แต่น่าเสียดาย ไม่มีใครในที่นี้รู้สึกสงสารนาง
“เวรกรรมอย่างนั้นหรือ” เสียงหลีสบถ นางชักจะหมดความอดทนกับคนอย่างนางเหอซื่อ หน้าเลือดเห็นแก่ตัว อีกทั้งยังพูดเสียจนตัวเองดูบริสุทธิ์
เจียงหลีเดินส่ายไปมาต่อหน้าสองแม่ลูกแล้วยกยิ้มมุมปาก นางโน้มตัวลงมามองพวกนาง “นางเหอซื่อเงยหน้าขึ้นใช้ตาสุนัขของเข้ามองให้ชัดๆ ด้วยล่ะ ว่าข้าคือคนที่กลัวเวรกรรมหรือไม่”
“เจ้า!” นางเหอซื่อเงยหน้าขึ้นมองนางด้วยความตื่นตระหนก
ในที่สุดก็ดูเหมือนนางจะยอมรับแล้วว่าเจียงหลีเปลี่ยนไป
หลังจากที่นางเด็กคนนี้ถูกขายออกไปก็มีพิษสงรุนแรงกว่าแต่ก่อนมากแล้วจิตใจยังโหดเ**้ยมยิ่งกว่า
“เจ้าจะลงมือกับพวกข้าจริงๆ หรือ” นางเหอซื่อเอ่ยออกมาน้ำเสียงสั่น
เจียงหลีเผยรอยยิ้มเหยียดหยัน “ตอนแรกข้าก็ไม่อยากเปลืองแรงฆ่าพวกเจ้าหรอกนะ ก็แค่หนอนเน่าไม่กี่ตัว แต่ยังเกะกะสายตาข้าไปมาอีก จะหาว่าข้าใจร้ายไม่ได้ เช่นนี้ให้ข้าบีบให้ตายไปเสียยังดีกว่า”
“ไม่…ข้าไม่อยากตาย…ท่านแม่ ข้าไม่อยากตาย…” เจียงอวี๋ที่ร้องไห้ตกใจจนหน้าขาวซีดจนสิ้นสติดึงแขนเสื้อนางเหอซื่ออย่างไม่คิดชีวิต
“หุบ…หุบปาก!” เมื่อเจียงอวี๋โวยวายจนทำให้สมาธิแตกกระเจิง นางจึงรีบเอ็ดตะโรแล้วจับมืออันสั่นเทาของบุตรสาวเอาไว้แน่น มองเจียงหลีด้วยแววตาดุดัน “เจียงหลี ถ้าหากเจ้าฆ่าพวกข้า เจ้าจะเป็นคนบาปฆ่าคนในตระกูล”
เจียงหลีส่ายหน้ายิ้มอ่อนชื่นชมสีหน้าตื่นกลัวของสองแม่ลูก
จะว่าไปความแค้นของสองแม่ลูกอยู่ที่เจ้าของร่างเดิม แต่ใครใช้ให้นางมาเป็นเจียงหลีคนนี้ล่ะ
“คนบาปอย่างนั้นหรือ นางเหอซื่อ เจ้ากล้าพูดต่อหน้าท่านแม่ของข้าหรือไม่ ว่าเจ้าทำอะไรไว้บ้าง” เจียงหลีชี้ไปป้ายชื่อบนหลุมศพแล้วหัวเราะขึ้นเบาๆ “หลังจากที่ท่านแม่ข้าจากโลกนี้ไป เจ้าสั่งสอนให้เจียงอวี๋มายั่วยวนเย่ว์หนานซี คิดจะทำการสับเปลี่ยนคู่สมรสของข้า ทั้งยังเจตนาใส่ร้ายความผิดหาว่าข้าเป็นขโมย เอาข้าไปขายเป็นทาสถูกทำร้ายทารุณนับร้อยครั้ง สิ่งที่เจ้าทำไปทั้งหมด มีตรงไหนหรือที่คู่ควรมีหน้าไปเจอบรรพบุรุษของตระกูลเจียง”
นางเหอซื่อถูกเจียงหลีต่อว่าเสียจนสีหน้าทนดูไม่ได้ วาจาเฉียบคมของเจียงหลีทำให้นางเถียงไม่ออก
สายตาเหยียดหยันของเจียงหลีมองไปที่ไหล่สั่นเทิ้มของเจียงอวี๋ “เจ้าต้องการให้ลูกของเจ้าไต่เต้าขึ้นสูง แม้จะทำสำเร็จแต่ก็ยังดันทุรังไม่ลืมเหยียบย่ำข้าจนจมดิน เจ้ายังเห็นว่าเป็นเข็มคอยทิ่มตำตาเจ้าอยู่แล้ว เป็นไปได้หรือที่ข้ายังต้องไว้หน้าเรียกเจ้าว่าอาสะใภ้อีก”
คำด่าอันเจ็บแสบของนางทำให้ลู่เจี้ยที่นั่งในรถม้าได้ยินสิ่งที่น่าสนใจนัก
เขายกมือขึ้นเลิกมุมผ้าม่านรถม้าอยากจะดูให้เห็นกับถึงท่าทางแสดงอำนาจของเด็กสาว
แน่นอนว่าเมื่อเขายกม่านของรถขึ้นเจียงอวี๋ที่กำลังนั่งร้องไห้อยู่บนพื้นก็เงยหน้าขึ้นและเห็นความงามที่โดดเด่นผ่านช่องว่างของม่าน
ตึง!
เจียงอวี๋สมองขาวโพลนไปชั่วขณะ
คนรูปงาม บนโลกนี้ยังมีผู้ชายที่งดงามขนาดนี้เชียวหรือ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาเจียงอวี๋ก็รู้สึกว่าตัวเองด้อยเหลือเกิน
ราวกับว่าเขาสูงส่งที่คนเดินดินมิสามารถดูหมิ่นได้
เขาก็คือนายน้อยตระกูลลู่ ล่ำลือว่ารูปงามอันดับหนึ่งในโลก เจียงหลี! เจียงหลีทำไมเจ้าถึงมีบุญวาสนาเช่นนี้ ไม่มีเย่ว์หนานซีแล้วแต่กลับได้รับใช้บุคคลสูงส่งเช่นนี้อย่างนั้นหรือ
เจียงอวี๋จ้องความงดงามอย่างหลงใหล ความอิจฉาริษยาในใจพุ่งพล่าน
ตอนนี้นางต้องการจะแทนที่เจียงหลีจริงๆ!
“เจียงหลีปล่อยพวกข้าไปเถอะ ข้าสัญญาว่าจะไม่มาให้เจ้าเห็นหน้าอีก เห็นแก่อาและพี่ชายของเจ้าที่ตายไป เจ้าไว้ชีวิตพวกเราสองแม่ลูกเถอะนะ” นางเหอซื่อลนลาน
นางค้นพบว่าเจียงหลีคนนี้ไม่ใช่เจียงหลีผู้อ่อนโยนคนเดิมที่นางรู้จัก นางเห็นว่าเจียงหลีฆ่าเย่ว์หนานซีกับตาตัวเอง นางฆ่าคนได้ นางไม่ได้มาเล่นๆ
เจียงหลีด่าจนสาแก่ใจ ทันใดนั้นหางตาเหลือบไปเห็นฉากที่เจียงอวี๋กำลังจ้องรถม้าอย่างหลงใหล
ขณะนั้นเองความไม่พอใจก็ปะทุขึ้นมาจากส่วนลึกของหัวใจ
นางขยับไปบังสายตาของเจียงอวี๋ มองด้วยสายตาข่มขู่น่ากลัว “ถ้ายังจ้องอีกข้าจะควักลูกกะตาเจ้าออกมา”
สติของเจียงอวี๋กลับคืนสีหน้าหวดผวาแล้วตะโกนไปทางรถม้า “นายน้อยลู่ ช่วยอวี๋เอ๋อร์ด้วย”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์