คนทั้งสามตกตะลึงเมื่อเห็นเจียงหลีอุ้มเจ้าเปี๊ยกสุดน่ารักและขนฟูออกมาจากกระเป๋าวิเศษ
หลิงหวงสองคนหัวเราะเสียงดังขึ้นมาในทันที
แต่ผู้อาวุโสสี่นั้น สนใจแต่เพียงเจียงหลีเท่านั้น แล้วจะสนใจว่าเจ้าเปี๊ยกที่นางอุ้มออกมาคือตัวอะไรได้อย่างไร คนมีความรู้ความเข้าใจอย่างเขา ก็คงจดจำสุดยอดเดรัจฉานในบรรพกาล ลไม่ได้
เจ้าเปี๊ยกที่โดนอุ้มออกมา เมื่อลืมตาสีอ่อนอันเป็นประกายมองชายอัปลักษณ์ทั้งสามที่จดจ้องเจียงหลีด้วยดวงตาเคร่งครึม
แววตาดูเยือกเย็นขึ้นอย่างรวดเร็ว
“คนสวย เจ้าอุ้มสัตว์เลี้ยงน่ารักออกมา เพื่อนำออกมาเล่นตลกหรือ” ผู้อาวุโสสี่หยอกล้อและมองไปทางเจียงหลี ซึ่งดวงตาคู่นั้นของตาแก่แสดงออกถึงความคิดสกปรก
เจียงหลีโค้งริมฝีปากยิ้ม ลูบไปที่ขนของเจ้าเปี๊ยก และเอ่ยอย่างเย็นชา “มันไม่ได้มาเพื่อสร้างความตลกขบขัน”
ใช่ ข้ามาเพื่อฆ่าคน
แววตาของเจ้าเปี๊ยกมีแต่ความเยือกเย็น แสดงให้เห็นว่าตอนนี้เขาดูไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง
“แล้วเอามาทำอะไร” สายตาของผู้อาวุโสสี่ยิ่งดูยั่วเย้ามากขึ้น
เจียงหลียิ้มกว้างขึ้น “มาฆ่าคน”
ฆ่าคนหรือ
ทั้งสามตกตะลึงและหัวเราะเสียงดังอีกครั้ง เสียงหัวเราะนั้นแฝงไปด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ยและดูสะใจยิ่งนัก ราวกับว่าสิ่งที่เจียงหลีพูดนั้นเป็นเรื่องตลกก็ไม่ปาน
“คนสวยนะคนสวย ข้าว่าเจ้าอย่ามาเจ้าเล่ห์กับข้า สู้พวกเรามาเล่นอย่างอื่นกันดีกว่า” ผู้อาวุโสสี่เขยิบเข้าใกล้เจียงหลี
เจียงหลีมองเห็นสิวบนจมูกอย่างชัดเจน
แต่เจียงหลีกลับกอดเจ้าเปี๊ยกที่จะหนีออกจากอ้อมกอดแน่นขึ้นอีก ยิ้มงดงามประดุจดอกไม้ แล้วเอ่ย “เล่นอะไรหรือ”
คำตอบของเจียงหลี ทำให้ใจของผู้อาวุโสสี่เหมือนโดนกระตุ้น ทำให้ยิ่งคันเนื้อคันตัวขึ้น เขามองไปรอบๆ พูดจาคลุมเครือกับเจียงหลี “ที่นี่นอกจากพวกเราสี่คนก็ไม่มีใครอยู่ พวกเราม มาทำอะไรที่มีความสุขกันดีไหม เจ้าสบายใจได้ ในอาณาเขตหลิงอู่นี้ไม่ใช่โลกแห่งความจริง หลังจากออกไป หากเจ้ายังคิดถึงข้าก็สามารถมาหาข้าได้ที่สกุลจงซานแห่งตงฮวงได้”
แววตาของเจียงหลียิ่งดูเยือกเย็นขึ้นและแววตาของเจ้าเปี๊ยกที่อยู่ในอ้อมอกนางดูตึงเครียดราวกับปรากฏจิตสังหารอย่างแท้จริงขึ้น
คนที่ใจจดใจจ่ออยากสร้างตำนานรักกับเจียงหลีอย่างผู้อาวุโสสี่กลับมิได้สังเกตเห็นสิ่งเหล่านี้
หลังจากที่เขาพูดออกมา หลิงหวังทั้งสองยังร่วมกันหัวเราะ การกระทำนี้เช่นนี้ต้องใช้คำว่า ‘เสื่อมทราม’ มาอธิบาย สายตาของพวกเขาแสดงออกถึงการล่วงละเมิด ราวกับกำลังใช้สายตาถอดเสื้อผ ผ้าของเจียงหลีออกทีละชิ้น จินตนาการถึงร่างกายที่งดงามและเย้ายวนของนาง พร้อมกับทำท่าโยกย้ายไปมาอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
โฮกกก!
ใครทนได้แต่เจ้าเปี๊ยกทนไม่ได้!
เจ้าเปี๊ยกที่บ้าคลั่ง ดิ้นหลุดออกจากอ้อมอกของเจียงหลี วิ่งโผไปทางที่ผู้อาวุโสสี่ยืนอยู่
เจ้าเปี๊ยกที่น่าสงสาร กลับไม่สนใจเจียงหลีที่ยืนคงริมฝีปากขึ้นอยู่ด้านหลัง ยิ้มเหมือนแผนการที่วางไว้สำเร็จแล้ว
ดวงตาเปล่งแสงสีขาว ร่างกายที่ดูอ่อนนุ่มของเจ้าเปี๊ยกได้กลายร่างขนาดใหญ่ขึ้นในทันที จากนั้นลมปราณอันน่าสะพรึงกลัวก็ได้บังเกิดขึ้น
ตูม!
เหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ผู้อาวุโสสี่โดนเจ้าเปี๊ยกกระโจนเข้าหาถึงกับล้มลง เขาไม่ทันได้ตอบโต้ก็เห็นว่าเจ้าเปี๊ยกยกกรงเล็บ ตะครุบไปที่ร่างกายจนตัวเขาลอยขึ้น
ร่างของผู้อาวุโสสี่เหมือนดาวตกที่ตกไปยังสถานที่ไกลแสนไกล
และในเวลานั้นเจ้าเปี๊ยกหันไปมองทางหลิงหวังโง่เง่าทั้งสอง ตัวอะไรกันแน่ เมื่อครู่ยังตัวกลมขนปุกปุยอยู่ แต่ทำไมถึงกลายร่างเป็นสัตว์ที่ยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งเช่นนี้
โฮกกก!
เจ้าเปี๊ยกส่งเสียงคำราม กรงเล็บเหยียบไปที่พื้นอย่างดุร้าย
ดวงตาของหลิวหลีเยือกเย็นนัก หนวดสีแดงสองเส้นที่สันคิ้วปลิวไสว ทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น
หึ่ง!
เมื่อเจ้าเปี๊ยกก้าวเท้า บนพื้นดินจู่ๆ ก็ปรากฏค่ายกลโบราณสีทองขึ้น ราวกับเป็นเสียงร้องคำรามที่มาจากโบราณกาล เมื่อปรากฏขึ้น เสียงดังกึกก้องทั่วทุกสารทิศ
เจียงหลียืนอยู่ที่เดิม ฟังเสียงร้องอันโบราณนี้ ราวกับรู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนของพื้นดิน
ในเวลานั้น เห็นเงาคนจากระยะไกลกำลังใกล้เข้ามา คือเงาของผู้อาวุโสสี่ที่เมื่อชั่วครู่โดนโจมตีอย่างไม่ทันตั้งตัวจนลอยออกไปไกล

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์