บทที่ 410 สู้กับโช่วเหนียน
“ขอบใจ” โช่วเหนียนก็ได้ยื่นมือออกไปแล้วรับยาที่ฉิงเทียนยื่นให้มา แล้วโยนมันเข้าปากของเขาแล้วจากนั้นก็ได้หลับตาเพื่อทำการฟื้นฟู
เมื่อเห็นเช่นนี้แล้ว แม้แต่เจ้าสำนักเถียนเองก็ยังรู้สึกประทับใจฉิงเทียนจากใจของเขา
1 ชั่วก้านธูปผ่านไป โช่วเหนียนก็ได้ทำการเดินลมปราณเสร็จสิ้น และก็ลุกขึ้นยืนแล้วยิ้มให้กับฉิงเทียน เขากอดฉิงเทียนแล้วกล่าว “หยิงเทียนข้าขอบใจเจ้ามาก ตั้งแต่วันนี้ไปเจ้าเป็นพี่น้องของข้า แต่ข้าจะไม่ปล่อยเก้าอี้สามคนสุดท้ายให้เจ้าไปหรอกนะ”
“ฮะๆ ผมเคยกลัวใครที่ไหนล่ะ?” ฉิงเทียนไม่ใช่คนที่เอาเปรียบคนอยู่แล้ว
“ดีๆ, หลังจากงานประลองยุทธนี้ พวกเราคงได้พูดคุยกัน แต่ตอนนี้พวกเรามาสู้กันเถอะ!” โช่วเหนียนคำรามออกมา
“ได้ พวกเรามาสู้กัน!” ในชั่วขณะนั้นเอง บรรยากาศของฉิงเทียนก็ได้เปลี่ยนไป ซึ่งทำให้หัวใจของฉิงอวี้เอ๋อเต้นรัวขึ้นขณะที่อยู่ที่อัฒจันทร์ ในตอนนั้นเองที่เขาเปลี่ยนไปเป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง ฉลาด และทีเล่นทีจริง ซึ่งเป็นนิสัยของฉิงเทียนจริงๆที่เขาเปิดเผยออกมาในเวลานี้
“ทำไมคนคนนั้น จู่ๆถึงได้เป็นคนที่มีความมั่นใจขึ้นมาทันทีทันใดได้นะ? ทำไมเราถึงได้หยุดมองเขาไม่ได้เลยนะ?” หัวใจของฉิงอวี้เอ๋อรู้สึกแปลกๆขึ้นมาโดยที่ไม่รู้เลยว่าทำไม?
“ดี!” โช่วเหนียนหัวเราะ แล้วพลังของเขาก็ได้แผ่ออกมา ผู้คนรอบๆต่างก็รู้สึกได้ถึงพลังที่แข็งแกร่ง และพลังการต่อสู้ของเขาแผ่ออกไปทั่วทั้งเวทีอย่างภาคภูมิใจ
แล้วก็พบดาบกระดูกอยู่ในมือของโช่วเหนียน ตัวดาบนั้นโปร่งใสเหมือนคริสตัล และมีแสงสีแดงที่ส่องแสงออกมาจากตรงกลาง แสงสีแดงนี้ได้มารวมกันกลายเป็นเส้นปริศนาในดาบกระดูก เส้นแสงนั้นได้ถูกปล่อยออกมาจากดาบกระดูกอย่างต่อเนื่อง และค่อยๆกลายเป็นภาพจำลองเสือขึ้นมา ดูเหมือนดาบเล่มนั้นจะสามารถใช้เรียกเสือที่อยู่ในดาบได้ ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องง่ายด้วย
“อาวุธนั่นมันอะไรกัน? ทำไมถึงไม่เห็นโช่วเหนียนใช้เมื่อสักครู่เลย?” ผู้ชมคนหนึ่งพูดอย่างสงสัยมาก
“เจ้าไม่เข้าใจเหรอ? ที่เมื่อสักครู่โช่วเหนียนไม่ได้ใช้ดาบเล่มนี้ ก็เพราะเซวียนหยวนหูนั้นไม่มีค่าพอที่จะทำให้เขาใช้อาวุธนั้นยังไงล่ะ” ผู้ชมอีกคนอธิบาย
“น้องหยิง ข้าจะไปล่ะนะ” โช่วเหนียนยิ้มแล้วจากนั้นดาบกระดูกในมือของเขาก็ได้ฉายแสงลงไปบนพื้น แล้วทันใดนั้นก็มีเสือสีดำปรากฏอยู่ที่พื้น
“โฮก….” เสือตัวนั้นหลังจากที่ได้ออกมาก็ได้พุ่งเข้าหาฉิงเทียน พร้อมกับคำรามด้วยเสียงดังก้อง
เสือดำโจมตีเข้าที่ตัวของฉิงเทียน ทำให้เสื้อผ้าของฉิงเทียนเกิดเป็นรอยแหว่ง ถึงแม้จะทำร้ายฉิงเทียนไม่ได้ แต่ก็ยังแสดงให้เห็นได้ถึงความวิเศษของดาบกระดูกเล่มนั้น
“เกรงว่าดาบกระดูกเล่มนั้นอาจจะเป็นอาวุธวิเศษระดับวิญญาณเลยก็ได้ เสือที่อยู่ในดาบเล่มนั้นทรงพลังมาก” เหล่าผู้ชมต่างรู้สึกหัวใจเต้นระรัว แล้วพวกเขาก็เริ่มมั่นใจแล้วว่าทำไมโช่วเหนียนถึงไม่คิดใช่ดาบเล่มนี้จัดการกับเซวียนหยวนหูเมื่อสักครู่
โช่วเหนียนก็ได้ยิ้มและมองไปที่ดวงตาของฉิงเทียนด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย ดาบกระดูกในมือของเขาเล่มนี้เป็นของวิเศษที่ทรงพลังที่สุดที่เขามี แต่หยิงเทียนกลับสามารถปัดป้องไว้ได้อย่างง่ายดาย ความแข็งแกร่งช่างต่างกันจริงๆ
“สุดยอด!” ฉิงเทียนพูดอย่างทึ่งๆ “ดูเหมือนว่าผมคงจะไม่มีทางเลือกอื่นแล้วจริงๆ”
แล้วรอยยิ้มของโช่วเหนียนก็ได้หายไป แล้วหัวเราะ “เอ้าจะทำยังไงต่อน้องหยิง เจ้าจะยังมีของวิเศษระดับวิญญาณเหลืออยู่อีกไหม?
ไม่แปลกใจที่โช่วเหนียนจะคิดว่าฉิงเทียนนั้นไม่มีอาวุธวิเศษระดับวิญญาณเหลือแล้ว ซึ่งคนอื่นๆก็เหมือนกัน
เพราะก่อนหน้านี้ ฉิงเทียนได้ระเบิดกระบี่ของตัวเองไปขณะต่อสู้แล้ว และของวิเศษระดับวิญญาณเป็นของที่หายากมากในโลกผู้บำเพ็ญเพียร พวกเขาจึงไม่คิดว่าฉิงเทียนนั้นจะสามารถเอาของวิเศษระดับวิญญาณออกมาได้อีก
“ฮะๆ แน่นอนว่าผมมีอยู่แล้ว!” ท่ามกลางสายตาของเหล่าผู้ชม ฉิงเทียนก็ได้หยิบกระบี่ระดับวิญญาณออกมาอย่างไม่คิดอะไร
“แม่เจ้าโว้ย เอาหมอนี่ไปเทียบกับคนอื่นไม่ได้เลยจริงๆ ทำไมเจ้าหมอนี่ถึงยังมีของวิเศษระดับวิญญาณเหลืออยู่อีกได้เนี่ย?” เหล่าผู้ชมต่างก็อ้าปากค้างราวกับจะกินแมลงวัน
“ฮะๆ ตาผมบ้างล่ะนะ!” ทันทีที่ฉิงเทียนก้าวเท้ามา แล้วสะบัดกระบี่ในมือของเขา ทันใดนั้นกระบี่ก็ได้หายไปจากในมือของฉิงเทียนแล้ว เหลือเอาไว้แต่เพียงภาพติดตา แล้วภาพติดตาเหล่านั้นก็ได้มารวมกันกลายเป็นมังกรขึ้นมา
เงามังกรได้พุ่งออกไปจากตรงหน้าเขาแล้วหมุนวนพุ่งเข้าไปโช่วเหนียน
“เยี่ยม, ข้าชอบมัน!” โช่วเหนียนหาได้กลัวไม่แต่กลับหัวเราะเมื่อเขาเห็นเงามังกรที่พุ่งเข้ามา แต่ทว่าเขาพูดยังไม่ทันจบ ฉิงเทียนก็ได้ก้าวเท้าอีกครั้งแล้วมังกรตัวนั้นก็ได้ส่องแสงออกมา
“ตูม! ตูม! ตูม!” ฉิงเทียนนั้นได้ร่ายรำกระบี่ของเขาเร็วมากขึ้นเรื่อย แล้วในตอนนี้มังกรตัวนั้นไม่ได้เป็นแค่เงาแล้วแต่เป็นมังกรจริงๆกำลังม้วนเข้าไปหา
ฉิงอวี้เอ๋อได้กำหมัดเล็กๆของเธอแน่น แล้วในตอนนั้นเองที่เธอรู้สึกได้ว่าหัวใจของเธอเต้นเร็วมาก และดวงตาที่สวยงามของเธอก็ได้จ้องไปที่ฉิงเทียนโดยไม่กะพริบตา เธอไม่รู้เลยว่าทำไมหัวใจของเธอถึงได้รู้สึกยินดีขึ้นมา
“พี่โช่ว ลองรับท่านี้ดูหน่อย” ฉิงเทียนคำราม แล้วก็มังกรก็ได้บินเร็วขึ้นไปอีก ราวกับว่ามันกำลังจะทะยานสู่สวรรค์ชั้น 9 แล้วปล่อยพลังวิญญาณที่น่ากลัวออกมา
“ได้! เข้ามาเลย!” โช่วเหนียนคำราม “พยัคฆ์ดำออกมา!”
ด้วยเสียงคำรามของโช่วเหนียน ก็ได้มีเสือดำที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนก็ได้มาโผล่ตรงหน้าของโช่วเหนียน
“โฮก….” พยัคฆ์ดำได้คำรามใส่มังกรที่อยู่บนท้องฟ้า
“กรร….” มังกรที่อยู่บนฟ้าที่ดูเหมือนจะรู้สึกได้ว่าอาณาเขตของมันกำลังถูกรุกรานจึงได้คำรามกลับ
ในตอนนั้นเองที่มังกรก็ได้เริ่มขยับตัว มังกรที่ถือเป็นราชาแห่งสรรพสัตว์ก็ได้ปล่อยพลังที่น่ากลัวออกมา ทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วคำรามก่อนจะม้วนตัวเข้าไปหาโชว่เหนียนโดยบดบังท้องฟ้าและพระอาทิตย์เอาไว้ กรงเล็บที่แหลมคมของมันก็ได้ซัดเข้าหาพยัคฆ์ดำ



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย