บทที่ 226 ปีศาจจิตใจ
แล้วตะเกียงแก้ว 7 สี ก็ได้กลายเป็นควันที่มีสีสันและลอยเข้าไปในทะเลความรู้ของฉิงเทียนจากในมือขององค์เง็กเซียน ในตอนนั้นเองที่ฉิงเทียนก็รู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่งมาจากในทะเลความรู้ของเขา ถึงแม้ว่าพลังนี้จะทรงพลังมากแต่ก็อ่อนโยนด้วย มันสามารถขยายขอบเขตทะเลความรู้ของเขาได้อีกถึง 10 เท่า ในวันนี้เขารู้สึกได้ว่าทะเลความรู้ของเขานั้นอยู่ในระดับเดียวกันกับนักพรตระดับตู้จี๋แล้ว
ปีศาจที่อยู่ที่ลานกว้างนั้นก็ได้เริ่มหมดความอดทนแล้วถามขึ้นมา “มัวแต่คิดอยู่นั่นแหละ เลิกคิดได้แล้ว ไม่งั้นข้าจะออกไปเขมือบพวกเซียนข้างนอกล่ะนะ”
“เจ้าพวกเซียนยังมัวแต่คิดกันอยู่อีกเรอะ?” เสียงหัวเราะอย่างดูถูกและหยิ่งผยองดังขึ้นมาจากปีศาจจิตใจ
“ฮึ่ม! อย่าทำเป็นอวดดีไป อีกเดี๋ยวจะมีคนออกมาจัดการกับเจ้าเอง” เทพเอ้อหลางในเวลานี้เต็มไปด้วยความโกรธ ถ้าไม่ใช่เพราะองค์เง็กเซียนสั่งไม่ให้เขาไป เขาคงจะลงไปสู้เองแล้ว
ส่วนไท่ไป๋จินซิงกับตือโป๊ยก่ายต่างก็มองมาที่ฉิงเทียนด้วยสีหน้าที่เป็นกังวล พวกเขาได้แต่ภาวนาขอให้เขาไม่เป็นอะไร และในขณะเดียวกันพวกเขาต่างก็รู้สึกผิด ถ้าไม่ใช่เพราะพวกเขาพาตัวฉิงเทียนมาที่สวรรค์ เรื่องเช่นนี้ก็คงจะไม่เกิดขึ้น!
ฉิงเทียนจึงลืมตาแล้วรู้สึกได้ถึงพลังที่มากล้นในตัวของเขา และมีแสงออกมาจากตาของเขา
“ฉิงเทียน ตอนนี้เจ้าก็พร้อมแล้ว พวกเราจะรอฟังข่าวดีจากเจ้า ถ้าเจ้าทำได้สำเร็จรอรับรางวัลใหญ่จากข้าได้เลย” องค์เง็กเซียนตบไหล่ของฉิงเทียนแล้วพูดอย่างสนิทสนม
ฉิงเทียนก็ได้ตอบกลับไปอย่างยินดี “ขอบคุณครับ!”
จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วหันไปพูดกับปีศาจจิตใจ “ฉันคือฉิงเทียน แกปล่อยท่านมหาเซียนมาก่อน แล้วฉันจะลงไปหาแกเอง!”
“ก็ได้ ข้าจะเชื่อเจ้า” แล้วก็มีแสงสีดำลอยออกมาจากลานกว้างขึ้นมาบนเมฆ
“ทำไมท่านมหาเซียนถึงได้กลายเป็นแบบนี้ไปได้?” ในเวลานี้ซุนหงอคงได้มีผ้าไหมดำห่อหุ้มทั้งหน้าของเขาเอาไว้ และขนสีทองของเขาก็ไร้ซึ่งจิตวิญญาณ
ฉิงเทียนที่พบว่าซุนหงอคงไม่เป็นไรมากนัก ก็ได้เหาะลงไปที่ลานกว้าง
“ฮ่าๆ เจ้าคือฉิงเทียนสินะ?” มีเสียงแปลกๆดังมาจากในหมอกดำ
“นี่ ฉันลงมาตามที่แกขอแล้ว? แต่แกช่วยตอบคำถามมาหน่อยว่าใครที่ขอให้แกมาทำแบบนี้ ใครที่เกลียดฉันขนาดนั้น?”
“นี่เจ้าไม่รู้เลยเหรอว่าเจ้าเคยไปทำให้ใครโกรธบ้างน่ะ?” เจ้าปีศาจมองไปที่ฉิงเทียนอย่างขบขัน
“แล้วสรุปฉันไปทำให้ใครเกลียดเข้าล่ะ? ในโลกเซียนมีใครที่ผู้ยิ่งใหญ่คนไหนที่ลงทุนไปขอให้แกมาจัดการฉัน ฉันว่าฉันไม่เคยยุ่งกับคนใหญ่คนโตมาก่อนเลยนะ” ตรงถึงจุดนี้ฉิงเทียนก็ยังคิดไม่ออกจริงๆ
“ก็ได้ ไหนๆเจ้าก็จะตายแล้ว ข้าก็จะบอกให้ว่าใครเป็นคนที่หมายหัวเจ้า”
“ใครล่ะ?” ฉิงเทียนถามอย่างสงสัย
“ฮ่าๆ เจ้านายของข้าก็คือหั่วเอี๋ยนยังไงล่ะ” แล้วเจ้าปีศาจจิตใจก็พูดอย่างดุถูก
“อะไรนะ? หั่วเอี๋ยนหรอกเรอะ เขาอยู่แค่ระดับเซียนมนุษย์เท่านั้น ไม่น่าจะสามารถเรียกแกออกมาได้สิ” ฉิงเทียนพูดอย่างประหลาดใจ เขาไม่คิดว่าปีศาจตนนี้เกี่ยวข้องกับหั่วเอี๋ยน
“ข้าคงไม่สามารถบอกกับเจ้าเรื่องนั้นได้” ปีศาจจิตใจกล่าว
มองไปที่ฉิงเทียน ปีศาจจิตใจก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา เมื่อใดที่เขาทำงานนี้สำเร็จ เขาก็จะดูดซับความโลภจากเซียนพวกนั้นให้เรียบร้อย แล้วจากนั้นเมื่อสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของหั่วเอี๋ยนไม่มีแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นเขาสามารถก็จะเข้ายึดครองร่างของหั่วเอี๋ยน ได้
ฉิงเทียนนั้นไม่คิดเลยว่าปีศาจตนนี้จะเกี่ยวข้องกับหั่วเอี๋ยน ตัวเขานั้นเกี่ยวข้องกับปีศาจตัวนี้จริงๆ ถ้าหากคราวนี้เขารอดกลับไปได้ เขาจะต้องรายงานเรื่องนี้
เขาคงจะต้องบอกถึงที่มีของปีศาจร้ายต้นนี้เสียแล้ว ฉิงเทียนคิดอยู่สักพักแล้วจึงยิ้มและพูด “ปีศาจจิตใจ, แกติดต่อกับหั่วเอี๋ยนได้อย่างไร?”
ปีศาจจิตใจก็ได้พูดอย่างภาคภูมิใจ “ชี่ชี่ ดูเหมือนหั่วเอี๋ยนจะไปฝืนเปิดประตูโลกเซียนกับโลกมนุษย์เข้าน่ะสิ ทำให้ข้ามีโอกาสเข้ามายังโลกเซียนได้ แต่ข้าก็ต้องขอบใจเจ้าด้วยล่ะนะ!”
ฉิงเทียนก็ได้มองไปที่เจ้าปีศาจอย่างสงสัย “ฉันช่วยแกงั้นเหรอ?”
“ใช่ ก็ที่ข้ามาที่นี่ได้ ก็เป็นเพราะหั่วเอี๋ยนไปฝืนเปิดประตูโลกมนุษย์เพื่อจะบอกให้คนไปฆ่าเจ้ายังไงล่ะ!” ในเวลานี้ปีศาจจิตใจได้พูดออกมาหมดเปลือกแล้ว


VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย