“คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเด็กสาวที่มีพรสวรรค์!”
“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว ป้ายที่ได้รับเลือกจากสถาบันไป๋หยวน ล้วนเป็นสิ่งที่ศิษย์เอกอัจริยะทั้งเจ็ดส่งมอบออกไป ในมือทุกคนมีเพียงสิบแผ่น คนธรรมดาทั่วไป จะสามารถเข้าตาพวกเขาได้หรือ”
“กล่าวได้ว่า เจ้าโจวเย่าจู่เตะโดนแผ่นเหล็กแล้วงั้นหรือ”
“……”
เสียงกระซิบโต้แย้งที่ลอยมาจากรอบทิศ ทำให้โจวเย่าจู่โกรธจนแดงก่ำไปทั้งหน้า
เจียงหลียิ่งยิ้มสดใสแพรวพราวกว่าเดิม ยิ่งทำให้แก้มของเขายิ่งร้อนระอุขึ้นไปอีก!
“เหมือนโดนตบหน้าเลยใช่หรือไม่ เจ็บมากไหม ตราบใดที่มีโจวเย่าจู่ ข้าก็ไม่มีวันได้ก้าวขาผ่านประตูใหญ่แห่งสถาบันไป๋หยวนเลยงั้นหรือ” น้ำเสียงเนือยๆ ของเจียงหลี แต่เต็มไปด้วยความขี้เล่น
คำพูดของนาง คมดั่งมีดที่ทิ่มแทงบนร่างของโจวเย่าจู่
“เจียงหลี! เจ้าขโมยป้ายจากที่ใดมา!” โจวเย่าจู่ตะโกนถามด้วยความกังวล
แน่นอน ฟังคำพูดที่หลอกลวงตัวเองของเขา ผู้คนมองไปที่เขาราวกับมองคนปัญญาอ่อนก็ไม่ปาน ขโมยมางั้นหรือ ศิษย์เอกอัจริยะทั้งเจ็ดมอบป้ายให้กับผู้ใด พวกเขาจะไม่รู้งั้นหรือ ผู้ใดเล่าจะกล้าขโมย ถึงแม้ว่าจะขโมย แล้วเข้าไปที่สถาบันไป๋หยวน นั่นไม่ได้เป็นการรนหาที่ตายหรอกหรือ
โจวเย่าจู่ออกความคิดนี้อย่างรีบเร่งเพื่อต้องการกอบกู้หน้าของตน กลับกลายเป็นพูดในสิ่งที่ไม่มีสาระเช่นนี้ออกมา!
เจียงหลีค่อยๆ ส่ายหัว กล่าวด้วยความเวทนา “โจวเย่าจู่เจ้าช่วยรักษาหน้าให้พ่อเจ้าหน่อยได้ไหมเล่า โตเช่นนี้แล้วแต่กลับพูดอะไรที่หาสาระไม่ได้ออกมา เจ้าทำให้บิดาของเจ้าต้องขายหน้า”
เขาอยากใช้กำลังในการแก้ไขปัญหา แต่ราบกับค้นพบอะไรบางอย่างที่น่าเศร้า ดูเหมือนตัวเขาเองจะไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเจียงหลี!
เพราะเหตุใด ทำไมเจียงหลีถึงแข็งแกร่งขึ้นมาได้มากเช่นนั้น
ภายในใจของโจวเย่าจู่มีความสั่นกลัว
“โจวเย่าจู่ต่อจากนี้เจ้าอย่ามายั่วยุข้าอีก มิเช่นนั้น ไม่ว่าเจ้าจะมีอีกสักกี่หน้า ก็ไม่เพียงพอให้ข้าตบเล่น” เจียงหลียิ้มมุมปาก แต่รอบยิ้มนั้นเยือกเย็นไร้ที่ติ
หลังจากที่นางเตือนเขาด้วยรอยยิ้มแล้ว เจียงหลีหันหลังกลับ เดินไปท่ามกลางสายตาของผู้คน แล้วเดินไปทางซ้าย
เรื่องราวที่เกิดขึ้นทางด้านนี้ ได้สร้างความตกใจให้กับผู้คนที่อยู่ในสถาบันไป๋หยวนตั้งแต่ต้น
เพียงแต่ ขอแค่ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรใหญ่โต ความบาดหมางส่วนตัวเช่นนี้ พวกเขาจะไม่เข้ามายุ่ง
ขณะที่เจียงหลีเดินไปถึงหน้าผู้ตรวจสอบ ยื่นป้ายในมือให้กับเขาแล้ว คนผู้นั้นรับไปและมองอย่างถี่ถ้วน ชั่วขณะหนึ่ง เขาหรี่ตามองด้วยความสงสัย แล้วมองเจียงหลีอย่างตกตะลึงปราดหนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วค่อยๆ โค้งคำนับให้นางทีหนึ่ง
สิ่งนี้ สำหรับผู้ที่อยู่ไกลนั้น อาจจะเห็นไม่ชัดเจนสักเท่าไหร่ แต่ทว่า เจียงหลีกลับเห็นได้อย่างชัดเจน
“ที่แท้ก็เป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ถูกเลือกจากท่านอาจารย์หนาน เชิญเข้ามาเถิด!” หลังจากที่ผู้นั้นกล่าวจบ ก็ได้ยื่นป้ายคืนให้กับเจียงหลี ท่าทีของเขาแปรเปลี่ยน มีความเกรงใจต่อนางมากขึ้นกว่าเมื่อครู่อยู่มากโข
ท่านอาจารย์หนาน!
เจียงหลีคนนี้ในมือของนางกลับมีป้ายจากท่านอาจารย์หนาน!
ผู้คนต่างตื่นตกใจ
เพียะ!
โจวเย่าจู่ยืนนิ่งกับที่ดุจไก่ตาแตก หลังจากที่ฟังประโยคนี้จบ ราวกับว่าตนได้ถูกตบหน้าอีกครั้ง ช่างเจ็บร้อนไปทั้งหน้า จนทำให้เขาต้องหาที่หลบซ่อน
นังเจียงหลี เจ้ามันสมควรตาย! เจียงเฮ่า เจียงหลี ตระกูลเจียง! ล้วนสมควรตาย! เขาส่งเสียงคำรามในใจด้วยความกริ้วโกรธ แต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงเรื่องที่เขาเสียหน้าไปแล้วได้
ขอเพียงเป็นคนที่เข้าใจเกี่ยวกับสถาบันไป๋หยวนล้วนแต่จะรู้ ป้ายที่อยู่ในมือของศิษย์เอกอัจริยะทั้งเจ็ด ถึงแม้จะมีถึงคนละสิบแผ่น แต่ว่า ไม่ใช่ว่าสามารถมอบให้ผู้อื่นจนหมดได้
และในบรรดาศิษย์เอกนี้ ป้ายของหนานอู๋เฮิ่น ยอดศิษย์เอกอัจริยะทั้งเจ็ดเป็นป้ายที่ได้รับมายากที่สุด

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ราชินีพลิกสวรรค์