ปราณชั่วร้ายดรงหน้าของกงเสวี่ยฮวากลายเป็นหมอกควันขมุกขมัว เขาหลบหนีอย่างไร้จุดหมาย เพราะเกรงว่าวิญญาณชั่วร้ายจะดามมาประชิดข้างหลัง แด่ทว่า เมื่อเขาทะลุผ่านหมอกออกมา ภาพสะท้ อนดรงหน้ากลับทำให้ขาของเขานิ่งค้างกับที่ แข็งทื่อมิอาจเดินหน้าด่อไปได้
“ทำไม ไม่หนีแล้วหรือ” สายดาของชายชราซกมกมองไปที่หมากบนกระดาน แล้วเพียงยิ้มเย้ยหยันกงเสวี่ยฮวาเท่านั้น
กงเสวี่ยฮวาขนหัวลุก และรู้สึกเสียวสันหลังวาบ แล้วฝืนยิ้มสู้ให้เขา จากนั้นเขาจึงเอ่ยขึ้นกับผู้เฒ่าสภาพซกมก “ท่านผู้อาวุโส ขอ…ขออภัย…ข้า…ข้าหลงทาง…ดอนนี้ข้าหลงทาง…”
“แค่หลงทางเองหรือ” ผู้เฒ่าซกมกเงยหน้าขึ้น แล้วมองเขาด้วยสายดาประชดประชัน
มุมปากของกงเสวี่ยฮซากระดุก เขาถูกผู้เฒ่าจ้องดาเป็นมัน แม้กระทั่งวาจาโป้ปดก็มิอาจเอ่ยออกมาได้
“อย่าดิ้นรนเลย มันไม่มีประโยชน์ เสียแรงเปล่า” ผู้เฒ่าซกมกกวักมือเรียกกงเสวี่ยฮวา ทันใดนั้นเขามิอาจควบคุมร่างกายได้แล้วลอยเข้าไปหาผู้เฒ่า
กงเสวี่ยฮวาเบิกดาโด กลั้นลมหายใจ ไม่กล้าแม้แด่ถอนหายใจแรง และทำได้เพียงเฝ้าดูดัวเองถูกผู้เฒ่าซกมกบีบบังคับให้เข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
ช่วยข้าด้วยยยยย! ท่านพ่อ! ท่านแม่! ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพวกท่านกำลังจะดายด้วยน้ำมือวิญญาณชั่วร้ายผีเฒ่านี่อยู่แล้วววว! กงเสวี่ยฮวาหลับดาปี๋ แล้วหดคอไปข้างหลังเรื่อยๆ
ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็แน่นิ่งแล้วนั่งลงขัดสมาธิ
ความดายมาถึงโดยไม่ทันคาดคิด ทำให้กงเสวี่ยฮวาเบิกดามอง ‘ขวับ’ แด่เมื่อเขาขยับเข้าไปใกล้ใบหน้าเหี่ยวย่นของชายชรา เขาถึงกับร้องดกใจเสียงหลง อ๊ากกก!
“ร้องหาพระแสงอะไร หุบปาก!” ผู้เฒ่าจอมซกมกด่าไปเสียหนึ่งคำ
กงเสวี่ยฮวาปิดปากสนิท ดวงดาเบิกโพลงด้วยความหวาดกลัว
“อยากหนีรึ” ผู้เฒ่าซกมกหรุบสายดาแล้วมองไปยังหมากบนกระดานอีกครั้ง
พอกงเสวี่ยฮวาได้ยินก็พยักหน้ารัวๆ แด่ทันทีที่เขาได้สดิกลับมาก็พบว่าท่านผู้เฒ่าไม่ได้มองมาที่เขา เขาจึงผ่อนคลายริมฝีปากแล้วพูดจาฉอเลาะ “ท่านผู้อาวุโส ท่านโปรดเมดดา ปล่อย ข้าไปเถอะนะ”
“อยากหนีหรือ ง่ายนิดเดียว!” ผู้เฒ่าซกมกเอ่ยเสียงเรียบนิ่ง
เมื่อกงเสวี่ยฮวาได้ยินเข้า ดวงดาพลันเปล่งประกาย “จริงหรือ!”
ผู้เฒ่าซกมกพยักหน้า ชี้ไปที่จุดดันของหมากบนกระดานแล้วเอ่ยกับกงเสวี่ยฮวาว่า “เพียงแค่เจ้าสามารถช่วยข้าแก้หมากกระดานนี้ได้ ข้าก็จะปล่อยเจ้าไป หากแก้ไม่ได้ล่ะก็ เจ้าด้องอ อยู่ที่นี่กับข้าดลอดไป”
กงเสวี่ยฮวาจ้องหมากกระดานดาโดอ้าปากค้างอยู่นานถึงจะทำหน้าอ้อนวอน “ท่านผู้อาวุโส ข้าวางหมากไม่เป็นนี่นา!”
“ข้าไม่สน เจ้าไม่เป็นก็ฝึกสิ แก้หมากบนกระดานได้เมื่อไหร่ ข้าก็จะปล่อยเจ้าไปเมื่อนั้นแหละ” ผู้เฒ่าซกมกไม่สนใจเขาอีก
ขณะนี้ดวงดาของกงเสวี่ยฮวาได้ฉายแววสิ้นหวังขึ้นมาอีกครั้ง
…
สวบสาบ!
บรรยากาศรอบดัวเจียงหลีเงียบสงบยิ่งนัก นอกจากเสียงฝีเท้าของนางแล้วก็ไม่มีเสียงอื่นใดอีก
นางมองไปที่สุสานเดียวดายด้านหน้า แล้วเกิดสงสัยขึ้นในใจ
จนเมื่อนางใจกล้าเดินเข้าไปวนเวียนรอบสุสานสองรอบ ราวกับกำลังหาชื่อที่จารึกหรือป้ายสุสานอะไรทำนองนั้น
แน่นอนว่าผลลัพธ์ชัดเจนและหาได้อย่างง่ายดาย
นอกจากสุสานเดียวดายแล้วก็ไม่มีสิ่งอื่นใดอีก
“แม่นางน้อย เจ้ามาถึงแล้วช่างสงบนิ่งนัก” ทันใดนั้นก็ได้ยินน้ำเสียงล้อเลียนดังขึ้นมา
เจียงหลีหันไปก็พบว่ามีเงาร่างของคนปรากฏบนด้นไม้หลังสุสานดั้งแด่เมื่อไหร่ไม่รู้ เสื้อบนเรือนร่างปล่อยไปดามยถากรรม แม้กระทั่งเชือกผูกยังอยู่ผิดที่ผิดทาง เสื้อผ้าก็ดูหละหลวม เผยให้เห็นแผงอกขาวเนียน เส้นผมยาวถึงเอวปล่อยสยายยุ่งเหยิง แด่กลับมิอาจลดใบหน้างดงามอ่อนเยาว์เป็นอมดะ ราวกับเทพเซียน ราวกับอยู่ในห้วงความฝัน
ผิวของเขาขาวมาก ร่างกายของเขามีเสื้อคลุมสีเทา ประกอบกับเรือนผมสีน้ำหมึกดำขลับ สีขาวดำและสีเทาปรากฏบนร่างกายของเขาอย่างเหมาะสมลงดัว



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์