เข้าสู่ระบบผ่าน

ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย นิยาย บท 139

บทที่ 139 การแยกกันของ 3 ตระกูล

มีคนนั่งอยู่ทั้งสองฝากของห้องประชุมที่ดูโอ่โถง ซึ่งผู้ที่นั่งอยู่หัวโต๊ะของทั้งสองฝั่งนั้นคือพานเหล่ยผู้นำแก๊งชิง และบอดดำผู้นำแก๊งทะเลดำ

พานเหล่ยสวมเสื้อสูทสีดำกับแว่นตากรอบทอง ซึ่งให้อารมณ์บ่งบอกว่าเขานั้นเป็นนักวิชาการ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนแบบนี้จะมาเกี่ยวข้องกับโลกใต้ดินเช่นนี้ ส่วนคนที่ชื่อว่าบอดดำนั้น เป็นผู้นำของแก๊งทะเลดำ ซึ่งก็เหมือนกับชื่อของเขา เป็นชายที่มีผิวคล้ำและตาซ้ายที่บอด

“จะบ้ารึยังไง พานเหล่ยเจ้าต้องอธิบายให้ข้าฟังในวันนี้เลยนะว่า ทำไมพวกเราถึงร่วมมือกันเปิดตลาดมืดตามลำพังไม่ได้และทำไมพวกเราถึงต้องเพิ่มคนด้วย, มีแค่ข้ากับเจ้าสองคนแบ่งเงินก็ดีอยู่แล้วจะต้องมีคนเพิ่มมาหารส่วนแบ่งของพวกเราเพิ่มอีกทำไม! พวกเราแก๊งทะเลดำจะไม่ยินยอมแบ่งผลประโยชน์นี้ให้ใครเด็ดขาด” บอดดำพูดบ่นออกมา

ส่วนพานเหล่ยได้ยินที่บอดดำว่าเขามา เขาก็ไม่ได้พูดเสนออะไรออกมา แต่ยิ้มแบบเหมือนเห็นคนโง่ ก่อนจะขยับแว่นแล้วพูดขึ้นมา “กี่ปีแล้วที่คุณไม่ได้เปลี่ยนหัวสมองของคุณเลย มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่พวกเราจะครอบครองตลาดมืดตามลำพังได้ คุณไม่รู้รึยังไงว่ามีคนมากมายแค่ไหนที่จ้องจะเล่นงานพวกเราบ้างในเวลานี้ พวกเราที่เป็นเหมือนแกะสองตัว และมีหมาป่าหิวโหยเป็นฝูงอยู่ด้านหลังพวกเรา

“ตอนนี้พวกเราได้ปล่อยข่าวลือไปแล้วว่าจะให้ 1 กลุ่มมาเข้าร่วมกับพวกเรา จากนั้นเราก็โยนกระดูกออกไป แล้วปล่อยให้พวกหมาป่าที่หิวโดยพวกนั้นฆ่ากันเองก่อนจนกระทั่งพวกมันบาดเจ็บสาหัสและหมดแรงกันไปเอง หลังจากนั้นการจะปกครองตลาดมืดก็จะไม่ใช่เรื่องเกินมือพวกเราอีกต่อไป”

หลังจากที่ได้ยินที่พานเหล่ยอธิบาย บอดดำก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาแล้วยกนิ้วโป้งให้พ่านเหล่ยแล้วพูดขึ้น “แม่งเอ๊ย, เจ้าบ้าพานเหล่ยแผนการร้ายของเจ้านี่มีเยอะจริงๆ ข้าชอบมันจริงๆ!”

“ข้าตัดสินใจละข้าจะเอาตามแผนนี้ พานเหล่ยข้าเห็นด้วยกับความคิดของเจ้า”

เมื่อเห็นว่าบอดดำตอบตกลงแล้ว พานเหล่ยก็อดไม่ได้ที่จะบ่นในใจ “ช่างเป็นคนที่หัวทึบเสียจริงต้องให้อธิบายซะละเอียดขนาดนี้” แต่ก็ยังมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเขาแล้วพูดออกมา “โอเค, ในเมื่อคุณตกลงเห็นด้วยแล้ว ก็เริ่มลงมือกันเลย! วันนี้มีมากกว่า 20 กลุ่มที่มาเข้าร่วมจากทั้งในโลกใต้ดินและบนดิน”

ตลาดมืดนั้นไม่ต่างอะไรกับอาหารอันโอชะในโม๋ตู หากว่าพวกเขาสามารถเข้าร่วมได้รับส่วนแบ่งของตลาดมืดแม้เพียงน้อยนิด มันก็จะเป็นเงินจำนวนที่กลุ่มเล็กๆสามารถใช้ได้ตลอดทั้งปี

“ดังนั้น พวกเราจะจัดการใครก่อนดี?” ขณะที่บอดดำพูดจบประโยคนั้นเอง เขาก็ได้ยินเสียงดัง “ปัง” ขึ้นมาและพบว่าประตูได้เปิดออกอย่างแรง ด้วยการเตะประตูให้เปิดออกเต็มแรง

“คุณเหลียนครับ คุณเข้าไปไม่ได้นะครับ!” มีเสียงกลุ่มคนดังตามมา

“ทำไมข้าถึงเข้าไปไม่ได้? ถ้าข้าอยากจะเข้าไป” เหลียนเหวินพูดขึ้นมา จากนั้นก็มีเสียงเหมือน “ฟ้าผ่า” ดังออกมาข้างนอกเป็นระยะๆ และจากนั้นก็ได้ยินเสียงคนครวญครางตามมา

ส่วนคนอื่นๆที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ก็ได้พากันลุกขึ้นยืน เมื่อมองไปที่ประตูก็พบเหลียนเหวินที่เดินเข้ามาด้วยบรรยากาศแบบหยินหยาง “ฉันที่เป็นผู้นำตลาดมืดไม่อยู่ แต่พวกแกกลับคิดที่จะแยกตัวงั้นรึ?”

การปรากฏตัวของเหลียนเหวินนั้น ทำให้บอดดำและพานเหล่ยต่างก็กระอักกระอ่วน อย่างก็ตามถึงพวกเขาจะทำผิดก็จริง แต่ในเวลานี้พวกเขาเห็นลูกน้องของพวกเขาถูกอัดเสียจนจมูกช้ำ, หน้าบวมและปากเต็มไปด้วยเลือด พวกเขาต่างวิ่งมาหาและก้มหัว “ขอโทษครับหัวหน้า พวกเราหยุดเอาไว้ไม่ได้ครับ”

“ไม่เป็นไร พวกนายออกไปก่อนและรักษาตัวให้เรียบร้อย” เมื่อเห็นพี่น้องถูกทำร้ายจนเป็นเช่นนี้ บอดดำก็ได้ละทิ้งอาการอึกอักเมื่อสักครู่ แล้วลุกจากเก้าอี้ด้วยความโกรธและพูดกับเหลียนเหวิน “ท่านผู้นำเหลียน ลูกน้องของข้าไปล่วงเกินเจ้าอย่างนั้นเหรอ? เจ้าถึงได้ทำร้ายพวกเขาจนเป็นแบบนี้ ถ้าเจ้าไม่บอกเหตุผลกับข้ามาสักเหตุผล วันนี้เจ้าก็อย่าหวังจะได้กลับออกไปจากประตูนี้”

เหลียนเหวินเดินมาที่เก้าอี้ตัวหนึ่งอย่างช้าๆ พลังวิญญาณที่แข็งกล้าดูได้แผ่ออกมาทำให้คนที่นั่งเก้าอี้ตัวนั้นอยู่ลงไปนั่งกับพื้นทันที จากนั้นเขาก็นั่งลงโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า ส่วนคนคนนั้นก็รีบลุกจากพื้นอย่างอายๆและได้รีบวิ่งไปยืนอยู่ข้างหลังบอดดำแทน

“บ้าเอ๊ย, ทำไมเจ้าถึงได้ทำให้ขายขี้หน้าเช่นนี้? ออกไปข้างนอกไป” บอดดำที่กำลังโกรธก็ได้ว่าลูกน้องเขาที่อยู่ข้างหลัง

“แล้วเจ้ามีธุระอะไรถึงได้มาที่นี่วันนี้?” พานเหล่ยถามเหมือนไม่ได้ทำอะไร

เหลียนเหวินที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ก็ได้พูดออกมาอย่างช้าๆ “พวกเจ้าคิดจะแยกตัวทั้งที จะไม่ให้ข้ามาได้อย่างไร?”

พานเหล่ยและบอดดำหันมาจ้องหน้ากันเองแล้วพูดขึ้น “เหลียนเหวิน คุณก็น่าจะรู้ดีถึงสถานการณ์ของตลาดมืดของพวกเรา ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้าลูกชายของคุณไปก่อเรื่อง และพวกเราก็ไม่คิดจะช่วยเขาใช้หนี้ด้วย พวกเขาคิดจะแก้แค้นกับแก๊งของคุณเท่านั้น และพวกเราเองก็มีส่วนร่วมในการสร้างตลาดมืดของพวกเราขึ้นมาด้วยนะ”

เมื่อได้ยินที่พานเหล่ยอธิบาย เหลียนเหวินก็อดไม่ได้ที่จะว่าเขา “ลูกชายของข้าไปล่วงเกินคนอื่นก็จริง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับการเป็นหุ้นส่วนกันของพวกเราด้วย? หรือว่าพวกแกคิดจะขับไล่ตระกูลของข้าออกจากตลาดมืดตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้วหรอกเรอะ?”

“สิ่งที่เจ้าว่ามามันก็ใช่ ถ้าไม่มีเรื่องนี้เกิดขึ้นมา ข้าก็ยินดีที่พวกเราจะร่วมมือกัน แต่ถ้าไม่ใช่เพราะลูกชายของเจ้าไปล่วงเกินคนที่ไม่น่าล่วงเกินเข้าให้แล้ว ข้าก็สามารถพูดได้อย่างเดียวว่าเจ้าโชคร้ายซะแล้วล่ะ” แล้วบอดดำก็พูดต่อ “ใช่แล้ว, เจ้าอย่าหวังว่าจะได้ส่วนแบ่งนี้เลย”

“หึหึ, ถ้าพวกแกไม่อยากให้ ข้าไม่เอาก็ได้?” เหลียนเหวินพูดอย่างไม่สนใจ “หากว่า พวกแกขับไล่แก๊งของข้าไป ข้ารับรองได้เลยว่าลำพังแค่พวกแกสองแก๊งตลาดมืดคงได้ล่มสลายแน่” เหลียนเหวินพูดแล้วยกขาขึ้นมาพาดบนโต๊ะ

“ก็คอยดูก็แล้วกันตอนที่ตลาดมืดไม่มีเจ้าแล้ว” บอดดำพูดขึ้นมาอย่างดูถูก “ตอนนี้พวกเราจะหาคนมาแทนเจ้าแล้ว”

จากนั้นพ่านเหล่ยก็ได้พูดสั่งการลูกนอกของเขา “ไปเชิญทั้ง 20 แก๊งมาได้แล้ว วันนี้ข้าจะแสดงให้เห็นว่าตลาดมืดของพวกเรายังไปต่อได้แม้ไม่มีตระกูลของเขา”

“เหอะ” เหลียนเหวินทำเสียงอย่างเฉยเมย

แล้วผู้คนจากทั้ง 20 กลุ่มก็ได้เข้ามานั่งข้างใน แน่นอนว่าฉิงเทียนเองก็เป็นหนึ่งในนั้นด้วย

จริงๆแล้ว ฉิงเทียนได้ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์บุกเข้ามาในห้องนี้แล้ว และได้ทราบถึงทุกการเคลื่อนไหวในห้องนี้แล้ว

“เป็นอย่างที่คิด ความสัมพันธ์ของทั้ง 3 ตระกูลมาถึงระดับนี้แล้วจริงๆด้วย!” ฉิงเทียนแอบดีใจ

หลังจากที่ฉิงเทียนเข้ามาแล้วทุกคนต่างก็นั่งลง ส่วนบอดดำและพานเหล่ยก็ได้มองมาที่ทุกคนแล้วพูดขึ้น “ขอบคุณทุกท่านสำหรับการมาในครั้งนี้ ผมมีเรื่องสำคัญที่อยากจะประกาศในวันนี้”

ทันทีที่พานเหล่ยพูดจบ ก็มีเสียงที่ไม่พอใจดังขึ้นมาทันที “เฮ่ย บอดดำ, นักวิชาการพาน พวกเจ้าให้พวกข้ามาที่นี่เพื่อประมูลหุ้นส่วน 1 ใน 3 ของตลาดมืดใช่ไหม ข้าได้ยินมาจากตระกูลเหลียนแล้ว! อย่ามัวแต่พูดเสียเวลาเลย รีบๆประมูลกันเลยดีกว่า”

บทที่ 139 การแยกกันของ 3 ตระกูล 1

บทที่ 139 การแยกกันของ 3 ตระกูล 2

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย