ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว นิยาย บท 982

ขณะที่พวกเขายืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่ส่งเสียงดัง ซูผิงหันไปมองและถามโจแอนนาที่อยู่ข้างๆ “เธอรู้วิธีตรวจสอบคุณสมบัติเทพไหม”
  โจแอนนากล่าวด้วยดวงตาเป็นประกายว่า “ไม่แปลกใจเลย เพราะนี่คือสถาบันวิถีสวรรค์ การทดสอบครั้งสุดท้ายเกี่ยวกับคุณสมบัติเทพ หากเป็นเช่นนั้น พรสวรรค์และสายเลือดก็คงไม่มีความหมาย ทุกชีวิตเท่าเทียมกัน ไม่น่าแปลกใจที่สถาบันวิถีสวรรค์สามารถกระตุ้นให้ศิษย์ทุกคนเสียสละตนเองเพื่อชัยชนะ นั่นคือจิตวิญญาณของสถาบันวิถีสวรรค์!”
  ซูผิงพูดไม่ออกหลังจากมองไปที่โจแอนนาซึ่งมีใบหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชม เขาถามว่า “เธอได้ยินที่ฉันถามไหม?”
  โจแอนนาหันมามองเขา “มีวิธีโบราณที่สามารถใช้ตรวจสอบคุณสมบัติเทพ รวมถึงคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น คุณสมบัติปีศาจ คุณสมบัติปะปน และคุณสมบัติอสูร อย่างไรก็ตามวิธีการนั้นหายไปนานมาแล้ว อีกวิธีหนึ่งคือทำการทดสอบกับหินทองคำ
  “หินทองคำเป็นสมบัติทางธรรมชาติที่เกิดในเนตรแห่งอาณษจักร มันยังเป็นที่รู้จักในชื่อน้ำตาเทพ”
  จากนั้นเธอก็พูดเบา ๆ ว่า “ฉันรู้จักเทพสูงสุดที่มีหินทองคำ แต่น่าเสียดาย ตอนนี้เราอยู่ในแดนเทพอาเคี่ยนและไม่สามารถกลับไปได้ มิฉะนั้นเราจะสามารถยืมได้”
  “งั้นก็หมายความว่า เราต้องรอการทดสอบตอนนี้” ซูผิงพูดอย่างช่วยไม่ได้
  โจแอนนาพยักหน้า เธอเหลือบมองเขาและถังยู่หรานก่อนที่เธอพูดต่อว่า “ฉันได้ตรวจสอบคุณสมบัติเทพของฉันเมื่อหลายปีก่อน ฉันน่าจะผ่านมันไปได้ เว้นแต่พวกเขาจะพบว่าฉันเป็นผู้เข้าร่วมที่ไม่ได้ลงทะเบียน แต่ฉันไม่รู้ของพวกนายสองคน หากพิจารณาจากสิ่งที่ฉันรู้เกี่ยวกับนาย นายอาจมีคุณสมบัติเทพไม่เพียงพอ แต่คุณสมบัติปีศาจน่าจะเหนือชั้น”
  “…”
  ซูผิงอดไม่ได้ที่จะกลอกตา จะเยาะเย้ยเจ้านายเพื่ออะไร?
  ”ช่างเถอะ มันจะไม่เป็นเรื่องใหญ่แม้ว่าฉันจะไม่ผ่าน เพราะยังไงเธอก็ผ่าน อย่างน้อยหนึ่งในพวกเราจะได้รับการยอมรับ ว่าแต่ตัวตนของเธอในฐานะผู้กลับชาติมาเกิดจะไม่ถูกค้นพบใช่ไหม?”
  ซูผิงไม่ได้ตั้งใจจะเข้าร่วมสถาบันวิถีสวรรค์จริงๆ อยู่แล้ว เขาไม่ได้กังวลมากนัก
  โจแอนนาส่ายหัวเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ชายชราคนนั้นแข็งแกร่งมากจนเขาต้องตระหนักถึงตัวตนของฉันในฐานะผู้กลับชาติมาเกิดอยู่แล้ว ท้ายที่สุดแล้วผู้ที่อยู่เหนือกว่าหนึ่งระดับสามารถมองการกลับชาติมาเกิดออกได้ง่ายๆ ดวงตาของพวกเขาสามารถมองผ่านเวลาและมิติ และสังเกตเห็นความเชื่อมโยงระหว่างร่างกายของฉันกับตัวตนดั้งเดิมของฉันได้อย่างง่ายดาย
  “อย่างไรก็ตาม เขารับฉันเข้ามาแล้ว ซึ่งหมายความว่าน่าจะไม่มีปัญหา ตราบใดที่ฉันสามารถผ่านบททดสอบที่สามของการทดสอบได้”
  “ดีเลย” ซูผิงพยักหน้า เขาสามารถเข้าใจพลังของสภาวะเทพดวงดาวได้ไม่มากก็น้อย แต่ความสามารถที่ไม่น่าเชื่อของเทพอมตะขึ้นไปนั้นเป็นปริศนาสำหรับเขาโดยสิ้นเชิง
  ถังยู่หรานที่อยู่ใกล้ๆรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยหลังจากได้ยินสิ่งที่โจแอนนาพูด อย่างไรก็ตามเธอแอบดีใจด้วยซ้ำ เพราะเธอพบสิ่งหนึ่งที่เหมือนกันระหว่างเธอกับซูผิง
  คนส่วนใหญ่เป็นเจ้าดวงดาว พวกเขาส่วนใหญ่น่kจะไปถึงสภาวะเทพดวงดาว… ซูผิงมองไปรอบ ๆ ด้วยความรู้สึกหลากหลาก
  สภาวะเทพดวงดาวในสหพันธ์เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในจักรวาลขนาดใหญ่—  ถึงกระนั้น ที่นี่พวกเขาได้รับการฝึกฝนเป็นชุดๆ ที่สถาบันวิถีสวรรค์
  ทุกคนมีส่วนร่วมในการพูดคุยกันอย่างดุเดือด ดูเหมือนว่าบางคนจะรู้เรื่องคุณสมบัติเทพมาเยอะ และบรรยายยืดยาวเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซูผิงฟังพวกเขาและรู้สึกว่าเขาได้ความรู้ใหม่มากมาย
  ฝูงชนเริ่มกระจายตัวในหลายชั่วโมงต่อมา หลายคนเข้าไปในวังเป็นกลุ่มตั้งแต่สามถึงห้าคน
  วังนี้กว้างใหญ่ไพศาลมาก มีที่นั่งเพียงพอรองรับคนได้มากกว่าแสนคน
  ซูผิงและคนอื่นๆ ก็หาที่พักผ่อนเช่นกัน อย่างไรก็ตามความขัดแย้งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่อมีผู้คนจำนวนมากมารวมตัวกัน เทพระดับกลางหลายคนทะเลาะกันเรื่องที่นั่งของพวกเขา
  มีผู้คุมในวังที่คอยห้ามไม่ให้ประชาชนทะเลาะกัน การทะเลาะวิวาทกันจึงยุติลงโดยสันติ  “ฉันไม่รู้ว่าเทพจะวางตัวแบบนี้!”ถังยู่หรานโกรธอย่างเห็นได้ชัด เทพทั้งหมดคิดว่าเธอและซูผิงเป็นทาสของโจแอนนาเพราะพวกเธอเป็นมนุษย์ พวกเธอค่อนข้างไม่เป็นมิตร เธอจึงมีปากเสียงกับพวกเขา แต่พวกเขายังหยิ่งมากแม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าเธอและซูผิงเป็นผู้เข้าร่วม
  ซูผิงเคยชินกับสิ่งนี้แล้ว เขาจะสู้ด้วยปากถ้าไม่สามารถสู้ด้วยหมัดได้
  เขาไม่กลัวใครเมื่อพูดถึงการต่อสู้ด้วยปาก หลังจากเป็นนักรบคีย์บอร์ดมาหลายปี เขาพบว่าเหล่าเทพดูเด็กน้อยมาก
  “ไม่มีใครกล้ายุ่งกับเทพระดับสูง พวกมันเยาะเย้ยเราเพราะว่าเราแข็งแกร่งพอ” ซูผิงปลอบโยนถังยู่หราน
  หนึ่งในกลุ่มท่ามกลางผู้เข้าร่วมเป็นเทพระดับสูง เทพอื่น ๆ จะเปิดทางให้พวกเขา พวกเขานับถือเทพระดับสูงเหมือนคนจนที่นับถือมหาเศรษฐี พวกเขาทำตัวเหมือนขอทานต่อหน้าชนชั้นสูง  “ในตระกูลระดับสูงทุกตระกูลมีเทพโบราณ เทพโบราณสามารถทำลายตระกูลระดับกลางได้อย่างง่ายดาย และลบออกจากอาณาจักรแห่งเทพ พวกเขาสามารถกำจัดตระกูลระดับกลางออกจากต้นกำเนิดของสายเลือดและสาปด้วยเลือด!” โจแอนนาพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา เธอมองไปที่เทพระดับสูงอย่างเคร่งขรึม เธอจะยอมแพ้ถ้าพวกเขามาหาเรื่องเธอ
  เธอไม่มีทางเลือก หากเทพระดับสูงคนใดเป็นที่รักของเทพโบราณในตระกูล มันจะเป็นเรื่องง่ายมากที่เทพโบราณจะกำจัดตระกูลอื่นๆเพราะความโกรธแค้น
  ไม่มีใครกล้าดูหมิ่นเทพระดับสูง เว้นแต่พวกเขาจะเป็นเทพระดับสูงด้วยเหมือนกัน
  นี่คือความรู้สึกของพลังขั้นสูงสุด? ซูผิงคิด เหล่าเทพระดับสูงเป็นเหมือนราชวงศ์ท่ามกลางเหล่าเทพระดับอื่น ในขณะที่เทพระดับกลางเป็นเพียงชนชั้นสูงทั่วไป ชนชั้นสูงจะไม่เคารพหรือเกรงกลัวราชวงศ์ได้ยังไง?   สิบวันผ่านไปในพริบตา
  ซูผิงไม่ได้อยู่เฉยๆในช่วงสิบวันนี้ เขาอยู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดัง ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสร้างม่านพลัง โจแอนนาคอยดูแลเขา เขาสามารถพิจารณาเทคนิคลับเกี่ยวกับการใช้พละกำลัง เขาตั้งชื่อมันว่า “เทพปรากฏ”!
  น่าเสียดายที่ฉันไม่มีโอกาสได้ยืนยันการคาดเดาของฉัน แต่ฉันควรจะสามารถใช้ความแข็งแกร่งได้เก้าสิบเปอร์เซ็นต์! มันไม่ได้ดีเท่ากับร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างที่หวังไว้แต่แรก อย่างไรก็ตามเก้าสิบเปอร์เซ็นต์น่าจะเพียงพอ แม้ว่าฉันจะใช้กำลังทั้งหมดได้ที่นี่ แต่ฉันก็ไม่สามารถใช้เทคนิคนี้ได้ในความเป็นจริง ท้ายที่สุดฉันจะต้องปล่อยให้อสูรพาฉันไปหากฉันหมดแรง ฉันจะไม่มีพลังเหลือที่จะปกป้องตัวเองแล้ว ซูผิงคิด
  เมื่อเทียบกับการทดสอบที่กำลังจะมีขึ้น จริง ๆ แล้วเขากระตือรือร้นที่จะลองและยืนยันเทคนิคใหม่ที่เขาสร้างขึ้นมากกว่า  สิบวันผ่านไป มีเสียงเอะอะโวยวายดังมาจากนอกวัง ทุกคนในวังตรวจพบว่ามีผู้คนจำนวนมากที่มีพลังรัศมีเทียบเท่ากับพวกเขามาถึงแล้ว
  บางคนเดินออกจากวังและเห็นคนหน้าตาดีมากมายอยู่ข้างนอก มีทั้งชายและหญิง ผู้ชายหล่อ ผู้หญิงก็สวยมาก เมื่อยืนอยู่ตรงนั้นพวกเขาดูเหมือนเป็นศูนย์กลางของโลกเลย…

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านอสูรดวงดาว (Astral Pet Store) ร้านขายอสูรดวงดาว