เข้าสู่ระบบผ่าน

ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย นิยาย บท 285

บทที่ 285 เพลิงผลาญดารา

กระบี่สีแดงเพลิงได้พุ่งเข้ามาที่ดวงตาของฉิงเทียน ด้วยไฟที่ลุกโชติช่วงที่กระบี่ เพียงแค่พริบตาเดียวกระบี่ก็ได้บินเข้ามาใกล้ดวงตาของฉิงเทียนแล้ว และเฉินฉีเองก็ได้วิ่งตามกระบี่ไปด้วย

ฉิงเทียนนั้นไม่ได้โยกหลบแต่อย่างใดและแอบพูดในใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับผู้ฝึกวิชาที่มาพร้อมกับอาวุธ ในคราวนี้เขาเองก็จะได้ฝึกฝนความสามารถในการต่อสู้ของเขาได้บ้าง

เมื่อคิดเช่นนี้ฉิงเทียนจึงได้รีบปลดปล่อยพลังวิญญาณของเขาที่เก็บซ่อนเอาไว้ออกมาหน่อย และเฉินฉีเองก็มีพลังอยู่แค่ขั้นจินตันด้วย แล้วจากนั้นเขาก็ได้ทักทายเฉินฉีตอบกลับไปด้วยการดีดนิ้วใส่กระบี่ที่พุ่งใส่เขาเมื่อสักครู่ ให้เปลี่ยนทิศทางพุ่งกลับไปหาเฉินฉีแทน

เมื่อเห็นว่ากระบี่ได้พุ่งกลับมาทางเขาแทน เฉินฉีที่ไม่ทันตั้งตัวก็ได้รีบหมุนตัวหลบทำให้กระบี่พุ่งผ่านเขาไป แต่เพราะว่าเขาหลบกระบี่บินได้อย่างเฉียดๆ ถึงแม้ว่าเขาจะพยายามหลบเต็มที่แล้วก็ตาม กระบี่นั้นก็ยังพุ่งเฉือนเสื้อผ้าของเขาไปจนขาด จนเห็นเป็นรูโหว่

“ไอ้หนู ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าเองจะอยู่ในระดับจินตัน เจ้าอยู่สำนักไหนอย่างนั้นรึ?” เฉินฉีหยิบกระบี่ของเขาขึ้นมา เขาไม่คาดคิดว่าฉิงเทียนนั้นจะจัดการได้ยากเช่นนี้ นี่อาจจะแย่กว่าที่เขาคาดการณ์เอาไว้ก็ได้

เจ้าเด็กนี่ไม่ใช่คนธรรมดานี่นา? เจ้าพวกตระกูลเฉินมันไปสืบหาข้อมูลมายังไงเนี่ย? เฉินฉีรู้สึกโมโหขึ้นมา ซึ่งกลายเป็นว่าหลังจากที่เฉินหยางได้ส่งสัญญาณแจ้งเรื่องของฉิงเทียนมาให้เฉินฉีนั้น เฉินฉีก็ได้รีบเดินทางจากบ้านตระกูลเฉินบนโลกทันที และตอนที่ลองตรวจสอบข้อมูลของฉิงเทียนแล้วก็พบว่าฉิงเทียนนั้นเป็นแค่คนธรรมดาเท่านั้น

แต่หลังจากที่ปะทะกันเมื่อสักครู่บวกกับความรู้สึกที่สัมผัสได้ เฉินฉีก็พบว่าฉิงเทียนนั้นน่าจะอยู่ในระดับจินตันแล้ว และฉิงหยูที่อยู่ข้างๆเขานั้นก็น่าจะอยู่ในระดับจู้จี

เขานั้นต้องใช้เวลาฝึกวิชานานกว่า 100 กว่าปี กว่าเขาจะมาอยู่ที่ขั้นจินตันได้ แต่อายุอานามของทั้งคู่น่าจะอายุเพียงแค่ 20 เท่านั้น ช่างน่ากลัวอะไรอย่างนี้จะว่าไปก็มีอัจฉริยะคนหนึ่งในสำนักอัคคีที่อยู่ในขั้นจินตันตอนอายุ 20 เช่นกัน

หรือว่าจะมีคนที่อยู่ในระดับขึ้นที่สูงกว่านี้คอยช่วยเหลือเขาอยู่กันแน่? เมื่อคิดเช่นนี้เฉินฉีเองก็เริ่มลังเลและคิดว่าเขาควรที่จะรีบแจ้งเรื่องนี้ให้กับคนในสำนักทราบดีไหมนะ?

แต่เมื่อเขาคิดถึงของวิเศษระดับสูงที่เขาจะได้รับแล้ว ถ้าเขาเอาเรื่องนี้ไปบอกคนอื่นล่ะก็ รางวัลที่เขาจะได้รับอย่างดีก็คงได้แค่ของวิเศษระดับกลางแน่

ไม่เป็นไร ไม่สำคัญว่าจะมีใครหนุนหลังเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเขาเป็นศัตรูกับสำนักอัคคีของเรา เราก็จะต้องฆ่าเขา! เฉินฉีพูดในใจ

อีกทางด้านหนึ่ง เฉินหยางที่เห็นพระมาโปรดในใจของเขานั้น ไม่สามารถจัดการฉิงเทียนได้ในทีเดียว กลับกันเขากลับโดนฉิงเทียนทำให้บาดเจ็บอีกต่างหาก ทำให้ในเวลานี้เขามีความรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจขึ้นมา

“หรือว่าฉิงเทียนนั้นจะทรงพลังมากจริงๆ ดูเหมือนว่าเราจะทำอะไรโง่ๆลงไปซะแล้ว” เฉินหยางนั้นคิดในใจ แล้วจากนั้นก็ได้พยายามถอยออกมาและคิดที่จะหนีไปจากที่ที่ไม่รู้ถูกหรือผิดนี้

แต่ทว่าฉิงหยูที่อยู่อีกด้านหนึ่งก็ได้จ้องมองมาที่เฉินหยางกลัวว่าเขาจะหนีไป ซึ่งทันทีที่เฉินหยางกำลังจะคิดหนี เขาก็ได้พูดพร้อมกับปล่อยพลังกดดันวิญญาณออกมา

“เฉินหยางแกคิดจะหนีงั้นเหรอ ไม่มีทาง!” ฉิงหยูพูดด้วยเสียงที่ดังกึกก้อง และพูดข่มขู่เฉินหยาง

“หืม ใครบอกแกว่าข้าจะหนี” เมื่อเห็นฉิงหยูที่พบว่าเขากำลังจะหนี เฉินหยางก็ได้รีบปฏิเสธและตอบโต้ฉิงหยูด้วยหลังมือ แล้วทั้งสองคนก็ได้สู้กันอีกคู่หนึ่ง และพลังวิญญาณของทั้งสองคนก็ได้ฟื้นมาจนเต็มแล้วด้วย ทำให้กำแพงรอบๆได้พังทลายลงมา และซากปรักหักพังลงมากองที่ห้องเต็มไปหมด

อีกทางด้านหนึ่ง ฉิงเทียนและเฉินฉีเองก็ได้หยุดต่อสู้เพราะซากปรักหักพังทำให้พวกเขายากที่จะเคลื่อนไหวได้เต็มที่

“เพื่อให้สู้ได้เต็มที่ เราออกไปสู้กันข้างนอกดีกว่า” เฉินฉีที่พบว่าผ่านไปนานแล้วแต่เขายังไม่สามารถจัดการกับฉิงเทียนได้ และกระบี่บินได้ของเขาเองก็ไม่สามารถใช้ในห้องได้อย่างเต็มที่ด้วย สายตาของเขาก็ได้หันไปจับจ้องที่ฉิงเทียน

“ก็ได้ ออกไปข้างนอกกัน!” ฉิงเทียนตอบตกลง ถึงฉิงเทียนนั้นไม่อยากจะเปิดเผยตัวตนก็ตาม แต่อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นโรงแรมและมีคนธรรมดาอยู่ด้วย จะปล่อยให้พวกเขาต้องมาตกอยู่ในอันตรายด้วยไม่ได้! ดังนั้นฉิงเทียนจึงได้ตอบตกลงเฉินฉีทันที

ฉิงเทียนจึงได้ร้องเรียกในใจ แล้วก็มีกระบี่สีขาวเงินปรากฏขึ้นมาที่ใต้เท้าของฉิงเทียน แล้วทั้งสองคนก็ได้บินออกไปยังทะเลที่อยู่ไกลออกไปพร้อมกับต่อสู้กันไปด้วย

“นี่ ดูไปที่ท้องฟ้านั่นสิ มีตัวอะไรไม่รู้สองตัวอยู่บนฟ้าด้วยล่ะ!” มีใครสักคนจู่ๆก็ตะโกนขึ้นมาขณะที่เดินตามถนน

“ไหนๆ?”

“หรือว่าจะเป็นอาวุธใหม่ของทางกองทัพในประเทศเรากันนะ?” ผู้นิยมยุทโธปกรณ์ทางทหารคนหนึ่งพูดขึ้นมาด้วยสายตาที่ตื่นเต้น

“ไม่น่าใช่หรอก ฉันคิดว่าเป็นดาวตกมากกว่า” หญิงสาวคนหนึ่งพูดขึ้นมาขณะที่กำลังจ้องดู แล้วเธอก็ประสานมือกันทำท่าขออธิษฐาน

“ดูนั่นสิ แสงหายไปแล้ว!”

ผู้คนตามท้องถนนต่างก็มองดูท้องฟ้าด้วยความตกใจ พวกเขานั้นไม่รู้เลยว่าจริงๆแล้วมีคนสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่

ส่วนฉิงหยูที่อยู่ในห้องนั้นก็กำลังเป็นกังวลขณะที่เขากำลังมองดูพี่ชายของเขาออกไปสู้กับคนคนนั้น แต่ทว่ามือของเขาเองก็หาได้ปล่อยว่างไม่ เขานั้นกำลังต่อสู้กับเฉินหยางอยู่

เฉินหยางนั้นต่อต้านด้วยความยากลำบาก และรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก ทำไมในเวลานี้ฉิงหยูถึงได้โจมตีเขาอย่างดุเดือดราวกับได้รับแรงกระตุ้นมานักก็ไม่รู้

อีกทางด้านหนึ่ง มีฐานทัพลับใต้ดินแห่งหนึ่งอยู่ใต้เมืองโม๋ตูและที่หน้าประตูนั้นเขียนเอาไว้ว่า “สำนักงานความมั่นคงแห่งประเทศจีนสาขาตอนใต้”

มีห้องทำงานห้องหนึ่งในฐานทัพใต้ดินแห่งนี้ มีชายชราผู้หนึ่งที่ไว้หนวดสีขาวและนั่งอยู่ที่เก้าอี้ ใกล้ๆชายหนุ่มที่สวมชุดสูทอยู่ตรงหน้าเขากำลังรายงานเขา “ผู้อำนวยการครับ พวกเราตรวจพบคลื่นพลังงานที่ทรงพลังได้ในเขตมณฑลเจียงเจ้อครับ ดูเหมือนว่าจะมีผู้มีพลังสองคนกำลังต่อสู้กันอยู่โดยละเมิดกฎหมายครับ ทางสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของเราควรจะเข้าไปดีไหมครับ?”

บทที่ 285 เพลิงผลาญดารา 1

บทที่ 285 เพลิงผลาญดารา 2

บทที่ 285 เพลิงผลาญดารา 3

Verify captcha to read the content.VERIFYCAPTCHA_LABEL

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย