ตอนที่ 639 เดินทางไปถ้ำลึกอีกครั้ง
”นั่นใคร?”
ทันใดนั้น ชายคนหนึ่งก็พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและบินไปทางซูผิงจากอาคารเล็ก ๆ ในบริเวณใกล้เคียง “นายเป็นใคร?”
นั่นเป็นผู้ชายที่มีท่าทางเคร่งขรึม มังกรเพลิงนรกทำให้ชายคนนั้นกลัวเล็กน้อย
“แล้วนายเป็นใคร?” ซูผิงถาม
“ฉายาของฉันคือดาบวารี!” ชายวัยกลางคนจ้องมองซูผิง “นายกล้าดียังไงมาขี่อสูรของนายในสถาบัน? นักรบอสูรในตำนานสามคนกำลังคุยกันเรื่องวิกฤติ นายไม่สามารถรบกวนพวกเขาได้!”
“อืม!”
ซูผิงไม่สนใจชายคนนั้นและบอกให้มังกรเพลิงนรกไปที่อาคาร
“ตายซะ!”
ชายวัยกลางคนโกรธจัด เขาปลดปล่อยพลังดวงดาวและกระโดดไปที่มังกรเพลิงนรกจากนั้นเขาก็สร้างค่ายกลด้วยมือเดียว โล่เส้นผ่านศูนย์กลางสิบเมตรครอบคลุมอาคาร
ปัง! โล่แตกทันทีที่มันปรากฏ
ชายวัยกลางคนตกใจ จู่ๆ ก็มีคนมาถึงสองคน หนึ่งในนั้นผลักชายวัยกลางคนลงโดยจับไหล่ของเขา และชายอีกคนยืนอยู่หน้ามังกรเพลิงนรก “น้องซู ได้โปรด!”
มังกรเพลิงนรกสัมผัสได้ถึงเจตนาของซูผิง และหยุดนิ่ง แต่สายฟ้าสีม่วงยังคงกะพริบอยู่ในดวงตาขณะที่จ้องมองไปที่ชายคนนั้น
“เป็นยังไงบ้างอาจารย์ใหญ่?” ซูผิงถาม
อวิ๋นว่านหลี่มองเข้าไปในดวงตาของมังกรเพลิงนรก และรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะ ไม่ครั้งสุดท้ายที่พวกเขาพบกันเพิ่งผ่านมาไม่นาน แต่มังกรของซูผิงน่ากลัวกว่าครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นมัน
“น้องซู ทุกอย่างเรียบร้อยดี”อวิ๋นว่านหลี่ยิ้มแห้ง
เขาไม่มีความกล้าที่จะแสดงท่าทีไม่ดีต่อหน้าซูผิง ไม่ใช่หลังจากที่เขาได้เห็นความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของซูผิงในถ้ำลึก“น้องอวิ๋น นี่คือ…?”
ชายชราที่ยืนอยู่กับชายวัยกลางคนจ้องมองที่ซูผิงด้วยการขมวดคิ้ว ผู้อาวุโสสามารถบอกได้ว่าคนที่ยืนอยู่บนมังกรเพลิงนรกอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์แต่เขาก็ยังรู้สึกกดดัน มังกรเพลิงนรกดูเหมือนจะน่ากลัวยิ่งกว่าราชาอสูรร้ายทั่วไป
”อาจารย์”
ความจริงที่ว่าอาจารย์ของเขาและอาจารย์ใหญ่อวิ๋นว่านหลี่ระมัดระวังทำให้ชายวัยกลางคนกลัว เขาขอโทษทันที “ผมไม่สามารถหยุดเขาได้ทันเวลา…”
“นั่นไม่ใช่ความผิดของนาย นี่คือผู้ท้าทายโชคชะตาซู เราเรียกเขาว่าผู้ท้าทายโชคชะตา แต่แม้แต่นักรบอสูรในตำนานในสภาวะว่างเปล่าก็ไม่สามารถเอาชนะเขาได้ เขาเป็นผู้ท้าทายโชคชะตาที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ดาวเคราะห์สีน้ำเงินเคยมีมา เป็นเรื่องปกติที่นายจะหยุดเขาไม่ได้ และนายก็ไม่ควรหยุดเขาเช่นกัน” อวิ๋นว่านหลี่กล่าว
“ผู้ท้าทายโชคชะตา?”
ชายวัยกลางคนหรี่ตาลงด้วยความกลัว ชายหนุ่มคนนี้คือผู้ท้าทายโชคชะตา?
ผู้ท้าทายโชคชะตาเท่ากับนักรบนักรบอสูรในตำนานสภาวะว่างเปล่า?!
เขาแข็งแกร่งกว่าอาจารย์ของฉันด้วยซ้ำ!
แม้แต่ชายชราที่ยืนอยู่ข้างชายวัยกลางคนก็ตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด
“คุณเป็นคนที่เคยสร้างความวุ่นวายที่หอคอยแต่หนีไปได้ใช่หรือเปล่า” ชายชราถาม อวิ๋นว่านหลี่ฝืนยิ้ม “ใช่ คนนั้นคือน้องซู”
ชายชราสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วกำหมัดแน่น “ผมชื่อหลู่เซียน คุณซู ผมได้ยินเรื่องราวของคุณมามากมาย และผมดีใจที่มีโอกาสได้พบคุณในที่สุด คุณเป็นผู้ชายที่น่าทึ่งมาก”
ชายวัยกลางคนเริ่มตื่นตระหนกเนื่องจากอาจารย์ของเขาแสดงความเคารพ เขาขอโทษทันที “ท่านครับ ผมขอโทษ ผมมันตาไม่ดี ได้โปรดยกโทษให้ผมด้วย” เขาก้มตัวลงและกลัวที่จะมองซูผิง
หวืด!
ผู้ชายอีกคนมาถึง เป็นชายหนุ่มอายุยี่สิบปลายๆ เขาพุ่งมาที่ซูผิงอย่างรวดเร็ว “คุณซู คุณจริงๆด้วย ผมอยากพบคุณมาก ผมได้ยินมาว่าคุณไล่ราชาสวรรค์ต่างโลกไปได้ ช่างเป็นการกระทำที่กล้าหาญอะไรเช่นนี้”
“คุณคงมาจากหอคอย” ซูผิงกล่าวด้วยใบหน้านิ่ง
หลู่เซียนพยักหน้า “โลกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย เราได้รับมอบหมายให้มาช่วยพี่อวิ๋นปกป้องหลงหยาง”
เห็นได้ชัดว่าซูผิงไม่คิดว่าเขาจะมีประโยชน์พอ “ผมได้ยินมาว่าทวีปเหนือกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตเพราะถ้ำลึก ผมยังจำได้ว่าถ้ำลึกเชื่อมต่อกันทั่วโลก ค่ายกลใต้ดินจะต้องมีปัญหา คุณได้ข่าวจากข้างล่างบ้างหรือไม่?”
”ตอนนี้ยัง นักรบอสูรในตำนานสองคนได้เข้าไปในถ้ำลึก และพวกเขาจะแจ้งให้เราทราบหากพบปัญหาใด ๆ”อวิ๋นว่านหลี่ตอบ
“ดังนั้นมีนักรบอสูรในตำนานห้าคนที่นี่ รวมทั้งคุณด้วย”
”ใช่”
“มีใครอยู่ในสภาวะว่างเปล่าไหม?”
“อืม…” อวิ๋นว่านหลี่มองไปที่นักรบอสูรในตำนานทั้งสองและยิ้มให้ซูผิงอย่างอายๆ “น้องซู คุณอาจไม่รู้เรื่องนี้ แต่มันไม่ง่ายที่จะไปถึงสภาวะว่างเปล่า มีนักรบอสูรในตำนานเพียงสิบสองคนในหอคอย…”
“งั้นคำตอบก็คือไม่” ซูผิงขมวดคิ้ว เขาต้องการพูดบางอย่างออกไป แต่ก็หยุดตัวเองไว้
นักรบอสูรในตำนานทั้งห้าคนอยู่ที่สภาวะสมุทร พวกเขาห้าคนรวมกันยังไม่สามารถเทียบกับสภาวะว่างเปล่าหนึ่งคน หากมีอะไรผิดพลาดในถ้ำลึก… เขาไม่คิดว่าทั้งห้าคนจะมีทำอะไรได้! ระหว่างการเดินทางไปถ้ำลึกของเขา เขาได้พบกับอสูรร้ายอย่างผีโซ่ มันต้องมีการวางแผนบางอย่างเพื่อให้อสูรป่าออกจากถ้ำลึก การโจมตีครั้งนั้นเป็นเรื่องผิดปกติอย่างแน่นอน
“ถึงกระนั้น ผมเชื่อว่าพวกเราห้าคนก็เกินพอแล้ว” หลู่เซียนกล่าวด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าภายในเขาจะไม่ได้ยิ้มก็ตาม ซูผิงไม่ได้พูดออกมาดัง ๆ แต่เขาสามารถบอกได้ว่าผู้ท้าทายโชคชะตาไม่ได้สนใจพวกเขามากนัก
ซูผิงสามารถออกจากหอคอยได้โดยไม่ได้รับอันตราย แต่นั่นเป็นเพียงเพราะหอคอยไม่ได้เลือกที่จะไล่ตามเขา มิฉะนั้น จะไม่มีใครออกจากหอคอยหลังจากสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่นั้น!
”เขาพูดถูก เราสามารถหยุดการโจมตีครั้งใหญ่ได้” นักรบอสูรในตำนานกล่าวเสริม ซูผิงยังคงนิ่งเงียบ การโต้เถียงกับพวกเขาไม่มีความหมาย “หลี่หยวนเฟิงอยู่ที่ไหน?” ซูผิงถามอวิ๋นว่านหลี่
อวิ๋นว่านหลี่ไม่ได้คาดหวังคำถามนั้น “คุณหลี่กลับไปถ้ำลึกแล้ว เขาบอกว่าเขาต้องการไปช่วยพี่น้องของเขา”
ซูผิงพยักหน้า “เขาไปที่หอคอยมาหรือเปล่า?” “ใช่”
”ดี ผมจะไปถ้ำลึก” ซูผิงกล่าว เนื่องจากหลี่หยวนเฟิงไปหอคอยมาแล้ว พวกเขาจะตระหนักถึงสถานการณ์ในถ้ำลึก “ตอนนี้คุณกำลังจะไปถ้ำลึกอย่างนั้นหรอ?”หลู่เซียนเตือนซูผิงทันที “น้องซูสถานการณ์ภายในถ้ำลึกไม่ดี เราไม่คิดว่าคุณควรเข้าไป!”
”ใช่” นักรบในตำนานหนุ่มขมวดคิ้ว
ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจที่โผงผางเช่นนี้
อวิ๋นว่านหลี่พยายามเกลี้ยกล่อมซูผิง“น้องซูหากคุณต้องการให้ความช่วยเหลือ ผมขอแนะนำให้คุณอยู่บนพื้นดิน เมืองฐานทั้งหมดต้องการคุณมากกว่า อย่างไรก็ตามเรามีนักรบอสูรในตำนานจำนวนจำกัด ไม่ใช่ทุกเมืองฐานที่จะได้รับการสนับสนุนจากนักรบอสูรในตำนาน เมืองฐานบางแห่งมีเพียงราชาอสูรร้ายไปช่วย ถ้าคุณอยู่ที่นี่ คุณจะสามารถช่วยเหลือผู้คนได้มากขึ้น!”
ซูผิงเข้าใจ “ผมต้องไปเพราะอสูรของผมยังอยู่ในนั้น”
“อสูรของคุณ?”
ในที่สุดทั้งสามคนก็รู้ว่าเหตุใดซูผิงจึงมาที่นี่
“มันไม่เสี่ยงเกินไปเหรอ? เพียงเพื่ออสูรตัวเดียว?หลู่เซียนยังคงทักท้วงทางเลือกของซูผิง
เขาสามารถฝึกอสูรตัวอื่นได้ตลอดเวลา แต่ชีวิตของเขาไม่สามารถทดแทนได้ถ้าเขาตายในถ้ำลึก
”ใช่”
นักรบอสูรในตำนานหนุ่มพยักหน้า เขายังเชื่อด้วยว่าซูผิงควรจะทิ้งอสูรของเขา ท้ายที่สุดอสูรเหล่านั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยและปกป้องนักรบอสูร
ถึงกระนั้นอวิ๋นว่านหลี่ไม่ทักท้วง เขาเคยไปถ้ำลึกกับซูผิง และรู้ว่าซูผิงผูกพันกับอสูรของเขาแค่ไหน
”พูดพอแล้ว อยู่ที่นี่และทำหน้าที่ของคุณ” ซูผิงกล่าวห้วนๆ มังกรเพลิงนรกหันกลับมา และกำลังจะมุ่งหน้าไปที่ทางเข้าถ้ำลึก
“เฮ้…”
ทั้งสามคนประหลาดใจหลังจากเห็นว่าซูผิงมุ่งมั่นแค่ไหน แม้ว่าจะฟังดูไม่ถูกต้องก็ตาม ราวกับว่าเจ้าแห่งหอคอยกำลังพูดกับพวกเขา
“น้องซู ผมจะไปด้วย” อวิ๋นว่านหลี่ตะโกน
เขาเดินตามซูผิงทันที
หลู่เซียนและชายหนุ่มจ้องมองขณะที่ทั้งสองจากไป
เมื่อซูผิงไปแล้ว หลู่เซียนก็พูดกับชายวัยกลางคนว่า “นายลุกขึ้นได้แล้ว เขาไม่อยู่ที่นี่แล้ว”
ในที่สุดชายวัยกลางคนก็เงยหน้าขึ้น หลังของเขาเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น แม้อาจารย์ของเขาจะเป็นนักรบอสูรในตำนาน เขาก็จะยังคงมีปัญหาถ้าเขาทำให้คนอื่นขุ่นเคือง
“โชคดีที่ผู้ชายคนนั้นอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ ถ้าเขาอยู่ในระดับตำนาน ฉันไม่คิดว่านายและฉันจะมีโอกาสรอด หากเราถูกเขาโจมตี!”หลู่เซียนหรี่ตาลง
นักรบอสูรในตำนานหนุ่มรู้สึกประหลาดใจ “อาจารย์… พูดจริงเหรอ?”
เราจะไม่มีโอกาส?
ซูผิงถ้าเขาอยู่ในระดับตำนานจะสามารถเอาชนะพวกเขาได้ในทันทีอย่างงั้นหรอ?
นักรบอสูรในตำนานหนุ่มไม่เชื่อ!
หลู่เซียนกล่าวอย่างเย็นชาว่า “นายไม่เห็นมังกรที่ซูผิงกำลังขี่อยู่เหรอ? พลังนั่น และมองเข้าไปในดวงตาของมังกร ฉันไม่สงสัยเลยว่ามังกรนั่นจะทุบฉัน ถ้ามันไม่หยุดไว้ทันเวลา”
ชายวัยกลางคนหน้าซีด
เขาจะต้องตายถ้าอาจารย์ของเขาไม่ปกป้องเขา!
มังกรตัวนั้น… น่ากลัว นักรบอสูรในตำนานหนุ่มดูกังวลเมื่อนึกถึงมังกรของซูผิง “ผู้ท้าทายโชคชะตาที่ทรงพลังที่สุดตลอดกาล เมื่อเขาไปถึงระดับในตำนาน เขาอาจจะกลายเป็นคนเหมือนเจ้าแห่งหอคอยของเรา…” หลู่เซียนลดเสียงลง
นักรบอสูรในตำนานหนุ่มไม่ได้ตอบอะไร
ที่ทางเข้าหมายเลข 7 ของถ้ำลึกในสถาบัน
มีผู้คุ้มมากกว่าปกติ
ผู้คุมหกคนอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ พวกเขาสี่คนยืนอยู่ตรงทางเข้า และอีกสองคนซ่อนตัวอยู่ในมุมไกลๆ สองคนอยู่ตรงนั้นเพื่อส่งข้อมูลในกรณีที่ผู้คุมที่ทางเข้าถูกอสูรป่าที่พุ่งออกมาจากถ้ำลึกฆ่า
”อาจารย์…”
ผู้คุมคำนับอวิ๋นว่านหลี่
“ฉันจะเข้าไป” หยวนว่านหลี่กล่าว เขาบินไปที่ทางเข้าเพื่อนำทางซูผิง
ซูผิงเรียกมังกรเพลิงนรกกลับเข้าพื้นที่สัญญา มันสามารถเข้าไปในถ้ำได้ แต่ตัวใหญ่เกินกว่าจะขยับได้สะดวก
ซูผิงและอวิ๋นว่านหลี่บินไปที่ข้างหน้า
ซูผิงเร็วมากจนอวิ๋นว่านหลี่ตระหนักว่าเขาต้องใช้กำลังอย่างเต็มที่เพื่อไล่ตามเขา
ซูผิงไม่ได้ใช้การเคลื่อนย้ายใดๆ ไม่งั้นมันคงยากสำหรับเขาที่จะตามให้ทันซูผิง!
ซูผิงสามารถทิ้งเขาไว้ข้างหลังได้อย่างง่ายดายถ้าเขาตัดสินใจใช้การเคลื่อนย้าย! … ซูผิงอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์! อวิ๋นว่านหลี่บ่นเกี่ยวกับซูผิงในใจ ในไม่ช้าพวกเขาก็มาถึงส่วนที่ลึกที่สุด พวกเขามาถึงทางหลักแรก ทันใดนั้นมีคนสองคนพุ่งออกมาจากด้านข้าง และราชาอสูรร้ายตระกูลหินก็คลานออกมา
“น้องอวิ๋น?”
สองคนกำลังจะโจมตีผู้คนที่บุกรุกเข้ามา เมื่อพวกเขาเห็นว่าเป็นอวิ๋นว่านหลี่พวกเขาก็แปลกใจ
“น้องซู ผมไม่สามารถไปไกลเกินจุดนี้ได้,” อวิ๋นว่านหลี่พูดกับซูผิง
ซูผิงพยักหน้า “ผมจัดการได้” “น้องอวิ๋น นี่คือ?”
นักรบอสูรกลางคนเดินเข้ามาหาพวกเขา และทำให้ซูผิงสับสน
นักรบอสูรในตำนานในวัยห้าสิบซึ่งสวมชุดเกราะสีทองจ้องมาที่ซูผิง
ซูผิงดูคุ้นๆ
ทันใดนั้นเขาจำได้ว่าเป็นเขาคือชายหนุ่มที่ฆ่านักรบอสูรในตำนานในหอคอยตอนกลางวันแสกๆ!
นักรบอสูรในตำนานสั่นสะท้านด้วยความกลัว
ตอนที่ 640 เต็มไปด้วยวิกฤต
“นี่คือน้องซู” อวิ๋นว่านหลี่พูดกับนักรบอสูรในตำนานคนแรก “น้องซูกำลังจะเข้าไปหาอสูรของเขา ผมมาเป็นเพื่อน” “เพื่ออสูร?” นักรบอสูรในตำนานคนนั้นไม่รู้จักซูผิง เขามองชายหนุ่มขึ้นลงและยิ่งงงมากขึ้น “อสูรของน้องซูอยู่ที่นี่? น้องซูเป็นผู้คุมในถ้ำลึกหรือเปล่า…?”
นักรบอสูรในตำนานกำลังสงสัยว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับเขา
ทั้งหมดเป็นเพราะเขารู้สึกว่าซูผิงอยู่แค่ระดับกิตติมศักดิ์
การปกป้องถ้ำลึกเป็นงานที่จำกัดเฉพาะนักรบอสูรในตำนาน นักรบอสูรกิตติมศักดิ์… พวกเขาทำอะไรในถ้ำลึกไม่ได้ง่ายๆไม่ได้
ซูผิงพยักหน้าให้กับนักรบอสูรในตำนาน และพูดกับอวิ๋นว่านหลี่ว่า “ผมต้องไปแล้ว”
”ตกลง”
หวืด!
ซูผิงบินผ่านทางหลักและเข้าสู่เส้นทางที่ซับซ้อน
ในที่สุดชายที่สวมชุดเกราะสีทองก็ผ่อนคลายลงหลังจากที่ซูผิงหายไป เขาเข้าหาอวิ๋นว่านหลี่ทันทีและถามว่า “น้องอวิ๋นคุณรู้ไหมว่าเขา… ฆ่าคน?”
“ฆ่า?”
นักรบอสูรในตำนานอีกคนไม่เข้าใจ “คุณหมายความว่ายังไง?”
เพื่อนของเขาฝืนยิ้ม “น้องเหอคุณออกไประยะหนึ่งแล้ว คุณต้องเคยได้ยินเกี่ยวกับการตายของตำนานทะเลร่องลึก… คนที่ฆ่าคือเขา เขายังต่อยนักรบอสูรในตำนานอาวุโสในสภาวะว่างเปล่า!”
“เขาฆ่าทะเลร่องลึก?”
นักรบอสูรในตำนานวัยกลางคนหรี่ตาลง ตำนานทะเลร่องลึกเป็นนักรบในสภาวะสมุทร ตัวเขาเองใช้เวลาบ่มเพาะหลายปีในหอคอย แม้ว่าจะยังงไปไม่ถึงสภาวะว่างเปล่า แต่เขาก็เป็นนักรบอสูรในตำนานที่น่านับถือ ชายหนุ่มคนนั้นคือฆาตกร?
เขาต่อยนักรบอสูรในตำนานสภาวะว่างเปล่า?
”คุณฟานอยู่ที่สภาวะว่างเปล่า เราไม่พูดถึงการตายของเขาบ่อยนัก เพราะการตายของเขาทำให้นักรบอสูรในตำนานคนอื่น ๆ ในระดับเดียวกันอับอาย คุณไม่ได้อยู่ที่นั่น แต่ผมอยู่ แค่หมัดเดียวฟานก็ตาย!” นักรบอสูรในตำนานที่สวมชุดเกราะสีทองยังสั่นกลัว
นักรบอสูรในตำนานบางคนไม่ได้อยู่ที่นั่นตอนเกิดความโกลาหลที่หอคอย พวกเขาได้ยินรายละเอียดบางอย่าง แต่นักรบอสูรในตำนานในสภาวะว่างเปล่าบอกให้ผู้คนหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องนี้ เพราะพวกเขาต้องการปกป้องศักดิ์ศรีของพวกเขาเอง ในกรณีเช่นนี้คนที่อยู่ห่างไกลอย่างอวิ๋นว่านหลี่จึงรู้แค่ว่ามีผู้ชายคนนึงฆ่าตำนานทะเลร่องลึก และความแข็งแกร่งของชายคนนั้นก็เท่ากับสภาวะว่างเปล่า
ถึงกระนั้นผู้ที่อยู่ที่นั่นก็รู้ดีว่าชายหนุ่มน่ากลัวยิ่งกว่านั้นเสียอีก!
นั่นคือเหตุผลที่ชายหนุ่มสามารถออกจากหอคอยได้หลังจากที่เขาสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่!
ไม่ใช่เพราะพวกเขาปล่อยให้ชายหนุ่มจากไป แต่เป็นเพราะ… ไม่มีใครสามารถขวางเขาได้!
“เอิ่ม…” นักรบอสูรในตำนานวัยกลางคนพูดไม่ออก หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็นึกได้ “ฉันคิดว่าเขาอยู่ในระดับกิตติมศักดิ์ใช่ไหม?”
อวิ๋นว่านหลี่ก็ตกตะลึงเช่นกัน เขารู้มาตลอดว่าซูผิงทรงพลัง แต่เขาไม่รู้ว่าเขาจะสามารถฆ่านักรบในตำนานสภาวะว่างเปล่าได้ด้วยหมัดเดียว!
ซูผิง… เข้าไปในหอคอยมังกรมาแล้ว!
นั่นเป็นข้อพิสูจน์ว่าเขายังอายุน้อย!
เมื่อเขาไปในหอคอย ซูผิงอาจไม่ได้อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์… ความคิดนั้นทำให้อวิ๋นว่านหลี่สั่นเทาด้วยความกลัว เขาไม่อยากเชื่อเลยว่ามีคนแบบนี้อยู่บนดาวเคราะห์สีน้ำเงิน!
หวืด!
ซูผิงกำลังเร่งความเร็วเต็มที่ในความมืด
รอฉันก่อน!
รอก่อน!
เขากังวลมากขึ้นเมื่อคิดว่าโครงกระดูกน้อยอยู่ไม่ไกล เขาหวังว่าเขาจะพบมันในวินาทีถัดมา
สถานที่นี้เหมือนเขาวงกตที่มีทางแยกมากมาย ทางเดินดูแตกต่างไป ซูผิงรู้สึกว่าเขาหลงทาง
หวืด!
เขาบินไปข้างหน้าค้นหาเส้นทางต่อไป
ทางตัน!
ทางแยกอีกทางหนึ่ง!
อีกแล้ว!
เวลาผ่านไปและซูผิงพยายามทุกวิถีทาง ส่วนใหญ่เขาจะเจอทางตัน การค้นหาครั้งนี้ไร้ผล
ซูผิงหมดความอดทน เขารู้สึกว่าทางเดินเปลี่ยนไปอย่างเงียบๆ ครึ่งแรกของทางเดินมักจะดูเหมือนคุ้นเคย แล้วมันก็จะพาเขาไปที่อื่น! ราวกับว่าเขาวงกตมีชีวิต และทางเดินเป็นอวัยวะภายในของมัน!
หลังจากเจอทางตันอีกครั้ง ซูผิงเริ่มสบถ “โอ้ ไปตายซะ!”
จากนั้นเขาก็พูดว่า “ออกมาช่วยฉันที!”
สุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรกออกมาจากวังวนสองวังวน และความโกรธแค้นรุนแรงของพวกมันก็ฟุ้งเต็มทางเดิน
“ยืมพลังของพวกนายหน่อย!”
ซูผิงต้องการใช้ประโยชน์จากความช่วยเหลือของพวกมัน
ดวงตาของมังกรเพลิงนรกส่องประกายสีม่วง มังกรคำรามและส่งพลังงานให้ซูผิงผ่านสัญญา ซูผิงได้รับพลัง และพลังต่อสู้ของเขาได้ไปถึงระดับตำนานในทันที ใกล้ถึงจุดสูงสุดของสภาวะสมุทร!
แต่มังกรเพลิงนรกแบ่งพลังงานเพียงหนึ่งในสามของมัน!
มังกรอยู่ใกล้กับระดับเก้าขั้นสูงสุด แต่พลังงานของมังกรนั้นมีมากกว่าสิ่งมีชีวิตในสภาวะสมุทรขั้นสูงสุดหลายเท่า!
นั่นเป็นผลจากการบ่มเพาะซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสนามบ่มเพาะ
อสูรของซูผิงต้องท้าทายอสูรร้ายที่มีพลังมากกว่า และบ่อยครั้งที่พวกมันต้องใช้พลังงานอย่างมาก พวกมันต้องกลั่นพลังงานครั้งแล้วครั้งเล่า เพื่อที่จะได้ปลดปล่อยทักษะที่มากขึ้น!
“ดาบแห่งความว่างเปล่า…”
ซูผิงหยิบดาบของเขาออกมา ดวงตาของเขาเป็นประกาย จิตสำนึกและร่างกายของเขากลายเป็นหนึ่งเดียวกับอาวุธและความรู้สึกแปลก ๆ พุ่งขึ้นไปบนแขนของเขา
การทำลายล้าง!
เขาขยับ
ปัง! กำแพงพังทลายลง เผยให้เห็นวังวนมืดอยู่เบื้องหลังทางตัน
“สุนัขมังกรดำ!” ซูผิงกล่าว
สุนัขมังกรดำเห่า เพิ่มทักษะการป้องกันระดับตำนานมากกว่าร้อยทักษะเหนือซูผิง และมังกรเพลิงนรกทันที!
ซูผิงก้าวเข้าสู่ความมืดมิด
อากาศที่ปั่นป่วนได้ทลายชั้นป้องกันออก
ซูผิงสามารถบอกได้คร่าวๆ ว่าโครงกระดูกน้อยอยู่ที่ไหนโดยพันธะสัญญา
บูม!
ดาบแห่งความว่างเปล่าสำแดงพลังอีกครั้ง พื้นที่ด้านหน้าของซูผิงพังทลาย มีช่องว่างเหนือเกลียวคลื่นซึ่งเต็มไปด้วยลมรุนแรง
ซูผิงก้าวเข้าไปในวังวนพร้อมกับสุนัขมังกรดำและมังกรเพลิงนรก
พวกเขาล้มลงทันทีหลังจากออกมาที่ปลายอีกด้านของวังวน เขาปลดปล่อยพลังดวงดาว และทำให้ตัวเองมั่นคงในทันที จากนั้นเขาก็เห็นว่าเขาได้ปรากฏตัวในโลกที่กว้างใหญ่และไร้ขอบเขต
โลกที่กว้างใหญ่เช่นนี้ว่างเปล่ามาก ว่างเปล่าโดยสิ้นเชิง
ไม่มีทิวทัศน์ ไม่มีดอกไม้ ไม่มีแม้แต่ทะเลหรือพื้นดิน
ไม่มีอะไรนอกจากเมฆและหมอก
ทุ่งลม?
ซูผิงจำทุ่งทั้งห้าที่เย่อู่ซิวพูดถึง ทุ่งน้ำแข็งก็เป็นหนึ่งในนั้น พายุในอากาศบอกซูผิงว่านี่น่าจะเป็นทุ่งลม
เป็นเรื่องยากสำหรับนักรบอสูรกิตติมศักดิ์ที่จะมีชีวิตอยู่ในสถานที่แบบนี้…
ซูผิงไม่ได้ทำอะไรเพื่อป้องกันพายุ ความแข็งแกร่งทางร่างกายของเขาใกล้เคียงกับอีกาทองคำรุ่นเยาว์ เขายังสามารถทนต่อการจู่โจมโดยสิ่งมีชีวิตที่สภาวะว่างเปล่าโดยไม่ต้องพึ่งพาความช่วยเหลือใดๆ พายุเป็นเหมือนลมโชยอ่อนสำหรับเขา
มีคนอยู่ที่นี่ …
ซูผิงมองไปทางทิศตะวันตก
เขากระโดดขึ้นไปบนมังกรเพลิงนรก และพุ่งออกไปโดยไม่ลังเล
หลังจากนั้นไม่นาน ซูผิงก็มาถึงสถานที่ที่สามารถมองเห็นเงาของอาคารได้ เขาเห็นปีกปรากฏอยู่ใต้ก้อนเมฆ มันต้องเป็นนกขนาดยักษ์
นกหมอก!
ซูผิงรู้สึกประหลาดใจ มันเป็นราชาอสูรร้ายสภาวะว่างเปล่าที่ไม่ค่อยได้เห็น
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงตะโกนว่า “ใครอยู่ตรงนั้น?” มีสามคนปรากฏตัว; คนที่เร็วที่สุดมาถึงซูผิงในทันที
บุคคลนั้นประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเป็นมนุษย์ที่ขี่มังกรเพลิงนรก
”คุณเป็นใคร?”
ชายวัยกลางคนขมวดคิ้ว
อีกสองคนก็ขยับเข้ามาใกล้มากขึ้น หนึ่งในนั้นประหลาดใจเมื่อเห็นว่าเป็นซูผิง
“น้องซู?”
ซูผิงพบว่าชายผู้นั้นคุ้นหน้า ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนักรบอสูรในตำนานที่เขาเจอในทุ่งน้ำแข็ง
“คุณนั่นเอง!”
คนๆ นั้นจ้องซูผิงและพูดว่า “ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าคุณจะกลับมาที่นี่อีก กลับมาช่วยพวกเราหรอ?”
“คุณรู้จักหลี่หยวนเฟิงไหม?” ซูผิงต้องการการยืนยัน
ชายคนนั้นพูดไม่ออกนิดหน่อย “อา น้องซู คุณลืมเรื่องของผมไปหมดแล้ว… หลี่กลับมาแล้วและเขาบอกเราเกี่ยวกับคุณ คุณออกจากทางเดินได้แล้ว! สุดยอด!”
เขายกนิ้วให้ซูผิงพร้อมกับชมเชย
ซูผิงกล่าวว่า “ผมขอโทษ ผมรีบเลยลืมชื่อคุณ… ผมคิดว่าคุณอยู่ที่ทุ่งน้ำแข็ง คุณมาทำอะไรที่นี่? พี่หลี่อยู่กับคุณไหม?”
“รู้จักกันด้วยเหรอ”
นักรบอสูรในตำนานวัยกลางคนที่มาถึงก่อนยังคงงงงวย
นักรบอสูรในตำนานอีกคนก็ลดความระมัดระวังลงเช่นกัน เนื่องจากชายหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนของพวกเขา เขาจึงน่าจะมาช่วย!
คนที่จำซูผิงได้กล่าวว่า “นี่คือน้องซูที่ผู้อาวุโสหลี่บอกเรา!”
”จริงหรอ?”
อีกสองคนตกใจ พวกเขามองชายหนุ่มขึ้นลงราวกับว่าเขาเป็นตัวประหลาด
คนที่ออกมาจากทางเดิน? ระดับกิตติมศักดิ์?!
ทั้งสองคนคิดว่าผู้อาวุโสหลี่แต่งเรื่อง… แต่ตัวเองของเรื่องนั้นยืนอยู่ตรงนี้!
ไม่นานหลังจากนั้น พวกเขาสังเกตเห็นว่าซูผิง… อยู่ในระดับกิตติมศักดิ์เท่านั้น
นั่นคือเว้นแต่เขาจะซ่อนระดับของเขาไว้ โดยใช้ทักษะที่แม้แต่พวกเขาเองก็ยังมองไม่เห็น หรือเขาเป็นระดับกิตติมศักดิ์จริง
นักรบอสูรกิตติมศักดิ์… จะน่ากลัวขนาดนี้ได้ไง! ทั้งสองยังคงสงสัย มันคือทางเดิน สถานที่ที่แม้แต่ทีมนักรบอสูรในตำนาน สภาวะว่างเปล่าก็ไม่สามารถกลับมาได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว