บทที่ 127 ฉางเอ๋อ
มองไปที่นายท่านที่กำลังมีสีหน้าหงุดหงิดมาก และมือของเขาก็ทุบตัวเองเป็นช่วงๆ เพ่าฝูจึงได้พูดขึ้น “นายท่านอย่าโทษตัวเองเลยเจ้าค่ะ เดี๋ยวข้าจะลองค้นดูให้ว่ามีหนทางแก้หรือไม่นะเจ้าคะ”
หลังจากที่ได้ยินที่เพ่าฝูพูดอยู่ในหัวของเขา ฉิงเทียนที่กำลังอาละวาดอยู่ในทะเลความรู้นั้นก็ได้ถามขึ้นมาอย่างฉุนเฉียว “เพ่าฝูมีวิธีอะไรอย่างนั้นเหรอ? ตรวจสอบดูทีสิ”
“นายท่านรอข้าค้นหาสักครู่นะเจ้าคะ!”
ในทะเลความรู้นั้น เพ่าฝูก็ได้ทำการค้นหาอยู่ในความทรงจำของเขาอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ความเป็นจริงฉิงเทียนนั้นกำลังขับรถกลับบ้านของเขาอยู่
ต้องขอบคุณที่ฉิงเทียนนั้น ได้ฝึกวิชาจนถึงขั้นเหลียนฉีแล้ว และการที่เขาได้ขยายขอบเขตของจิตศักดิ์สิทธิ์ออกไป ซึ่งได้ทำให้ฉิงเทียนนั้นสามารถทำทั้งสองอย่างพร้อมกันได้ ทำให้ซูเสวี่ยที่นั่งอยู่ข้างๆเขานั้นไม่รู้ว่าฉิงเทียนนั้นกำลังขับรถขณะที่กำลังสนทนาอยู่กับเพ่าฝูในทะเลความรู้
เสียงคำรามของเครื่องยนต์รถแลนด์โรเวอร์ดังขึ้นมาขณะที่กำลังแล่นไปตามถนน เพราะว่ามีผู้คนอยู่มากกว่าปกติในเมืองโม๋ตูช่วงสิ้นปี ถึงแม้จะเป็นเวลา 4 ทุ่มแล้วก็ตามที แต่ก็ยังมีรถเต็มท้องถนนอยู่เลย
ตึกที่สูงใหญ่ของโม๋ตูและแสงไฟที่อลหม่านในยามค่ำคืนและรถที่แล่นขวักไขว่ไปทุกทิศทุกทาง ซูเสวี่ยที่กำลังนั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับก็ได้มองไปที่ฉิงเทียนอย่างเงียบๆ
เพราะซูเสวี่ยนั้นสงสัยมากว่าเมื่อสักครู่นั้นเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เธอแค่คิดจะบอกให้ที่รักของเธอรู้เท่านั้นว่าเธอได้สำเร็จวิชาในระดับเหลียนฉีและทำให้เขารู้สึกยินดีเท่านั้น
แต่ทว่าซูเสวี่ยนั้นไม่คิดว่าฉิงเทียนนั้นกลับไม่ได้แสดงสีหน้ามีความสุขหรือพูดแสดงความยินดีเลยเมื่อเขาได้ยินว่าเธอสามารถบรรลุชั้นเหลียนฉีได้ กลับกันฉิงเทียนนั้นกลับเงียบมาตลอดทาง
“หรือว่าการที่เราบรรลุชั้นเหลียนฉีได้ก่อนฉิงเทียนนั้นจะทำให้เขารู้สึกไม่ดีกันนะ?” ซูเสวี่ยคิดแบบนั้นแต่ไม่กล้าที่จะถามออกไป อย่างไรเสียการที่เธอได้เดินบนวิถีของเซียนนั้นก็ได้ฉิงเทียนเป็นผู้นำพามา ดังนั้นจึงมีแต่ความเงียบตลอดการเดินทาง
ฉิงเทียนโยนกุญแจวางไว้ที่โต๊ะแล้วนั่งลงที่โซฟาสายตาจ้องอย่างเหม่อลอย ราวกับเขาไม่รู้ว่าซูเสวี่ยนั้นได้มาที่บ้านด้วย
แน่นอนว่านั้นคือสิ่งที่สายตาของซูเสวี่ยมองเห็น แต่จริงๆแล้วฉิงเทียนนั้นกำลังใช้สมาธิอย่างมากอยู่ในทะเลความรู้ และรอข่าวจากเพ่าฝูอย่างกระวนกระวายใจ
เพ่าฝูนั้นได้กระพือปีกที่หลังแบกเอาตัวของเธอบินไปมาในทะเลความรู้ แล้วเธอก็พูดพึมพำ “ทำอย่างไรถึงจะแก้เรื่องร่างกายจิ่วยินเสวียนยินได้นะ?”
แต่เรื่องทำให้ซูเสวี่ยที่อยู่ใกล้ๆนั้นอึดอัดมาก ด้วยบรรยากาศที่หนักอึ้งในบ้าน ไม่มีเสียงอื่นใดนอกจากความเงียบ
จนในที่สุดภายใต้บรรยากาศที่กดดันก็ทำให้ซูเสวี่ยนั้นทนไม่ไหว และไปที่ด้านหน้าของฉิงเทียนด้วยความนุ่มนวลและออดอ้อนแล้วพูดออกไป “พี่เทียน ทำไมคุณถึงไม่ยอมพูดอะไรเลยตลอดทาง”
ฉิงเทียนนั้นที่จู่ๆก็รู้สึกถึงร่างกายที่นุ่มนิ่มของร่างกายเขาจึงได้ออกมาจากทะเลความรู้ เขาถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าซูเสวี่ยนั้นก็อยู่ที่บ้านด้วย และมองไปที่สีหน้าที่คับข้องใจของซูเสวี่ย เขาจึงรู้ตัวว่าเขานั้นตั้งหน้าตั้งตารอฟังข่าวจากเพ่าฝูในทะเลความรู้มากเกินไปจนลืมซูเสวี่ยไปเสียสนิท
“เสวี่ยเอ๋อก็อยู่ที่บ้านด้วยเหรอเนี่ย?” ฉิงเทียนพูดพร้อมกับยิ้ม
ฉิงเทียนที่จู่ๆพูดมาแบบนั้นทำให้ซูเสวี่ยนั้นไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ซึ่งหมายความว่าเขาไม่ได้รู้สึกตัวว่าเธอนั้นมาที่บ้านด้วย
“คุณมัวแต่คิดบ้าอะไรอยู่?” มองของซูเสวี่ยนั้นยืนไปดึงหูของฉิงเทียน “ตั้งแต่ขับรถเมื่อสักครู่แล้วนะ”
“เจ็บๆ….ที่รักยกโทษให้ผมด้วยเถอะ” ฉิงเทียนร้องขอความเมตตา
จริงๆแล้วซูเสวี่ยนั้นไม่ได้ออกแรงดึงหูที่รักของเธอมากมาย แต่ฉิงเทียนนั้นกลับแกล้งทำเป็นเจ็บปวดมากมาย ซึ่งเป็นความสนุกของคู่รักคู่นี้
ถึงแม้ซูเสวี่ยนั้นจะรู้ว่าฉิงเทียนนั้นแกล้งทำเป็นเจ็บแต่เธอก็ได้ปล่อยหูของฉิงเทียน และเมื่อฉิงเทียนเห็นว่าซูเสวี่ยนั้นปล่อยมือออกจากหูของเขาแล้ว ฉิงเทียนก็ได้คว้าซูเสวี่ยเข้ามาในอ้อมกอดของเขาทันที

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย