บทที่ 13 เหล่าพี่ชาย
หลังจากที่โทรศัพท์หาหวงเห่าเสร็จ ฉิงเทียนก็รับประทานอาหารเช้า
ฉิงเทียนนั่งขัดสมาธิที่เตียงและเริ่มฝึกวิชา ฉิงเทียนนั้นได้พร้อมที่จะบรรลุวิชาสวรรค์โลกาขั้นแรกในวันนี้ ตั้งแต่ตอนที่ฉิงเทียนได้วิชาสวรรค์โลกามาเขาก็อยากที่จะบรรลุขั้นแรกให้ได้มาโดยตลอด
ฉิงเทียนหยิบเมล็ดองุ่นที่เขาซื้อมาจากโผเถโจ๊ซือขึ้นมา
“จะทำได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับเจ้าแล้วนะ อย่าทำให้ฉันผิดหวังซะล่ะ” เขามองดูเมล็ดองุ่นในมือของเขา แล้วฉิงเทียนก็โยนมันใส่เข้าไปในปากของเขา จากนั้นก็หลับตาแล้วรู้สึกถึงมัน
นั่งขัดสมาธิทำสมาธิแล้วท่องบริกรรมคาถาในใจ ชั่วขณะนั้นฉิงเทียนรู้สึกว่าเขากำลังดำดิ่งอยู่ในอาณาเขตลี้ลับ
ทุกรูขุมขนของฉิงเทียนล้วนเปิดออกและเมล็ดองุ่นในท้องของเขาก็ได้แปรเปลี่ยนกลายเป็นพลังวิญญาณที่บริสุทธิ์ไปผสานกับการเดินพลังของฉิงเทียน พลังวิญญาณนั้นได้เคลื่อนย้ายไปยังทุกส่วนของร่างกายของฉิงเทียนก่อนจะหายไป แล้วก็วนเวียนแบบนี้ไปเรื่อยๆ
1 ชั่วโมงผ่านไป 2 ชั่วโมงผ่านไป
พระอาทิตย์เคลื่อนย้ายจากตะวันออกไปยังตะวันตก!
หลังจากที่ผ่านไปเป็นเวลานาน ฉิงเทียนก็ได้ยืดตัวลุกขึ้นยืน และในที่สุดเขาก็บรรลุวิชาขั้นแรกจนได้
“ในที่สุดก็ได้จะฝึกวิชาแปลงร่าง 36 ขุนพลสวรรค์และดาบบินได้เสียที” หัวใจของฉิงเทียนนั้นไม่รู้สึกสงบใจได้เป็นเวลานานแล้ว
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูและมองดูมันก็พบว่า มันเป็นเวลา 5 โมงเย็นแล้ว ฉิงเทียนจึงได้นั่งแท็กซี่เดินทางไปยังสถานที่นัดของเขา
ย่านลู่ก่าง เมืองโม๋ตู
ที่นี่คือโลกของนักทานในเมืองโม๋ตู ร้านอาหารทุกประเภทอยู่ที่นี่ไม่ว่าจะอาหารเกาหลี อาหารหม้อไฟที่สุดยอด อาหารเสฉวนและหูหนาน บาร์บีคิวและอาหารอย่างดีอื่นๆอีกมากมายล้วนแล้วรวมกันอยู่ที่นี่
ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นแหล่งนัดพบยอดนิยมของเหล่านักเรียนนักศึกษา เพื่อมาหาร้านแผงลอยนั่งทานกับเพื่อนๆ และยังมีซุ้มร้านเบียร์ เนื้อแกะย่างเสียบไม้ เนื้อปลาหั่นย่าง และที่ขาดไม่ได้คือหม้อไฟสำหรับฤดูหนาวเช่นนี้
ถึงแม้ว่าจะเดือน 11 แล้วก็ตาม แต่เขาก็ยังเห็นเจ้าของร้านสวมเสื้อแขนสั้นและส่งเสียงดังดูวุ่นวายอยู่ในร้าน
มีกลิ่นของอร่อยโชยมาจากในร้านลอยไปตามถนน “เถ้าแก่ครับ ผมขอเนื้อแกะย่าง 20 ไม้เลยครับที่โต๊ะนี้ด้วยครับ”
“ได้เลย!” มีเสียงตอบกลับมาอย่างรวดเร็ว
ฉิงเทียนเดินเข้ามาในร้านแผงลอยขนาดใหญ่ที่ชื่อว่า “ฉีเว่ยจู” ถึงจะบอกว่าเป็นร้านแผงลอยขนาดใหญ่แต่ก็มีพื้นที่อยู่แค่ 10 ตารางเมตรเท่านั้น และโต๊ะส่วนใหญ่นั้นก็ถูกจัดวางเรียงรายอยู่ด้านนอก
ขณะที่เขากำลังมองหาที่ว่างอยู่นั้นฉิงเทียนก็ตะโกนออกไป “เถ้าแก่ ผมขอเบียร์หนึ่งชุด เนื้อแกะย่าง 50 ไม้ ปลาย่างมาตัวแล้วก็หม้อไฟด้วยครับ”
“ได้เลย” มีเสียงที่หนักแน่นของเถ้าแก่ตอบกลับมา
“น้องสี่ มาถึงไว” มีเสียงที่ดูแข็งแกร่งดังขึ้นมา ฉิงเทียนเงยหน้าขึ้นไปก็พบว่าจ้าวก่างกับหวงเห่าได้มาถึงแล้ว
จ้าวก่างนั้นเป็นคนที่มีร่างกายกำยำ และมีใบหน้าที่ดูจริงจังมาก ผู้คนที่ได้เห็นเขาเป็นครั้งแรกจะต้องคิดว่าเขาเป็นคนตรงไปตรงมาแน่ แต่จริงๆแล้วเขานั้นเป็นคนที่เจ้าเล่ห์จอมวางแผนที่สุดในบรรดาทั้ง 4 คน หาใช่ฉิงเทียนไม่
ส่วนหวงเห่านั้นคือคนที่ใส่แว่นและมีลักษณะเหมือนพวกนักวิชาการ ร่างกายเขาดูบางและอ่อนแอ เขานั้นอายุยังไม่ถึง 30 แต่กลับได้เป็นถึงเลขานุการของผู้ว่าการเมืองโม๋ตู
จ้าวก่างและหวงเห่าก็ได้พากันนั่งลงตามลำดับ แล้วฉิงเทียนก็พูดขึ้น “นั่งเลยๆ ผมสั่งอาหารรอไว้แล้ว”
เมื่อจ้าวก่างเห็นหน้าของฉิงเทียนเขาก็พูดขึ้นด้วยความประหลาดใจ “น้องสี่ นายไปทำศัลยกรรมพลาสติกมางั้นเรอะ? ทำไมใบหน้านายถึงได้ดูขาวเนียนขนาดนั้น?”
หวงเห่าก็พูดตามเขามา “น้องสี่ นายจะไปเป็นกะเทยไม่ได้นะถึงนายจะตกงานก็ตาม! พวกพี่ยังสามารถเลี้ยงดูแกได้ อย่าทำร้ายตัวเองแบบนั้น”
เมื่อฉิงเทียนได้ยินที่พวกเขาพูดสีหน้าของเขาก็ซีดเผือดขึ้นมาและตะโกนไป: “ไอ้พวกบ้า ใครกันจะไปเป็นกะเทยเล่า? นี่เขาเรียกว่าหล่อเหลาต่างหากล่ะ อย่ามาอิจฉาก็แล้วกัน”
หลังจากที่หยอกล้อกันจบ
จ้าวก่างก็ได้ถามเขาอย่างจริงจัง “เกิดอะไรขึ้นกันแน่น้องสี่?” หวงเห่าเองก็มองมาทางฉิงเทียนด้วยความเป็นห่วง


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย