บทที่ 70 การถ่ายทอดวิชา
ในตอนเที่ยง เมื่อฉิงเทียนลืมตาขึ้นมาก็ยังพบว่าจ้าวก่างและหวงเห่านั้นยังคงทำการย่อยข้อมูลในหัวกันอยู่ขณะที่พวกเขากำลังหลับตา “ทำไมพวกเขาถึงยังทำการย่อยข้อมูลไม่เสร็จนะ?” ฉิงเทียนรู้สึกสงสัยขึ้นมา
แต่ฉิงเทียนก็ช่วยอะไรไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงได้หยิบโทรศัพท์มือถือที่มีถาวเป่าสวรรค์ขึ้นมา “ควรจะติดต่อหาเซียนคนไหนดีนะ?”
“ราชาปีศาจวัวกระทิงไม่น่าได้ เขายังไม่รู้จักกับเขาดีพอและตอนนี้เขาน่าจะยังไม่มีเวลามาสนใจเขาในตอนนี้ด้วย! หรือจะถามตือโป๊ยก่ายดี แต่ตอนที่เขาถามเขาไปเมื่อครั้งก่อน เขาบอกว่าไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับวิชาสวรรค์โลกา” ฉิงเทียนจึงได้คิ้วขมวดและคิด “หรือจะถามหงจวินเหล่าจู่เลยดี?” ฉิงเทียนรู้สึกลังเลขึ้นมา! เง็กเซียนฮ่องเต้หงจวินนั้นเคยเป็นถึงผู้นำบนสวรรค์ ไปถามเขาก็เหมือนกับคนจีนธรรมดาๆไปเข้าพบกับประธานาธิบดีจีนยังไงอย่างงั้น เขาจึงได้รู้สึกไม่ค่อยดี และพยายามข่มความกลัวเอาไว้!
ด้วยโทรศัพท์ในมือของเขา เขาเปิดหาร้านขายของแล้วก็พบกับร้านของหงจวินเหล่าจู่ ฉิงเทียนมองไปที่จอและลังเลอยู่พักใหญ่ๆ สุดท้ายเขาจึงได้ตัดสินใจพิมพ์ถามออกไป “เหล่าจู่อยู่ไหมครับ?”
หลังจากที่ส่งข้อความไป ฉิงเทียนก็มองดูหน้าจออย่างกระวนกระวาย เฝ้ารอการตอบกลับมาจากหงจวิน!
หลังจากนั้นสักพัก ก็ไม่ได้รับคำตอบอะไรกลับมา ฉิงเทียนจึงอดไม่ได้ที่จะแอบคิดในใจ: ดูเหมือนว่าสำหรับมนุษย์อย่างเราในสายตาของเหล่าจู่แล้วพวกเราคงไม่ต่างอะไรไปจากมนุษย์ตัวเล็กๆละมั้ง?”
“ช่างมันละกัน!” ฉิงเทียนพูดปลอบใจตัวเอง และกำลังจะวางมือถือทันใดนั้นก็ได้มีตัวหนังสือตอบกลับมาว่า“อยู่” ขึ้นบนจอ “ว้าว ท่านเหล่าจู่ตอบกลับมาแล้ว!” ฉิงเทียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้
นิ้วของเขาสั่นเทาและพิมลงไป: “ท่านเหล่าจู่ครับ ผมนั้นเป็นคนที่ซื้อวิชาสวรรค์โลกาไปจากร้านของท่านไปในวันก่อนครับ!”
ณ ตำหนักเมฆม่วง ที่อยู่ลึกเข้าไปในมิติแห่งความสับสน
หงจวินเหล่าจู่ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ในมิตินั้น แล้วเขาก็พบเข้ากับข้อมูลของฉิงเทียน เขาผู้ซึ่งมีปัญญาล้ำลึกสุดหยั่งก็ได้รู้ทันทีว่าฉิงเทียนนั้นต้องการที่จะถามอะไร! เขาคิดกับตัวเอง: เจ้าหนุ่มนี้เพิ่งจะนึกได้ว่าควรจะถามข้าเรื่องของวิชารึยังไงนะ? เขาลูบหนวดอันแสนยาวของและพิมลงไปเหมือนคาดการณ์เอาไว้แล้ว: “เจ้าคงอยากจะถามข้าว่าทำไมการฝึกวิชาของเจ้านั้นยังไม่ผ่านวิชาสวรรค์โลกาขั้นที่สองไปเสียทีสินะ!”
ฉิงเทียนรู้สึกตกใจขึ้นมาเมื่อเห็นข้อความบนจอและคิดในใจ: สมแล้วที่เป็นถึงเง็กเซียนฮ่องเต้ ยังไม่ทันที่จะถามท่านเหล่าจู่ก็ทราบแล้ว! และจากในข้อความที่ส่งมาท่านเหล่าจู่เองก็ดูเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธเราด้วย! แล้วฉิงเทียนก็ได้พิมตอบกลับไปด้วยความตื่นเต้น: “ครับ ผมอยากจะถามท่านเช่นนั้นแหละครับ”
หงจวินเหล่าจู่แห่งตำหนักเมฆม่วงนั้นก็ได้ลูบหนวดของเขา และหัวเราะออกมาขณะที่พูดกับตัวเอง: วิชา“สวรรค์โลกา”นั้นเป็นวิชาที่ข้าเหล่าจู่นั้นได้คิดค้นขึ้นมาจากการเคลื่อนไหวของสวรรค์หลังจากที่ได้รวบรวมเต๋าขึ้นมาแล้ว! วิชาสวรรค์โลกานั้นสามารถเรียกได้ว่าเป็นวิชาที่มาจากธรรมชาติของดินและฟ้าก็ว่าได้ เป็นสุดยอดเคล็ดวิชาที่เรียกได้ว่าเทียบเท่าได้กับตัวตนของสวรรค์ เป็นวิธีการที่ทำให้ขึ้นสู่สวรรค์หากสามารถฝึกวิชาได้สำเร็จดังนั้นมันจึงวิชาที่ฝึกได้ยากมาจนในปัจจุบันก็ยังไม่มีใครเลยในโลกแห่งเซียนที่สามารถฝึกวิชานี้จนสำเร็จกลายเป็นอมตะได้ และในท้ายที่สุดเหล่าผู้ฝึกวิชาสวรรค์โลกานั้นก็ได้ตายไปภายใต้กฎแห่งสวรรค์
แน่นอนว่า หงจวินเหล่าจู่นั้นไม่ได้บอกฉิงเทียนว่า ไม่มีใครเลยในโลกแห่งเซียนที่อยากจะฝึกวิชานี้ ดังนั้นหงจวินเหล่าจู่จึงได้เปิดร้านในถาวเป่าสวรรค์เพื่อขายวิชาสวรรค์โลกานี้ แต่ก็ไม่มีใครเลยที่คิดจะซื้อมันเป็นเวลาหลายปีแล้ว เพราะวิชาสวรรค์โลกาในสำหรับในโลกเซียนแล้ว พวกเขาถือเป็นวิชาที่จะต้องเผชิญกับชะตากรรมแห่งความตาย ว่ากันว่าใครก็ตามที่อ่านวิชานี้แม้เพียงนิดเดียว พวกเขาก็จะดวงซวยแล้ว!
ในเวลานี้มันจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะมีหนูขาวที่สามารถถูกนำมาใช้ทดลองได้ และหงจวินเหล่าจู่ก็มีความสุขมากที่เขาได้หนูตัวนั้นมา แน่นอนว่าฉิงเทียนนั้นไม่รู้เลยว่าเขานั้นคือผู้โชคดีที่ได้กลายเป็นหนูทดลองของหงจวินเหล่าจู่ ซึ่งฉิงเทียนในเวลานี้กำลังตื่นเต้นอย่างมากและกำลังรอคำตอบจากเหล่าจู่อยู่
แล้วหงจวินเหล่าจู่จึงได้คิดว่าเขานั้นจะหลอกฉิงเทียนอย่างไรดี “ข้าไม่คิดเลยว่าจะมีวันที่ข้าต้องมาหลอกผู้คนให้มาฝึกวิชาสวรรค์โลกาเช่นนี้!”
หงจวินเหล่าจู่จึงได้พิมพ์บอกไป: “วิชาสวรรค์โลกานั้นมีจุดที่เป็นคอขวดอยู่ทั้งหมด 4 จุด จุดแรกคือขั้นที่ 2 และอีกจุดคือขั้นที่ 32! ทั้งสองขั้นนี้จะเป็นการแบ่งชั้นระหว่างมนุษย์และผู้ฝึกวิชาตน หากว่าฝึกผ่านขั้นที่สองไปแล้วเจ้าจะไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป แต่จะเป็นผู้ฝึกวิชาอย่างเต็มตัว”
ฉิงเทียนที่กำลังอ่านก็ตกใจแล้วพูดกับตัวเอง “อะไรนะต้องผ่านขั้นที่สองไปหรอกเหรอ? คิดว่าตอนนี้เราเป็นผู้ฝึกตนแล้วซะอีกนั้นเนี่ย” เขาจึงได้พิมพ์ตอบกลับไป: “แล้วจะเป็นอย่างไรต่อครับหลังจากผ่านขั้นสองไปได้แล้ว แล้วขั้นที่ 3 ขั้นที่ 4 ล่ะครับ?”
หงจวินเหล่าจู่: “เจ้ายังไม่จำเป็นต้องรู้ อย่าทะเยอทะยานให้มากเกินไป”
เขาพบว่าการใช้คำของท่านหงจวินนั้นค่อนข้างรุนแรงขึ้นมา เขาจึงรู้ตัวเองว่าเขานั้นทะเยอทะยานเกินไปหน่อย เขาจึงได้รีบพิมพ์กลับไป “ทราบแล้วครับท่านหงจวินเหล่าจู่ ผมผิดไปแล้ว”
“เหล่าจู่ครับ แล้วผมจะสามารถบรรลุขั้นที่ 2 ได้อย่างไรครับ?” ฉิงเทียนถามด้วยเสียงอ่อยๆ

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย