บทที่ 409 โช่วเหนียน
เจี้ยนอ้าวก็ยังชนะอยู่ดี ไม่ว่าเหยนหลิงนั้นจะทรงพลังมากแค่ไหนก็ตาม ท้ายที่สุดเจี้ยนอ้าวก็เป็นฝ่ายชนะ! ความแข็งแกร่งของเหยนหลิงนั้นว่าน่าทึ่งมาแล้ว แต่เจี้ยนอ้าวก็ยังแข็งแกร่งกว่าอยู่ดี
เหล่าศิษย์สำนักซูซานต่างก็ส่งเสียงเชียร์ ในเวลานี้เหล่าผู้ชมทั้งหลายต่างก็เชื่อว่าเจี้ยนอ้าวนั้นจะต้องชนะเลิศงานประลองยุทธ์ครั้งนี้แน่ๆ ไม่น่าจะมีใครที่สามารถสั่นคลอนตำแหน่งของเขาได้แล้ว
ฉิงหยูก็ได้มองไปที่เจี้ยนอ้าวที่ยืนท่ามกลางแสงแดดและสายลมแล้ว เขาก็ได้พูดด้วยความโมโห “มองดูทำท่าแอ็คแล้ว อยากให้พระเจ้าปล่อยฟ้าผ่าใส่หัวเขาจริงๆ!”
“พี่ก็อยากจะเอาฟ้าผ่าใส่หัวเขาเหมือนกัน!” ฉิงเทียนคิ้วขมวด
“แล้วพี่จะมัวรออะไรอยู่ล่ะครับ? ผ่าใส่หัวเขาเลยสิ” ฉิงหยูพูดและถูมือของเขาอย่างหมดความอดทน
“ก็ได้ คอยดูพี่นะ!” ฉิงเทียนหัวเราะอย่างมีเลศนัย แล้วสั่งให้เพ่าฝูลงมือ
“ฮิๆ นายท่านนี่ช่างร้ายกาจจริงๆเลย! แต่ข้าก็ชอบนะเจ้าคะ” เพ่าฝูยิ้มตอบและตบมือที่น่ารักของเธอยื่นไปบนฟ้า
แล้วจู่ๆก็ได้มีสายฟ้าเส้นหนึ่ง ขนาดพอๆกับชามข้าวฟาดลงมาที่ข้างล่าง
เจี้ยนอ้าวที่กำลังชื่นชมต่อสายตาของผู้คนที่ชื่นชมเขาอยู่นั้น ใครจะไปคิดว่าจู่ๆจะมีฟ้าผ่าลงมาจากบนฟ้า
อย่างไรก็ตาม การตอบสนองของเจี้ยนอ้าวนั้นรวดเร็วมาก ตัวเขาได้ลอยอยู่บนฟ้าพร้อมกับสะบัดกระบี่ในมือของเขา ทำให้สายฟ้าที่ใหญ่ขนาดเท่าชามข้าวนั้นสลายไปในทันที
“ทำไมจู่ๆถึงได้มีฟ้าผ่ากลางวันแสกๆได้นะ?”
“อาจจะเพราะแม้แต่สวรรค์ก็ยังไม่อาจทนต่อความขี้แอ็คของเจี้ยนอ้าวก็ได้!”
……………..
แล้วการพูดคุยต่างๆนานาก็ได้เข้าหูของเจี้ยนอ้าว ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะไม่เปลี่ยน แต่ในใจของเขาก็คิด: หรือว่าเราจะแอ็คท่ามากไปจริงๆ?
ถ้าฉิงเทียนกับฉิงหยูนั้นรู้ในสิ่งที่เจี้ยนอ้าวคิดแล้ว พวกเขาคงขำกลิ้งแน่
หลังจากที่ถูกฟ้าผ่าลงมา เจี้ยนอ้าวก็ยังทำท่าขี้แอ็คแบบเดิมแล้วเดินลงมาจากเวทีไม่ยืนอยู่บนเวทีต่อ
การต่อสู้รอบต่อไปจะเป็นของฉิงเทียน โช่วเหนียนและเซวียนหยวนหู
“ฮ่าๆเซวียนหยวนหูช่างโชคร้ายจริงๆที่มาเจอกับหยิงเทียนอีกแล้ว! ดูเหมือนว่าในรอบหาสามคนสุดท้ายนี้เขาคงหมดสิทธิ์แล้วล่ะ”
“เขาคงหมดสิทธิ์แล้วจริงๆนั่นแหละ ทั้งสามกลุ่มนี้ต่างก็ไม่ธรรมดาจริงๆ? ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้อยู่ในกลุ่มของหยิงเทียน แต่ถ้าไปอยู่ในกลุ่มของเจี้ยนอ้าวและหลินเยว่แล้วก็สาหัสกว่ากลุ่มนี้อีก ส่วนกลุ่มของเหลียนเจวี่ยและฝ่าจิ้งนั้นแม้จะดูด้อยกว่า แต่ก็ไม่อาจทำอะไรฝ่าจิ้งที่เป็นถึงศิษย์เอกของสำนักฝอซานได้หรอก” ชายคนหนึ่งพูดอย่างวิเคราห์
บนเวทีนั้นประกอบด้วย “ฉิงเทียน, โช่วเหนียน, เซวียนหยวนหูเป็นการต่อสู้แบบสามเส้า
เซวียนหยวนหูนั้นมีสีหน้าที่ไม่สู้ดีขึ้นมา เขาไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับฉิงเทียนอีก ในตอนที่เขาต้องมาชิงเพื่อผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ เขาที่เป็นถึงศิษย์คนที่สองของสำนักซูซานและยังเป็นผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของจีน ไม่ว่าจะเป็นโลกผู้บำเพ็ญเพียรหรือในจีน เขาเซวียนหยวนหู่นั้นมีแต่คนนับหน้าถือตา
และการที่เขามาเข้าร่วมงานประลองยุทธ์ครั้งนี้ก็เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้อาจารย์ของเขา, สำนักซูซาน และโลกผู้บำเพ็ญเพียรได้เห็นว่าเขานั้นก็เก่งไม่แพ้เจี้ยนอ้าว แต่หลังจากที่ได้เข้าร่วมประลองแล้ว เขาก็พบว่าตัวเองนั้นยังห่างชั้นกับเจี้ยนอ้าวมากเพียงใด
เขานั้นรู้ตัวดีว่าเหยนหลิงที่เจี้ยนอ้าวเพิ่งจัดการไปนั้นเขาคงไม่สามารถที่จะจัดการเขาด้วยตัวเองได้แน่ นี่เขาจะต้องแพ้จริงๆเหรอ? เขาเริ่มรู้สึกอิจฉาศิษย์น้องของเขาหยูชูซินขึ้นมาบ้าง ทำไมเขาถึงไม่โชคดีแบบนั้นบ้างนะ
โช่วเหนียนชายร่างใหญ่สูงแปดฟุต ดูเป็นคนที่ซื่อๆมาก แต่ถ้ามีใครก็ตามที่บอกว่าโช่วเหนียนนั้นเป็นคนซื่อเมื่อไร คนคนนั้นจะต้องเจ็บอย่างหนักเลยทีเดียว
โช่วเหนียนนั้นก็ได้ยิ้มและพูดอย่างดูถูก “เซวียนหยวนหู เจ้าลงไปเสีย! คราวนี้ข้าจะสู้กับหยิงเทียนเอง”



VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย