“ฮ่าๆๆ ! เป็นของดีแท้! ศิษย์น้องเล็ก เจ้าอยากได้แรดตัวนี้หรือไม่” คุนอู๋หัวเราะ
ปัง!
แรดพุ่งออกมาและชนกับต้นไม้ใหญ่ข้างๆ ที่ทั้งสองหลบซ่อนอยู่ ทันใดนั้น คลื่นกระแทกแพร่กระจายไปทั่วบริเวณโดยรอบ โดยมีแรดเป็นจุดศูนย์กลาง
“ช่างดุร้ายอะไรเช่นนี้!”
ขณะที่คุนอู๋พูดอยู่นั้น ร่างส่องแสงกะพริบหลายหน เขาได้พาเจียงหลีอยู่ห่างจากบริเวณที่สั่นสะเทือน
ต้นไม้ทั้งหมดที่อยู่ในระยะของคลื่นกระแทกนั้น แตกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นเศษชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจายเต็มพื้น ซึ่งแม้แต่พื้นดินก็ทรุดตัวลงส่วนหนึ่ง ภาพตรงหน้า ทำให้รู้สึกตกตะลึง งมากเหลือเกิน
“แรดหรือ” เจียงหลีตะลึงกับพลังและความบ้าคลั่งของแรดตัวนั้น
“แรดอยู่ในอันดับที่เจ็ดของรายชื่อสัตว์ดุร้าย” คุนอู๋อธิบาย
เจียงหลีเดิมทีสนใจในแรดตัวนี้ ก็หมดความสนใจไปในทันใด นางส่ายศีรษะ มองไปยังแรดที่บ้าคลั่งด้วยรอยยิ้มว่า “เลี่ยเทียนซื่อของข้าอยู่ในอันดับที่ห้าของรายชื่อสัตว์ดุร้าย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงวานรกลืนเวหาที่อยู่ในอันดับที่สอง เหตุใดข้าเข้าสู่อาณาเขตหวัง ระดับหลิงหวัลแล้ววิญญาณยุทธ์มีระดับลดลง แบบนี้ไม่ได้”
“ความกระหายของศิษย์น้องเล็กไม่น้อยเลย! วิญญาณยุทธ์ขั้นหนึ่งมีน้อยมาก ตอนนี้โชคดี พบเจออยู่ตรงหน้าหนึ่งตัว เจ้ากลับรังเกียจมัน” คุนอู๋หรี่ตามองและพูดติดตลก
ถึงจะพูดออกไปเช่นนั้น แต่ไม่ได้จะตำหนิจริงๆ
เจียงหลีโค้งริมฝีปากยิ้ม ถือว่ายอมรับคำพูดของคุนอู๋ที่ว่านางรังเกียจแรดนั่น
อันที่จริง ไม่ใช่ว่าแรดไม่แข็งแรงพอ ในบรรดาวิญญาณยุทธ์จำนวนมาก สามารถเบียดเข้าไปอยู่ในสิบอันดับแรก กลายเป็นวิญญาณยุทธ์ขั้นแรก ได้พิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของแรดแล้ว
เพียงแต่เจียงหลีโชคดีไม่น้อย นับตั้งแต่ฝึกฝนมา นางประสานเข้ากับวิญญาณยุทธ์ขั้นแรกมาโดยตลอด ดังนั้น ความต้องการของนางจึงสูงขึ้นโดยปริยาย
คุนอู๋ก้มศีรษะ ไตร่ตรองอย่างหนัก และขมวดคิ้วเอ่ย “ตัวเดียวที่สอดคล้องกับความต้องการของเจ้า ก็มีเพียงสัตว์ดุร้ายในอันดับที่หนึ่งแล้วล่ะสิ”
เจียงหลีมองมาที่เขาอย่างประหลาดใจ ในดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวัง
“เทียนหยา”
ขณะที่คุนอู๋พูดชื่อนี้ขึ้น เจียงหลีรู้สึกถึงเนตรญาณที่ห้าสั่นไหว
“โดยปกติแล้ว สัตว์ดุร้ายมีพลังโจมตีรุนแรงกว่าสัตว์เทพอยู่บ้าง และสัตว์เทพ น่าจะเพราะคำว่า ‘เทพ’ ที่ลดทอนความสามารถลง ดังนั้น สัตว์ที่อยู่ในรายชื่อจึงมักจะเป็นวิญญาณยุทธ์ ประเภทช่วยเหลือ หรือประเภทป้องกันเท่านั้น เพราะในด้านของการโจมตี ยากที่จะต่อกรกับสัตว์ดุร้ายได้” คุนอู๋อธิบาย
“นั่นก็คือเทียนหยาแล้วล่ะ” ดวงตาของเจียงหลีเป็นประกายด้วยความทะเยอทะยานที่จะได้มาครอบครอง
คุนอู๋ตกตะลึงครู่หนึ่งและหัวเราะลั่นออกมา “เจ้าคิดว่าอาณาเขตหลิงอู่บ้านของเจ้าเป็นคนเปิดหรือ อยากได้วิญญาณยุทธ์ตัวไหน ล้วนต้องถวายตัวถึงที่อย่างนอบน้อม”
“คงจะดีไม่น้อยหากอาณาเขตหลิงอู่เป็นของข้าจริงๆ ถึงตอนนั้นศิษย์พี่สามอยากได้วิญญาณยุทธ์ตัวใด ข้าจะถวายมันด้วยสองมือของข้าเอง” เจียงหลีพูดติดตลกตามเขา
โฮกกก!
ทันใดนั้น เสียงคำรามจากแรดดังขึ้น
มีร่างคนหนึ่งคนแย่งชิงมันจากระยะไกล
เจียงหลียักคิ้ว “ดูเหมือนว่าแรดตัวนี้จะถูกชิงตัดหน้าไปก่อนแล้ว”
“แล้วอย่างไรเล่า หากศิษย์น้องเล็กชอบมัน แม้จะจะถูกจับจองไว้แล้ว ข้าก็จะช่วยเจ้าแย่งชิงมันมาให้ได้” คุนอู๋กลับพูดอย่างดุดัน
เจียงหลีโค้งริมฝีปากยิ้ม “ขอบคุณศิษย์พี่สามมาก”
“ยินดี ยินดี” คุนอู๋ยิ้มอย่างสดใสจนดวงตาเป็นประกาย
ร่างคนที่ไล่จากระยะไกลตกลงมาจากท้องฟ้า และทันทีที่ยืนทรงตัวได้แล้ว ได้เข้าโจมตีแรดตัวนั้น และต้องการเอาชนะมัน แต่นิสัยของแรดก็ไม่เบาเลย เมื่อเห็นคนเข้าใกล้ มันส่งเสี ยงคำรามด้วยความโกรธ ดวงตากลมโตสีทองแดงเผยอารมณ์โกรธนั้นออกมาให้เห็น
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว แรดและคนๆ นั้นต่อสู้อย่างดุเดือด
วิญญาณยุทธ์ของอาณาเขตหลิงอู่แตกต่างจากวิญญาณยุทธ์ในลูกเก็บวิญญาณ พูดง่ายๆ คือ ตัวแรกยังไม่ได้รับการฝึกให้เชื่อง จึงยังมีความดุร้ายที่ดิบเถื่อนอยู่ และยิ่งแข็งแกร่งมากเ เท่าใด ความดิบเถื่อนก็มีมากเท่านั้น ส่วนวิญญาณยุทธ์ในลูกเก็บวิญญาณ ล้วนถูกจับมาฝึกกันทั้งนั้น หรือใช้การบังคับวิธีอื่น จับมันขังไว้ในลูกเก็บวิญญาณ และให้มันอยู่ในสภาพท ที่กึ่งหลับกึ่งตื่น การประสานกับเจ้าของ จึงเป็นวิถีของการหลุดพ้น ทำให้เชื่องกว่ามาก”


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์