อันที่จริง หากอันหลินถืออาวุธกึ่งเซียนประมือกับสัตว์ภูตหล่อเลี้ยงวิญญาณตัวหนึ่ง เขาก็มีความมั่นใจอยู่พอตัว
แต่ตอนนี้มีสัตว์ภูตหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นกลางเพิ่มมาถึงสามตัว นักพรตกายแห่งมรรคขั้นสิบตัวกระจ้อยอย่างเขาจะต้านทานไหวได้อย่างไร
“พี่ๆ ทั้งหลาย มีอะไรค่อยพูดค่อยจา ข้าไม่ได้ทำเรื่องผิดศีลธรรมอะไรเสียหน่อย พวกเจ้าเพ่งเล็งข้าทำไม” ด้วยสถานการณ์บังคับ อันหลินทำได้เพียงเปิดฝีปากของตน
ทว่าคำพูดของเขายังไม่ทันได้ผลอันใด
สัตว์ภูตสี่ตัวก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง เข้าประชิดตัวเขาช้าๆ ใบหน้าอำมหิตดุร้าย
จำต้องใช้ยันต์ที่ได้จากนักพรตแปลงจิตแล้วหรือ
อันหลินปวดใจเล็กน้อย ยันต์ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณใช้หมดเกลี้ยงแล้ว
ยันต์ระดับแปลงจิตมีเพียงสามใบ แต่ละใบล้วนเป็นไพ่ตายป้องกันตัวได้เพียงหนเดียว
ไม่คิดว่าจะซวยถึงขั้นต้องใช้ไพ่ตายที่นี่
แหวนมิติกะพริบ ยันต์สีเหลืองแผ่นหนึ่งสอดระหว่างง่ามนิ้ว
มันเป็นยันต์กระบี่ที่ทำโดยสือจื่อหลิงเจ้าสำนักคุนหลุน มันทัดเทียมกับการโจมตีสุดพลังของนักพรตระดับแปลงจิต
“โฮก!”
สิงโตที่แผ่รังสีดำทมิฬสองตัวกระโจนเข้าหาเขาก่อน
กรงเล็บของพวกมันคมดุจกระบี่ จะทิ่มแทงร่างกายเขา เนื่องด้วยความเร็วที่สูงมาก ทำให้เกิดเสียงหวีดหวิวกลางอากาศ
“กระบี่เย้ยเหมันต์!”
เมื่ออันหลินกระตุ้นยันต์ ลำแสงกระบี่ที่น่ากลัวเส้นหนึ่งก็พุ่งออกมา
อากาศเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นเชื่องช้า อุณหภูมิรอบข้างลดฮวบ ประหนึ่งฤดูหนาวมาเยือน
ลำแสงกระบี่สีฟ้าพุ่งผ่านไป ดุจดังเชือกเส้นเล็กที่ตัดขาดฟ้าดิน
สิงโตที่แผ่รังสีดำทะมึนยังอยู่ในท่วงท่ากระโจนดังเดิม ถูกฟันเป็นสองท่อนโดยที่ไม่มีโอกาสตอบโต้ด้วยซ้ำ กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งตกลงสู่พสุธา
เพียงแค่ใช้ยันต์ ก็สังหารสัตว์ภูตสองตัวไปในเสี้ยววินาที!
อันหลินนำยันต์อีกแผ่นออกมา พูดกับหมีขาวยักษ์กับช้างที่เหลืออย่างเย็นเยือกว่า “หากพวกเจ้าไม่กลัวตายละก็ เข้ามาเลย!”
พลังยุทธ์บรรลุถึงระดับของสัตว์ภูต ต่อให้พูดไม่ได้ ก็เข้าใจภาษามนุษย์
เขาไม่อยากใช้ยันต์แผ่นนี้ มันเป็นไพ่ตายเอาตัวรอดเชียวนะ ใช้แผ่นหนึ่งลดลงแผ่นหนึ่ง
อันหลินแค่อยากชักยันต์ออกมาเพื่อข่มขู่พวกมันเท่านั้น เพราะสภาพน่าสังเวชของสิงโตสองตัวนั้น สัตว์ภูตสองตัวนี้ก็เห็นประจักษ์แก่สายตาแล้ว
ใครเล่าจะรู้ว่าหมียักษ์กับช้างไร้ปฏิกิริยาตอบสนอง แต่ยังคงก้าวเข้ามาประชิดอันหลินด้วยท่าทีเย็นชา
ให้ตายสิ! ไม่กลัวตายงั้นเหรอ!
ปากของอันหลินขมุบขมิบ เก็บแผ่นยันต์เข้าแหวนมิติ
จากนั้นก็สาวเท้าแล้วเผ่นแน่บ!
“สวีเสี่ยวหลาน! ช่วยด้วย!”
อันหลินตะโกนลั่น พร้อมกับวิ่งไปทางสวีเสี่ยวหลาน…
ก่อนหน้านี้เป็นเพราะสิงโตขวางทางเขา จึงจำใจต้องใช้ยันต์
ตอนนี้เหลือสัตว์ภูตแค่สองตัวแล้ว เขาสู้ไม่ไหวจะหนีไม่ได้เชียวหรือ
หากจะต้องใช้ไพ่ตายรักษาชีวิตแล้ว สู้ทิ้งศักดิ์ศรีเสียยังดีกว่า
เพราะว่า…
ชีวิตต่างหากที่สำคัญที่สุด!
เมื่อหมีขาวกับช้างเห็นฉากนี้ก็ชะงัก จากนั้นคำรามลั่นไล่ตามอันหลินไปอย่างบ้าคลั่ง
ขณะที่อันหลินหลบหนี ก็ไม่ลืมเก็บร่างของสิงโตสองตัวใส่แหวนมิติด้วย
สิงโตสองตัวตายอย่างฉับไวปานนั้น สภาพร่างกายไม่เสียหายมากนัก มีเพียงร่างกายสองท่อนที่กลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งเท่านั้น
เช่นนี้แล้ว ขุมพลังสัตว์อาจจะไม่เสียหาย เขาย่อมต้องเก็บพวกมันก่อนอยู่แล้ว
ไกลออกไป มีสัตว์ประหลาดนับไม่ถ้วยถูกเปลวไฟลุกโชนแผดเผาจนเป็นเถ้าธุลี
หญิงที่สวมชุดกระโปรงสีขาวดำคนหนึ่ง ถูกเปลวไฟปกคลุม ประหนึ่งเป็นนางชีแห่งอัคคี
นางถือกระบี่ร่ายรำ ทุกท่วงท่าดูบริสุทธิ์เลอค่า
เสียงร้องของอันหลินแว่วมาแต่ไกล
หญิงสาวมองตามต้นเสียง เห็นอันหลินที่จนตรอกอย่างยิ่ง รวมถึงช้างและหมีขาวที่ไล่ตามหลังมาอย่างไม่ลดละ
“นี่ อันหลิน ทำไมเจ้าถึงเป็นที่รักขนาดนี้ล่ะ”



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม