บทที่ 80 สูญเสียจิตใจ
เขาเห็นผู้หญิงที่ใส่เสื้อโค้ทสีดำและแต่งหน้าหนาเตอะ เธอนั้นอายุน่าจะ 50 แล้วแต่กลับแต่งตัวราวกับอายุ 20-30 ซึ่งทำให้ผู้คนเห็นแล้วต้องรู้สึกขยะแขยง
“คุณคงจะเป็นเยว่เถียนคุณแม่ของเยว่โหย่วสินะครับ” ผู้กองหลงลุกขึ้นยืนแล้วพูดขึ้น จากนั้นเขาก็พูดกับตำรวจอีกคนที่อยู่ข้างๆเขา “พาพี่โจ้วกับภรรยาไปที่ห้องสอบปากคำก่อน”
ในเวลานี้เองที่ผู้กองหลงก็ได้พบว่าฉิงเทียนนั้นอยู่ที่นี่ด้วยจึงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจ เขาไม่รู้เลยว่าฉิงเทียนนั้นมาตั้งแต่เมื่อไร
ฉิงเทียนและเยว่เถียนก็ได้ถูกพาเข้าไปในห้องของผู้กองหลง เยว่เถียนนั้นจ้องมาที่เขาด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อและพบว่าฉิงเทียนนั้นแต่งตัวดูธรรมดาๆด้วยสายตาที่ดูถูก
เดิมทีฉิงเทียนเองก็อยากที่จะคุยกับเธอ แต่พอเขาเห็นท่าทีของเธอแล้ว ความคิดนั้นของเขาก็ได้หายไปทันทีและเดินเข้าไปข้างในห้องอย่างใจเย็น
“ผมขอแนะนำให้รู้จัก คนนี้คือฉิงเทียนเป็นพี่ชายของฉิงหยูครับ และคนนี้คือเยว่เถียนเป็นแม่ของเยว่โหย่วครับ พวกคุณทั้งคู่ต่างก็เป็นญาติของผู้ต้องสงสัย ดังนั้นผมจึงอยากที่จะถามอะไรบางอย่างหน่อยครับ!”
ทันทีที่ได้ยินที่ผู้กองหลงพูด เยว่เถียนก็มีสีหน้าไม่ยินดีขึ้นมาทันทีและพูดกลับไป “อะไรคือญาติผู้ต้องสงสัยกันคะ ลูกโหย่วของดิฉันไม่มีทางที่จะฆ่าใครได้อย่างแน่นอนค่ะ” จากนั้นเธอก็ชี้ไปที่ฉิงเทียนแล้วพูด “ดูเสื้อผ้าจนๆที่เขาใส่นี่สิ ดิฉันว่าน้องชายของเขาน่าจะเป็นฆาตกรซะมากกว่าอีก”
“หึ น้องชายของผมไม่มีทางเป็นฆาตกรอย่างที่คุณพูดหรอกนะ” ฉิงเทียนพูดอย่างไม่พอใจ
“ตอนนี้ทางเราสงสัยว่า 1 ในทั้ง 3 คนเป็นเพื่อนร่วมห้องของผู้ตาย ดังนั้นเขาไม่มีทางขัดขืนหรือหนีรอดการลงโทษตามกฎหมายไปได้แน่นอน ผมจึงได้อยากที่จะบอกพวกคุณว่าหากพวกคุณรู้ว่าใครเป็นคนทำ จะเป็นการดีกว่าที่จะบอกเขาให้ยอมรับผิดเสีย โทษหนักจะได้เป็นเบา”
เยว่เถียนจึงได้ปิดปากของตัวเองและกรอกสายตาไปมา ส่วนฉิงเทียนก็กำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่
“แล้วทำไมถึงมีแค่พวกเรา? ไม่ใช่ว่าควรจะมีอีกครอบครัวไม่ใช่รึไง?” ฉิงเทียนถาม
“ใช่ ควรจะมีอีกครอบครัวสิ” เยว่เถียนที่เพิ่งจะนึกออกก็ได้ถามขึ้นมาทันที
ผู้กองหลงที่ถูกถามโดยฉิงเทียนก็ได้คิ้วขมวดแล้วพูดขึ้น “ยังมีอีกครอบครัวที่ถูกเรียกให้มาอยู่ครับ และตอนนี้กำลังเข้าเยี่ยมอยู่ครับ”
“ในเมื่อให้เข้าเยี่ยมได้แล้ว แล้วให้พวกเรามามัวอยู่ที่นี่ทำไม?” ราวกับถูกเหยียบหาง เยว่เถียนก็ได้กรีดร้องขึ้นมา “ดิฉันจะดูหน่อยซิว่าลูกชายของฉันถูกพวกคุณทำร้ายยังไงบ้าง”
“ตกลงครับ คุณจะสามารถไปเยี่ยมได้หลังจากที่คุณให้การกับพวกเราเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ”
“เร็วๆเข้าสิ!” มองดูท่าทีของเยว่เถียน ฉิงเทียนก็รู้สึกขยะแขยงขึ้นมาในใจ ผู้กองหลงเองก็ได้แต่คิ้วขมวดขึ้นมา แต่ด้วยความที่เขาเป็นตำรวจเขาจึงไม่มีทางเลือกนอกจากพูดถามไปตามหน้าที่
ฉิงเทียนและเยว่เถียนถูกพาตัวไปอยู่คนละห้อง และมีตำรวจหนุ่มคอยทำหน้าที่จดบันทึกการให้การ ซึ่งเหตุการณ์นี้ทำให้ฉิงเทียนรู้สึกอยากหัวเราะและร้องไห้ออกมา: นี่เป็นครั้งที่สามแล้วนะที่เราต้องมาให้ปากคำเช่นนี้ ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับการสอบปากคำเช่นนี้แล้ว
“เอาล่ะ ตอนนี้คุณสามารถไปพบน้องชายของคุณได้แล้วนะ” เจ้าหน้าที่หนุ่มพูดกับฉิงเทียน “ตามผมมา”
จากนั้นฉิงเทียนก็ได้เดินตามตำรวจหนุ่มไปยังห้องห้องหนึ่ง ในห้องนั้นฉิงเทียนก็ได้พบกับฉิงหยู ในเวลานี้ฉิงหยูมีใบหน้าที่ดูทรุดโทรม ผมของเขาดูยุ่งเหยิงเหมือนไม่ได้สระผมมาหลายวัน ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเต็มไปด้วยรอยเปื้อน และดวงตาของเขาก็ดูไร้ซึ่งอารมณ์ราวกับว่าไม่ได้มีอะไรติดพันอยู่บนโลกนี้แล้ว
เมื่อเห็นเสี่ยวหยูเป็นเช่นนี้ ฉิงเทียนก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเจ็บปวด นี่เป็นน้องชายของเขาจริงๆเหรอ? น้องชายของเขาที่หล่อเหลาและมีความมั่นใจ? นี่มันเกิดอะไรขึ้นที่ทำให้น้องกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!
“เสี่ยวหยู ทำไมน้องถึงกลายเป็นแบบนี้ได้?” ฉิงเทียนจับมือของฉิงหยูและตะโกน “ไม่ต้องกลัวนะน้องพี่!”
ฉิงเทียนตะโกนไปก็ไม่ได้ทำให้ฉิงหยูรู้สึกตัวแต่อย่างใด เขายังคงมองอย่างเหม่อลอยและดูไม่มีแววตาในดวงตาของเขา

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ร้านค้าจากแดนสวรรค์ (仙界淘宝) ข้ามได้รีรันเฉยๆของเก่าหาย