ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 209

ตอนที่ 209 เครื่องหมาย
“แย่แล้ว”
มังกรทองเร็วเกินกว่าที่เขาจะหลบ สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในเวลานั้นคือการ
เอาโล่ดวงดาวขึ้นมากัน ร่างสีทองบินผ่านโล่และกระแทกกลางหน้าผาก
ของเขา
ปัง!
ซูผิงรู้สึกว่าโลกทั้งใบหมุนรอบตัวเขาในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่เจ็บปวด เมื่อ
เขาได้สติอีกครั้ง เขารู้สึกว่ามีบางอย่างที่ร้อนแปลก ๆ ไหลตามหัวราว
กับว่าเขาเลือดออก
เขาเอามือแตะหน้าผาก สัมผัสได้ถึงรอยกระแทกเล็ก ๆ บนผิวหนัง
สิ่งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นในหอคอยมังกรเสมือนจริง!
ความรู้สึกร้อนนั้นไม่ใช่ที่ผิวหนังของเขา แต่อยู่ในสมองของเขาแทน
เขาเห็นภาพที่ฉายผ่านมุมมองของเขา ภาพของดินแดนโบราณที่ถูกโจมตี
โดยสายฟ้าและพายุเฮอริเคนอย่างต่อเนื่องราวกับว่าวันสิ้นโลกมาถึงแล้ว
มังกรสีทองขนาดใหญ่ห้ากรงเล็บโผล่ออกมาจากระยะไกล บินเข้าไปใน
เมฆฝนด้านบน
ซูผิงเห็นภาพเงาสูงตระหง่านของบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในหมู่เมฆ จากจุดที่
สายฟ้าคล้ายใบมีดผ่าลงมา ทำให้ร่างของมังกรแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ครู่หนึ่งภาพนั้นก็สว่างกว่าจะมองได้
เมื่อเขาลืมตา เขาก็มอง “สนามรบ” ที่คุ้นเคยภายในหอคอยมังกรอีกครั้ง
ความคิดหนึ่งแวบเข้ามา ทำให้เขาเข้าใจได้อย่างน่าอัศจรรย์ว่าเกิดอะไรขึ้น
สิ่งที่เขาเพิ่งเห็นคือช่วงเวลาสุดท้ายของราชามังกรโบราณก่อนที่มันจะ
ถูกสังหาร นอกจากนี้ “การกระแทก” ที่หน้าผากของเขาไม่ใช่สิ่งที่เกิด
จากการบาดเจ็บ แต่เป็น “เครื่องหมายของผู้มีคุณสมบัติ” ที่เขาได้รับจาก
การเอาชนะศัตรูตัวสุดท้ายในหอคอย
จากนั้นเขาได้รับอนุญาตให้ไปรับมรดกของราชามังกรซึ่งเป็นมรดกสุดท้าย
เขาต้องรอจนกว่า “ผนึก” ทั้งหมดในเขตต่าง ๆ จะถูกนักสำรวจนำออกมา
ซึ่งถึงเวลานั้น ผู้ที่ครอบครองเครื่องหมายจะถูกเรียกเข้าสู่การทดสอบ
ครั้งสุดท้าย
นอกจากนี้เครื่องหมายนี้ยังมีผลกระทบที่น่าสนใจมากมายในตัวมันเอง
ก่อนอื่นเขาสามารถใช้เครื่องหมายเพื่อเข้าสู่อาณาจักรลับนี้ได้ทันที แม้ว่า
ทางเข้าจะถูกปิดก็ตาม
ประการที่สองเครื่องหมายนี้อนุญาตให้เขาเรียกวิญญาณมังกรมาช่วยได้
ในสถานการณ์อันตรายได้ ดูเหมือนราชามังกรโบราณตัวนี้มอบสิทธิ
พิเศษนี้ให้เขาเพื่อปกป้องเขา ไม่ให้สูญเสีย “ผู้สืบทอดแสนหายาก” แถม
เครื่องหมายนี้ยังสามารถช่วยให้สามารถเดินทางไปยังเขตที่เลือกได้ทันที
ในขณะเดียวกันก็บอกเขาด้วยว่า “ผนึก” ในเขตนั้นได้ถูกนำออกไปแล้ว
หรือยัง
เขารู้สึกประหลาดใจมากเมื่ออ่านสถานการณ์ทั่วไปเกี่ยวกับเขตต่าง ๆ
เห็นได้ชัดว่า 95 เขตได้ถูกเคลียร์ออกไปแล้วไม่ใช่ 57 เขตเหมือนที่คน
เคยบอกเขา นั่นหมายถึงการพิจารณามรดกขั้นสุดท้ายจะเกิดขึ้นหลังจาก
ที่อีก 14 เขตถูกสำรวจ
“ให้ตายเถอะ สมบัติจำนวนมากถูกยึดไปแล้ว 95 เขต…ผู้คนไม่น่าจะทำ
สำเร็จในเวลาเพียงไม่กี่วัน มีบางอย่างเกิดขึ้น มีคนพยายามซ่อนความคืบ
หนาที่แท้จริงจากคนอื่น”
แต่ทำไม?
“บางทีคนดูแลที่แห่งนี้คงรู้เรื่องมรดก? พวกเขาปล่อยให้ผู้คนเข้ามาเพื่อที่
พวกเขาจะได้ปลดผนึกส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้นซึ่งจะทำให้ …”
“เดี๋ยวก่อนถ้านี่เป็นเรื่องจริง ‘สถิติที่ดีที่สุด’ของการท้าทายหอคอยก็ต้อง
เป็นของปลอมเช่นกัน บางทีอาจมีคนมาถึงชั้นสุดท้ายแล้ว”
เขารู้เกี่ยวกับสนามสืบทอดราชามังกร แต่เขายังไม่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการ
พิจารณาครั้งสุดท้าย เขาต้องการข้อมูล
เขาพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นเขาก็หยิบม้วนคัมภีร์ออกมา ข้างในเขา
เห็นถังยู่หรานนั่งเฉย ๆ อยู่ข้าง ๆ ต้นอนิม่าด้วยท่าทางเบื่อหน่าย แทนที่
จะมองหาทางออก
“เธอรู้อะไรเกี่ยวกับหอคอยมังกรบ้าง?” ซูผิงถามโดยการส่งเสียงข้างใน
ซึ่งฟังดูเหมือนเสียงฟ้าร้องดังสนั่นในมุมมองของถังยู่หราน
ถังยู่หรานดีใจที่ในที่สุดเธอก็มีโอกาสเจรจากับผู้จับกุม เธอพยายามจะ
ออกจากคุกแปลก ๆ นี่แต่ไม่สำเร็จ การได้คุยกับซูผิงหมายถึงการมี
ทางเลือกใหม่
เธอสงสัยว่าทำไมซูผิงถึงอยากรู้เรื่องหอคอยมังกร แต่หลังจากคิดดีแล้ว
เธอตัดสินใจที่จะไม่ถามคำถามโง่ ๆ นั่น ในเมื่อชายคนนี้แข็งแกร่งพอที่จะ
สังหารนักรบอสูรกิตติมศักด์ิ
“อะแฮ่ม” เธอลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางที่ไม่เป็นมิตร ขณะมองใบหน้าของซูผิง
ซึ่งปรากฏเป็นภาพขนาดยักษ์เหนือเธอ “ฉันจะบอกนายเมื่อนายปล่อย
ฉันออกไป ฉันจะทำเป็นลืมเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด นายจะเอาต้นไม้โง่ ๆ
นี้ไปด้วยก็ได้”
“ตอบคำถามของฉันมา เธอไม่มีสิทธ์ิมาต่อรอง”
“นาย – อืม! นายรู้อะไรไหม? นายฆ่าฉันตอนนี้เลยดีกว่า!” ถังยู่หรานขู่
ด้วยการเอามือจับต้นไม้ใกล้ ๆ “ฉันไม่กลัวความตาย! แต่นายจะไม่เห็น
ต้นไม้ที่มีค่านี่อีก!” ..
ซูผิงเลือกที่จะถอยหลัง “ได้ ฉันจะพิจารณาให้เธอออกไปโดยมีเงื่อนไข
ว่าฉันต้องได้ข้อมูลเกี่ยวกับหอคอยมังกร”
ถังยู่หราแอบยิ้มเมื่อแผนของเธอได้ผล
“แปปนะ…” เธอพูดโดยไม่ยอมถอยห่างจากต้นไม้ “ฉันไม่รู้อะไรมาก
ฉันไม่สามารถสอนวิธีปีนให้สูงขึ้นได้ เผื่อนายยังไม่รู้ฉันไปถึงชั้นที่หก
เท่านั้น และนายต้องได้ดีกว่าฉันแน่”
“เธอรู้ไหมว่าใครไปได้ไกลที่สุด พวกเขาไปถึงชั้นไหนแล้ว?”
ถังยู่หรานมองเขาแปลก ๆ “อะไรนะ นายอยากฝากชื่อไว้ในอันดับของ
นักสำรวจด้วยงั้นเหรอ ฉันคิดว่าแชมป์ คนปัจจุบันคือเย่เทียนหมิงจาก
ตระกูลเย่ในเมืองหลงเจียง ฉันได้ยินมาว่าเขาไปถึงชั้นเจ็ด แต่เขายังไม่
ถึง มีคนบอกว่าเขาฝึกหนักมากหลายปี มานี้ เขายังมีอสูรหายากหรือ
อะไรสักอย่าง ถ้านายถามฉัน ฉันคิดว่าเขาจะบรรลุเป้าหมายในไม่ช้า”
ซูผิงขมวดคิ้ว หลังจากที่เขาได้เรียนรู้ “ข่าวปลอม” เกี่ยวกับจำนวนเขตที่
สำรวจแล้ว เขาไม่คิดเชื่อข่าวสำหรับคนทั่วไป
“อันดับของนักสำรวจนั่นคืออะไร? เชื่อถือได้ไหม? แน่ใจเหรอว่ามีชื่อ
ทุกคน อาจจะมีคนไปได้ไกลกว่านั้นมากแต่ไม่มีการบันทึกไว้”
ถังยู่หรานดูไม่พอใจเมื่อซูผิงตั้งคำถามอย่างเปิ ดเผยเกี่ยวกับความถูกต้อง
ของรายชื่อการจัดอันดับที่เธอพยายามดิ้นรนเธอรู้ว่าซูผิงเก่งพอที่จะเป็น
แชมป์ คนต่อไป แต่การที่เขาไม่เชื่อมันทำให้เธอเจ็บปวด
“…มันแสดงการจัดอันดับของผู้ท้าทายรุ่นเยาว์ บางทีนักรบอสูรอาวุโส
คงไม่อยากฝากชื่อของพวกเขาในการจัดอันดับ”
“ฉันเข้าใจแล้ว เธอรู้ไหมว่ามีมรดกรออยู่ที่จุดสิ้นสุดของอาณาจักรลับ”
ถังยู่หรานขมวดคิ้ว “มรดกเหรอ? มรดกอะไร?”
ซูผิงถอนหายใจด้วยความผิดหวัง
“จิ๊ แม้แต่ตระกูลถังก็ยังไม่อยู่ในเกม?”
ถังยู่หรานฉลาดพอที่จะจับความหมายของซูผิงได้ และเธอก็ไม่สามารถ
สงบสติอารมณ์ได้อีกต่อไป
“มีมรดกหรอ ไม่สิมรดกของใคร เดี๋ยวก่อน…อาจจะเป็นราชามังกรโบราณ
หรอ? แต่นั่นหมายความว่าเป็นสิ่งที่ราชาอสูรทิ้งไว้ ฉันไม่เคยคิดเลยว่า
เฮ้ ใครบอกนายเรื่องนี้ มันหมายถึงอะไร ?? ที่สำคัญเราจะหามรดกนี้ได้
ยังไง? อย่าบอกนะว่ามันคือหอคอย…”
ซูผิงหมดความสนใจเนื่องจากเห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีอะไรที่เขาจะ
ได้จากเธอ
“เหมือนเดิมดูแลต้นไม้ หากใบไม้หายไป 1 ใบฉันจะเอาหัวของเธอไป
วางบนจาน”
เขาออกจากม้วนคัมภีร์ ทิ้งให้ถังยู่หรานจ้องมองท้องฟ้าด้วยความตื่น
ตระหนก
แต่ – แต่เขาไม่คิดว่าฉันจะทำลายต้นไม้จริง ๆ ??
เธอไม่สามารถทำได้ ต้นไม้เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้เธอมีชีวิตอยู่และเธอก็รู้ดี
“แก !!”
หญิงสาวกระทืบเท้าด้วยความโกรธ แต่ก็หยุดอย่างรวดเร็วเมื่อเธอได้ยิน
เสียงต้นไม้ขยับ
ซูผิงออกจากม้วนคัมภีร์และพิจารณาสิ่งที่เขาเพิ่งได้ยินอย่างระมัดระวัง
แม้ว่าถังยู่หรานจะไม่ได้บอกอะไรเขามากนัก แต่เขาก็ยังเรียนรู้บางอย่าง
จากคำพูดของเธอ
ประการแรกแม้แต่ตระกูลที่ใหญ่ที่สุดก็ยังไม่รู้ถึงความจริงที่ซ่อนอยู่ ซึ่ง
หมายความว่า“ ผู้บงการ” ที่อยู่เบื้องหลังทุกสิ่งอาจเป็นนักรบในตำนาน
ก็ได้ เนื่องจากนักรบอสูรกิตติมศักด์ิไม่สามารถซ่อนเบาะแสที่สำคัญจาก
คนทั้งโลกได้
“การจัดอันดับนักสำรวจ” ไม่น่าเชื่อถือ เนื่องจากแม้แต่ผู้ที่อยู่ในอันดับ
สูงสุดก็ไม่รู้ว่ามีใครไปไกลกว่านั้น
สุดท้าย ถังยู่หรานเป็นคนฉลาดแต่ก็อ่านได้ง่าย การใช้เธอเพื่อถามถึง
ตระกูลถังควรเป็นเรื่องง่าย ๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว