไปโดยมิทันตั้งตัว และรีบอธิบาย “ข้าก็แค่บังเอิญผ่านมาน่ะ”
นี่คือความจริง
ด้วยบุคลิกของเจียงหลี เมื่อเจอเรื่องเช่นนี้ นางจะเขาไปช่วยอย่างแน่นอนแม้ว่าจะไม่รู้จักคนๆ นั้นก็ตาม ที่นางเข้ามาช่วยเหลือไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายเป็นไหวปี้
เมื่อเห็นท่าทางรีบร้อนของนาง สายตาไหวปี้ก็เริ่มไม่พอใจ “เจ้าไม่อยากพบข้าขนาดนั้นเชียวอย่างนั้นรึ”
“ข้าบอกแล้ว ว่าอย่ามาใช้วิชาหว่านเสน่ห์บนตัวข้า” เจียงหลีกัดฟันเตือนอีกครั้ง
“ข้าไม่ได้ใช้นะ” ไหวปี้กล่าวอย่างน้อยใจ นั่นเป็นการแสดงออกอย่างจริงจัง ไม่ได้ใช้วิชาหว่านเสน่ห์เลยสักนิด ในขณะที่นางสิ้นหวังที่สุด เจียงหลีก็ออกตัวมาอย่างกะทันหัน บวกกับ บคำพูดของท่านอาจารย์ก่อนหน้านั้น จะให้นางคิดอย่างไร
ถึงแม้ นางก็ปวดหัวอยู่ไม่น้อย ที่ทำไมอัศวินม้าขาวของนางถึงเป็นหญิงสาวคนหนึ่งไปได้ล่ะ
เจียงหลีไม่อยากจะพัวพันกับนางต่อไป ยกมือขึ้นลบล้างพลังของจู๋เยี่ยนที่อยู่บนร่างของไหวปี้ ช่วยนางให้กลับสู่สภาพปกติ
ไหวปี้ขยับไหล่ไปครู่หนึ่ง จากนั้นสีหน้าก็เปลี่ยนไป ราวกับว่านึกเรื่องอะไรออก และมองไปยังเจียงหลีอย่างตื่นตระหนก “รีบไปกันเถอะ!”
นางหมกมุ่นอยู่กับความสุขที่ได้เห็นเจียงหลี จนลืมไปได้อย่างไรว่าเจียงหลีเป็นหญิงสาวที่งามกว่านางเป็นร้อยเท่าพันเท่า หากถูกจู๋เยี่ยนเห็นเข้าล่ะก็ ต้องนำเจียงหลีมา าพัวพันด้วยเป็นแน่
“อยากจะหนีอย่างนั้นรึ หนีไปได้อย่างนั้นหรือ หึๆ วันนี้โชคของข้าค่อนข้างดีนะ ถึงได้มีหญิงงามเข้ามาอีกคน” แต่เสียดายที่สุดท้ายนางก็ช้าไปก้าวหนึ่ง เสียงของจู๋เยี่ยนก็ดั งออกมาแล้ว
ที่เจียงหลีเตะไปรอบหนึ่งนั้น ถึงแม้จะทำให้เขากระเด็น แต่กับหลิงหวังแล้ว ไม่ได้เป็นอะไรมากเลย ยิ่งไปกว่านั้น เขาชอบหญิงสาวที่แข็งแกร่งและรุนแรงเช่นนี้แหละ
ยิ่งแบบเจียงหลีก็ยิ่งครบรส ยิ่งสามารถกระตุ้นความสนใจของเขาได้มากขึ้น
จากนั้น ขณะที่เจียงหลีหันไปมองเขานั้น ดวงตาของจู๋เยี่ยนก็เบิกกว้างขึ้นมาทันที พร้อมกับกลั้นหายใจ
งาม! งามเหลือเกิน!
เจียงหลีและไหวปี้ยืนอยู่พร้อมกัน แต่ไหวปี้ที่เขารู้สึกงดงามและหอมหวานเมื่อครู่นั้น กลับหายไปจากสายตาของเขาทันที ตอนนี้ในสายตาของเขามีเพียงเจียงหลีผู้เดียว
สายตาที่มองนางนั้น ไม่เพียงแต่รู้สึกตะลึง แต่ยังเป็นความรู้สึกเหมือนกำลังมองสมบัติล้ำค่าที่หาที่เปรียบไม่ได้อยู่อย่างไรอย่างนั้น
ดวงตาที่ดูหมิ่นเหยียดหยามของเขา ทำให้เจียงหลีขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ และแววตาของนางก็เฉยเมยทันที
“เขาเป็นจอมภูตของสำนักหลีหุนจง ฐานะเหมือนกับเจ้าที่เป็นศิษย์ตำหนักเย่าแห่งฮวงเสินนั่นแหละ และเพิ่งเลื่อนขั้นไปเป็นหลิงหวังเมื่อไม่นานมานี้” ไหวปี้พูดอย่างตื่นตระหนกอยู่ ข้างๆ เจียงหลี
หากเจียงหลีถูกจู๋เยี่ยนดูหมิ่นเหยียดหยามเพราะนางล่ะก็ นางยอมไม่ให้เจียงหลีปรากฏตัวดีกว่า
จอมภูตอย่างนั้นรึ
ดวงตาของเจียงหลีหรี่ลงครู่หนึ่ง แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองมากนัก
ส่วนหลิงหวังนั้น…ก่อนหน้าที่ยังไม่ได้เข้าฮวงเสิน นางก็ฆ่าคนที่เป็นหลิงหวังมาสามปีผ่าน แล้วนางจะไปเกรงภูตผีกระจอกที่อยู่ตรงหน้านี้ได้อย่างไร
“ก่อนหน้านั้น เมื่อตอนอยู่นอกดินแดนผนึกมารนี้ เพราะระยะห่างกันมาก จู๋เยี่ยนเลยไม่ทันสังเกต ที่แท้ศิษย์คนใหม่ของตำหนักเย่าแห่งฮวงเสินนั้นก็เป็นหญิงสาวผู้เลอโฉมจนหาที สุดมิได้นี่เอง พอเข้ามาในดินแดนผนึกมาร สถานการณ์ก็แย่นัก แถมข้าก็มิทันสังเกตเห็นหญิงงามผู้นี้จนเกือบจะพลาดพรหมลิขิตกับนางเสียแล้ว นี่เป็นความผิดของข้า” จู๋เยี่ยนหรี ตาลงอย่างลามก น้ำเสียงช่างดูชั่วช้าสามานย์

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์