บทที่ 10 การมาถึงของสินค้า
หลังจากที่ผ่านไปเป็นเวลานาน ฉิงเทียนก็สามารถจัดการกับข้อมูลในหัวของเขาได้เสร็จสิ้น!
เขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น ฉิงเทียนได้นำสิ่งของที่เขาซื้อมาวางไว้บนโต๊ะ ซึ่งมีเมล็ดองุ่นและขวดใส่น้ำวิญญาณ! ฉิงเทียนมองดูสิ่งของเหล่านี้ และคิดว่าการบริการของถาวเป่าสวรรค์นี้ช่างดีจริงๆ มีแม้กระทั่งคู่มือแนบมาด้วย
เมล็ดองุ่นนั้นสามารถใช้ทานหรือปลูกได้! เมล็ดองุ่นนั้นมีเขียนอธิบายเอาไว้แค่นั้น ช่างเป็นคู่มือที่เย็นชาเสียจริงๆฉิงเทียนคิดในใจ
จากนั้นเขาก็หันไปดูขวดสีเขียวที่บรรจุน้ำวิญญาณเอาไว้ ฉิงเทียนมองดูน้ำขวดนั้นด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัย ถ้าไม่ใช่เพราะเขารู้ว่าถาวเป่าสวรรค์นั้นไม่มีของปลอมแน่นอน เขาคงคิดว่าเขาน่าจะถูกหลอกให้ซื้อมาแน่ๆ: “ขวดเล็กๆแค่นี้สามารถบรรจุน้ำได้ถึง 100 ลิตรได้อย่างไรนะ?” เขาจึงลองเปิดคู่มือดูแล้วอ่าน: ขวดนี้เป็นแค่ขวดน้ำ สามารถใช้บรรจุน้ำเท่านั้น อย่ามองแค่ว่าขวดมีขนาดเล็ก แต่ขวดนี้สามารถใช้บรรจุน้ำได้มากกว่า 100 ลิตร
ฉิงเทียนจึงรีบไปหยิบแก้วน้ำมาที่โต๊ะ ความจุของแก้วน้ำนี้คือ 500 มิลลิลิตร ฉิงเทียนสามารถเติมน้ำได้เต็มแก้ว
“ไม่คิดเลยว่าขวดเล็กๆแค่นี้จะสามารถบรรจุน้ำได้เยอะขนาดนี้ สิ่งของที่พวกเซียนใช้กันนี่ช่างแตกต่างเสียจริงๆ” ฉิงเทียนสูดลมหายใจลึกๆแล้วถอนหายใจออกมา
หลังจากที่เดิมน้ำนั้นลงไป เขาก็รู้สึกได้ถึงความรู้สึกสดชื่นที่ออกมาจากร่างกายของเขา ราวกับว่ามีงูตัวเล็กๆว่ายอยู่ในร่างกายของเขา แต่มันทำให้เขารู้สึกสบายเนื้อสบายตัวอย่างมาก
รสชาติของมันก็ดีกว่าน้ำผลไม้หรือน้ำไหนๆที่ฉิงเทียนเคยดื่มมา รสชาติหวานๆของมันทำให้คนไม่สามารถที่จะอดใจได้ ฉิงเทียนจึงได้ดื่มน้ำนั้นเข้าไปเรื่อยๆ จนเหลือน้ำอยู่แค่หน่อยเดียวอยู่ในขวดน้ำนั้น น้ำจากโลกเซียนนี่มีสุดยอดจริงๆ หลังจากที่หาหินเซียนมาเพิ่มได้แล้ว คงจะต้องดื่มน้ำนี้ทุกวันซะแล้วสิมันช่างสดชื่นกว่าน้ำอื่นๆอีกนะเนี่ย
แต่เมื่อมองดูหินเซียนที่เขามีอยู่ “นั่นสินะ รายจ่ายมันช่างมากกว่ารายรับเสียจริงๆ! 80 หินเซียนที่หามาจ่ายออกไปจนหมดสิ้นแล้ว!”
สีหน้าของฉิงเทียนกลายเป็นรู้สึกหดหู่ขึ้นมา
ทันในนั้น ก็เหมือนมีข้อความดังขึ้นมาในหัวของฉิงเทียน ซึ่งดูเหมือนว่าจะมาจากวิชาที่มีค่ามากที่สุดของเขา: วิชาแปลงร่าง 36 ขุนพลสวรรค์ เป็นวิชาที่มีค่ามากวิชาหนึ่งในเรื่องไซอิ๋ว ถึงแม้ว่าตือโป๊ยก่ายนั้นจะสามารถแปลงร่างได้ไม่มากเท่าซุนหงอคง แต่ก็ยังแปลงร่างได้หลายอย่างอยู่ดี แน่นอนว่ามันเป็นวิชาที่สุดยอดวิชาหนึ่งเลยทีเดียว
ฉิงเทียนหลับตาของเขาและนึกถึงเคล็ดวิชาแปลงร่างขุนพลสวรรค์ 36 ท่าไว้ในหัว
หลังจากที่ผ่านไปเป็นเวลานาน ฉิงเทียนก็ลืมตาของเขาขึ้นมา!
วิชาแปลงกายขุนพลสวรรค์ 36 ท่านั้นช่างสุดยอดมากจริงๆ เขาสามารถแปลงร่างเป็นสิ่งต่างๆได้ถึง 36 อย่าง และยังสามารถใช้ความสามารถของสิ่งแปลงไปได้ถึง 80% ถึง 90% ด้วย อย่างไรก็ตามเพื่อที่จะฝึกวิชาแปลงร่างขุนพลสวรรค์ 36 ท่านั้น เขาจะต้องเคยเห็นสิ่งที่ต้องการจะเปลี่ยนเสียก่อน มีเพียงจะต้องฝึกวิชาตรงหน้าสิ่งที่ต้องการจะเป็นเท่านั้นถึงจะสามารถแปลงร่างเป็นเหมือนสิ่งนั้นได้แม้กระทั่งรูปร่างและลมหายใจ
ถ้าฉิงเทียนสามารถที่จะฝึกได้ครบทั้ง 36 ท่า ฉิงเทียนจะเป็นคนเดียวในโลกที่สามารถเปลี่ยนร่างได้ แค่คิดฉิงเทียนก็รู้สึกตื่นเต้นและคิดที่จะฝึกฝนมัน
แต่เขาก็คิดได้ว่ามันจะต้องมีของสิ่งนั้นจริงๆตั้งอยู่ตรงหน้าเสียก่อนขณะที่ทำการฝึกวิชาแปลงร่าง 36 ท่า และยังมีจำกัดการแปลงร่างได้แค่ 36 อย่างเท่านั้น แต่มีสิ่งมีชีวิตเป็นหมื่นชนิดบนในโลกใบนี้ ซึ่งเขาต้องเลือกที่จะแปลงมัน ทำให้มันรู้สึกเป็นเรื่องยากขึ้นมา!
เขายังฝึกฝนท่าแรกไม่สำเร็จ แต่ฉิงเทียนก็เริ่มกังวลถึงสิ่งที่เขาจะต้องแปลงในอนาคตเสียแล้ว!
หลังจากที่เขาได้เห็นสิ่งของทั้งหมด อารมณ์ของฉิงเทียนนั้นไม่ได้ตื่นเต้นอย่างในตอนแรกแล้ว ความเหนื่อยอ่อนเข้าครอบงำฉิงเทียนและเขาอยากที่จะไปที่เตียงเพื่อนอนหลับ
แสงไฟที่ทำให้ไม่รู้ว่ากลางวันหรือกลางคืน แสงไฟในเมืองก็ค่อยๆดับลง และพระอาทิตย์ก็ได้มาถึงเมืองแห่งนี้ และเมืองนี้ก็ได้กลับเข้าสู่ความวุ่นวายในช่วงกลางวันอีกครั้ง
แต่ฉิงเทียนนั้นยังคงหลับใหลอยู่ และในตอนที่ฉิงเทียนตื่นขึ้นมานั้น ก็เป็นเวลาบ่าย 3 ถึงบ่าย 4 โมงเย็นแล้ว
“หิวจังเลย!” ฉิงเทียนขยี้ตาของเขา
ทำไมเขาถึงได้มาหิวตอนนี้นะ! เขาจึงเดินไปที่ตู้เย็นแล้วหาอะไรเข้าปากทาน
หลังทานเสร็จแล้ว!
ฉิงเทียนที่กำลังเบื่อก็ได้ไปเปิดทีวี ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา ฉิงเทียนมองดูก็พบว่าเป็นข้อความส่งมาจากซูเสวี่ย: ฉิงเทียนไม่อยากชวนฉันไปทานมื้อค่ำแล้วหรือยังไง ทำไมถึงไม่เห็นคุณโทรมานัดฉันไปทานมื้อค่ำสักที? หรือคุณไม่อยากจะชวนฉันแล้วกันแน่นะ!
ฉิงเทียนจึงนึกขึ้นได้ว่าเขาสัญญากับซูเสวี่ยเอาไว้ว่าจะไปทานมื้อค่ำกับเธอ เขาจึงรีบส่งข้อความขอโทษไป: ซูสุดสวย คุณอยากที่จะไปทานที่ไหนไหม! ผมจะไปที่นั่นทันทีเลย!
ซูเสวี่ยก็ได้ตอบกลับมา: ก็ได้ สุดหล่อฉิง ไปที่โรงแรมหลงเถิงก็แล้วกัน
ได้เลย ผมจะรีบไปที่นั่นทันที ว่าแล้วฉิงเทียนก็ลุกไปเตรียมตัวอย่างรวดเร็ว
อีกด้านของโทรศัพท์ สุดสวยซูนั้นได้ก็มีรอยย่นเล็กน้อยที่จมูกของเธอและพูดขึ้น “ฉิงเทียน คุณบังอาจลืมเดตของซูสุดสวยคนนี้ได้ คอยดูเถอะวันนี้ฉันไม่ปล่อยคุณเอาไว้แน่”
จากนั้นเธอก็หยิบกระเป๋าของเธอขึ้นมาและเดินออกไปข้างนอกด้วยรองเท้าส้นสูง
อีกด้านหนึ่ง ฉิงเทียนผู้ที่ทำให้ซูเสวี่ยสุดสวยอารมณ์เสียนั้น กำลังจัดแต่งรูปลักษณ์ของตัวเองอยู่
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาจะได้ออกไปทานข้าวกับสาว แถมเธอยังเป็นคนที่สวยมากอีกด้วย แน่นอนว่าฉิงเทียนย่อมต้องใส่ใจในรูปลักษณ์ของเขา หลังจากที่เตรียมตัวเสร็จ ใบหน้าที่ขาวกระจ่างสดใส ไร้ริวรอยและหลุมบนใบหน้า ตาที่คมเข้มน่าหลงใหล คิ้วที่หนาเข้มและจมูกที่โด่ง เนื่องด้วยที่เขานั้นเป็นผู้ฝึกวิชาสวรรค์โลกาอย่างลึกซึ้ง ทำให้ฉิงเทียนนั้นมีรูปร่างและอารมณ์ที่เปลี่ยนไปอย่างมาก การเปลี่ยนแปลงนี้แม้จะค่อยๆเปลี่ยนไป แต่มันก็เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถ้าได้เจอกับฉิงเทียนทุกวัน ก็จะไม่รู้สึกว่าเขานั้นเปลี่ยนไปทุกๆวัน แต่ถ้าให้คนรู้จักของฉิงเทียนได้มาเจอเขาในตอนนี้ เขาคงจะต้องประหลาดใจอย่างมากและรู้สึกราวกับว่าเขาเป็นคนละคน
แล้วฉิงเทียนก็ได้นั่งรถแท็กซี่เดินทางไปยังโรงแรมหลงเถิง
แสงไฟด้านนอกของโรงแรมหลงเถิงนั้นอย่างกับจัดงานเลี้ยง ซึ่งเป็นเวลาที่เหมาะแก่การทานมื้อค่ำ ฉิงเทียนนั้นยืนรออยู่ด้านนอกและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาซูเสวี่ย “คุณซูสุดสวยครับ ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหนแล้วครับ? ผมมาถึงแล้วนะ”
มีเสียงตอบกลับมาจากอีกด้านของโทรศัพท์พูดขึ้นว่า “รอประเดี๋ยวนะ ฉันกำลังจะไปถึงที่นั่นแล้ว”
ไม่นานนัก ร่างก็สาวสวยก็ได้เดินมาหาฉิงเทียน คืนนี้ซูเสวี่ยนั้นแต่งตัวเป็นพิเศษมาก ใบหน้าของเธอนั้นได้แต่งแต้มแบบบางๆ ทำให้หน้าของเธอที่สวยอยู่แล้วสวยมากยิ่งขึ้นไปอีก ผมสีดำของเธอกับชุดเดรสสีขาวที่เธอใส่มานั้นทำให้เธอดูน่าหลงใหลมากขึ้นไปอีก ฉิงเทียนนั้นมองดูอย่างตกตะลึงและไม่รู้สึกตัวจนกระทั่งซูเสวี่ยได้เดินมาหาเขา
ซูเสวี่ยที่เดินมาหาฉิงเทียนและมองดูฉิงเทียนตั้งแต่หัวจรดเท้าจึงได้พูดชม “ฉิงเทียนวันนี้คุณหล่อมากเลย! ดูเหมือนว่าฉันจะทำให้คุณสนใจฉันจนถึงขนาดทำให้คุณแต่งตัวดีขนาดนี้”
ฉิงเทียนเมื่อได้ยินซูเสวี่ยพูดชมมาเขาจึงได้พูดชมกลับไป “คุณซูสุดสวยครับ วันนี้คุณก็แต่งตัวสวยมากเช่นกันครับ การที่ทำให้คุณซูสุดสวยยอมแต่งตัวเป็นพิเศษเช่นนี้ได้ ทำให้ผมรู้สึกมั่นหน้าตัวเองขึ้นมาเลย”
เมื่อเห็นฉิงเทียนโอ้อวดตัวเองเช่นนี้ ซูเสวี่ยก็ได้ยิ้มและพูดกลับไป: “ฉันไม่คิดเลยนะว่าปากของคุณ จะขี้โอ่ขนาดนี้”
ฉิงเทียนจึงได้ตอบกลับแบบยิ้มๆ “โอเคครับ ผมว่าพวกเราเลิกอวดตัวเองกันดีกว่า ผมหิวแล้วล่ะ เข้าไปข้างในหาอะไรทานกันเถอะ”
ซูเสวี่ยเองก็ผงกหัวของเขาแล้วพูดขึ้น “ได้ค่ะ ฉันทานตอนเที่ยงมานิดหน่อยเอง ฉันเก็บท้องเอาไว้ทานกับคุณโดยเฉพาะเลยนะ!”
เมื่อเห็นซูเสวี่ยพูดติดตลก ฉิงเทียนจึงได้ยิ้มและตอบกลับ “ตราบเท่าที่คุณซูสุดสวยอยากจะทานมื้อค่ำกับผมอีก ผมก็ยินดีที่จะชวนคุณมาทานอีกครับ”
ในโรงแรมหลงเถิง ฉิงเทียนเดินมาที่แผนกต้อนรับและถามขึ้น “มีห้องส่วนตัวว่างไหมครับ?”

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย