บทที่ 135 เข้าสู่สวรรค์
“อืม, ในเมื่อเธอว่าอย่างนั้น ผมก็ไม่มีอะไรต้องกังวลเรื่องของการไปสวรรค์แล้ว!” ฉิงเทียนพูดอย่างยินดี
หลังจากที่พูดจบ ในห้องนั้นฉิงเทียนบอกไม่ได้เลยว่าเขานั้นตื่นเต้นมากเพียงใด เขาได้นอนลงบนเตียงโดยเอาหัวหนุนมือตัวเองเอาไว้แล้วหลับตาปี๋ แต่หัวใจของเขานั้นยังเต้นเร็วขึ้นเรื่อยๆอยู่ ในห้องนั้นไฟได้ปิดลงในห้องมืดสนิทไม่เห็นแม้แต่นิ้วมือตัวเอง ในเวลานี้เขาได้ยินแต่เสียงเต้นของหัวใจของเขาอยู่บนเตียง
เขาผู้นอนพลิกซ้ายทีขวาทีเพราะไม่สามารถหลับลงไปได้ เมื่อเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่าใกล้ได้เวลา 5 ทุ่มแล้ว
“หลับสิ หลับ….” ฉิงเทียนนอนบ่นอยู่ในใจ สุดท้ายฉิงเทียนก็เลยเริ่มนับแกะดู “แกะหนึ่งตัว แกะสองตัว แกะสามตัว แกะสี่ตัว แกะห้าตัว แกะหกตัว…..”
“ทำไมเราถึงไม่หลับสักทีนะ? ไม่ใช่ว่าคนอื่นๆเขานับแกะแล้วหลับไม่ใช่เหรอ ทำไมเราถึงไม่หลับล่ะ” ฉิงเทียนมองดูนาฬิกาที่กระชั้นชิดเวลานัดหมายเข้ามาเรื่อยๆ หลังจากที่บ่นเสร็จ ฉิงเทียนก็ได้นอนหายใจอย่างสงบโดยที่เขาไม่รู้ตัว!
“เอ๊ะ เราอยู่ที่ไหนเนี่ย เมื่อกี๊เรายังนอนนับแกะอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?” เขามองดูรอบๆที่เป็นสีขาวและว่างเปล่า มีเพียงแต่ก้อนเมฆที่ลอยผ่านไปมา
“เฮ้ แล้วทำไมที่พื้นมันถึงได้นุ่มขนาดนี้เนี่ย?” ฉิงเทียนก้มหัวลงมาแล้วลองจับดู เขาพบว่ามีก้อนเมฆอยู่ใต้เท้าของเขาแล้วไม่มีอะไรอยู่เลย
ฉิงเทียนจึงได้รู้สึกตัวว่าตอนนี้เขาอยู่บนสวรรค์แล้ว!
“เราอยู่ในสวรรค์แล้ว” ฉิงเทียนพูดอย่างมีอารมณ์ในใจเขา “ทำไมถึงได้ดูแตกต่างจากที่เราคิดเอาไว้จังเลยนะ?”
ที่เขาคิดเอาไว้นั้น เขาเป็นคนที่ไท่ไป๋จินซิงเชิญมา และถึงเขาจะเป็นเจ้าหน้าที่สวรรค์ระดับ9ก็เถอะ แต่เขาก็เพิ่งขึ้นมาบนสวรรค์เป็นครั้งแรก อย่าว่าแต่จะไม่เห็นผู้คนเลยจริงๆควรจะมีคนที่มารับเขาด้วยซ้ำ แล้วเขาขึ้นมาบนนี้โดยที่ไม่พบใครเลยได้อย่างไร?
“เพ่อฝู เพ่าฝู….” ฉิงเทียนตะโกนเรียกเพ่าฝูในทะเลความรู้ของเขา ในความคิดของเขานั้นเพ่าฝูนั้นน่าจะรู้เรื่องของสวรรค์ดีกว่าเขา อย่างไรเสียเธอก็เป็นของจากโลกสวรรค์อยู่แล้ว อย่างไรก็ได้ไม่ว่าฉิงเทียนจะตะโกนในทะเลความรู้ไปกี่ครั้ง ก็ไม่มีเสียงของเพ่าฝูตอบกลับมา
“เฮ้ เกิดอะไรขึ้นกับเพ่าฝู?” ฉิงเทียนรู้สึกสงสัย
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกเพ่าฝูเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ฉิงเทียนจะตอบรับเสียงเรียกของเธอจากในทะเลความรู้อย่างเดียว แต่ในคราวนี้เธอไม่ได้ตอบเขากลับมา “หรือว่าเพ่าฝูจะหลับไปอีกแล้วนะ?”
ในเวลานี้ฉิงเทียนนั้นได้เดาถูกจริงๆ เพราะเพ่าฝูนั้นได้หลับไปทันทีตอนที่ฉิงเทียนได้ขึ้นมาบนสวรรค์ ในอดีตเพ่าฝูนั้นเป็นสิ่งของจากบนสวรรค์ เธอนั้นเคยชินกับพลังงานที่สูงของพลังเซียน แต่หลังจากที่เธอในลงไปเข้าร่างของฉิงเทียนบนโลก ทำให้ร่างกายของเพ่าฝูนั้นอยู่ในสภาวะที่ไม่เพียงพอตลอดเวลา ในเวลานี้เมื่อเธอได้มาที่โลกสวรรค์แล้วเธอจึงไม่ได้สามารถดูดพลังงานจำนวนมากเช่นนี้ได้ เมื่อเธอได้รับพลังงานที่มากเกินไปจึงทำให้เธอทำการย่อยพลังงานเหล่านี้ด้วยการหลับสนิท
แต่สิ่งนี้ได้ทำให้ฉิงเทียนลำบาก เพราะคนที่จะแนะนำสวรรค์เขาได้เพียงคนเดียวได้หายไปแล้ว แล้วรอบๆก็มีแต่สีขาวล้วนเต็มไปหมด ทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดขึ้นมานิดหน่อย
“เฮ้อ ดูเหมือนเราจะต้องทำการฝึกสักพักก็แล้วกัน แล้วคอยดูว่าจะมีคนมารับเราไหม?” ฉิงเทียนพูดขึ้นมา แล้วจากนั้นเขาก็นั่งลงขัดสมาธิแล้วทำการดูดพลังเซียน
ระดับของพลังเซียนนั้นสูงกว่าพลังวิญญาณมากนัก ยิ่งไปกว่านั้นบนโลกเนื่องด้วยอุตสาหกรรมของมนุษย์โลก และมลพิษที่อยู่ในขั้นวิกฤติได้ทำให้พลังวิญญาณในโลกอ่อนแอมาก
ดังนั้นฉิงเทียนจึงได้รู้สึกเป็นครั้งแรกที่เขาได้รับพลังวิญญาณอย่างเต็มปากเต็มคำเช่นนี้ ได้ทำให้วิชาสวรรค์โลกาที่อยู่ในใจของฉิงเทียนนั้นโลดเต้นขึ้นมา!
ตำหนักเมฆม่วง
“ทำไมฉิงเทียนถึงได้ขึ้นมาอยู่บนสวรรค์ได้?” หงจวินเหล่าจู่หยิกแก้มตัวเอง เมื่อเขารู้สึกได้ว่าฉิงเทียนนั้นได้ขึ้นมาอยู่บนโลกสวรรค์แล้ว หลังจากที่มองผ่านอากาศออกไป ก็มีชิ้นหยกที่เต็มไปด้วยแสงสีฟ้าอ่อนได้ส่องแสงออกมาจากบนมือของหงจวินเหล่าจู่ แล้วเมื่อหงจวินเหล่าจู่ได้ขว้างไปในอากาศ ชิ้นหยกนั้นก็ได้บินมุ่งหน้าไปยังที่ๆฉิงเทียนอยู่อย่างรวดเร็ว
หลังจากที่เสร็จเรียบร้อยแล้ว หงจวินเหล่าจู่ก็ได้ลูบหนวดยาวๆของเขาแล้วพูดขึ้น “ไม่นึกเลยว่าเจ้าหนูนั่นจะขึ้นมาบนสวรรค์เร็วเช่นนี้ บางทีชิ้นหยกนี่อาจจะน้อยไปสำหรับเขาก็ได้”
แล้วชิ้นหยกนั้นก็ได้จมลงไปในทะเลความรู้ของฉิงเทียนที่กำลังฝึกวิชาอยู่อย่างรวดเร็ว โดยที่เขาไม่ได้รู้สึกถึงอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกเลย ฉิงเทียนนั้นเป็นเหมือนกับแม่เหล็กที่กำลังทำการดูดเอาพลังเซียนรอบตัวเขาให้เข้าไปหา อย่างไรก็ตามหลังจากที่ชิ้นหยกได้เข้าไปในทะเลความรู้แล้ว ความเร็วในการดูดซับพลังของฉิงเทียนก็ได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับมีพายุหมุนอยู่รอบๆตัวเขา
เพื่อที่จะเสริมสร้างรากฐานของการฝึกวิชา พลังวิญญาณก็ได้เข้ามารวมตัวกันอีกครั้ง แล้วทำการบีบอัดอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็ได้มารวมตัวกันจนเหมือนกับยาลูกกลอนสีทองคำขาวที่มีขนาดพอๆกับเม็ดถั่ว แล้วแผ่นหยกนั้นก็ได้ส่องแสงสีทองออกมาเป็นตัวหนังสือปริศนาและสัญลักษณ์แปลกๆบนชิ้นหยกนั้น
ในเวลานี้ แน่นอนว่าฉิงเทียนนั้นไม่รู้เลยว่าการที่เขาได้มาบนสวรรค์นั้นจะทำให้เขาได้พบกับโอกาสครั้งใหญ่เช่นนี้
“ใช่แล้ว เขาบรรลุขั้นจินตันได้แล้ว เจ้าหนูนั่นบรรลุถึงขั้นจินตันชั้นที่ 9 แล้ว” หงจวินเหล่าจู่พูดอย่างมีอารมณ์ “เจ้าหนูนั่นสอนได้” ในตำหนักเมฆม่วงที่ว่างเปล่านั้น มีแต่เพียงเสียงของหงจวินเหล่าจู่ที่หัวเราะลั่นออกมา
“แต่เอ เจ้าตราประทับในทะเลความรู้นี่ออกจะดูแปลกๆตานิดหน่อยนะ?” ด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของหงจวินเหล่าจู่ที่เข้าไปในทะเลความรู้ของฉิงเทียนนั้น ทำให้ไม่มีความลับใดๆอยู่ในตัวของฉิงเทียนอีก ทุกสิ่งทุกอย่างของเขานั้นถูกเห็นโดยหงจวินเหล่าจู่หมดแล้ว
แล้วตราประทับนั้นก็ได้ลอยออกจากทะเลความรู้ของฉิงเทียนหลังจากที่หงจวินเหล่าจู่ได้โบกมือ แล้วบินไกลออกไป

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย