ภายในลานบ้าน ดวงจันทร์ลอยเด่น เกิดริ้วคลื่นกระเพื่อมบนผิวน้ำของบ่อบัว
ในศาลาแห่งหนึ่ง อันหลินนั่งอยู่บนเก้าอี้ จดจ้องขุมพลังสัตว์บนโต๊ะอย่างเคร่งเครียด
ข้างๆ เขาคือสวีเสี่ยวหลาน เซวียนหยวนเฉิง ซูเฉี่ยนอวิ๋นและเจ้าอัปลักษณ์ ที่กำลังมองเขาด้วยสีหน้าลุ้นระทึก
เซวียนหยวนเฉิงเกลี้ยกล่อมจนปากเปียกปากแฉะ “สหายอันหลิน มีความในใจอะไรคุยกับหัวหน้าห้องได้ ไยต้องคิดสั้น ทำเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ด้วยเล่า”
ใบหน้างามล่มเมืองของซูเฉี่ยนอวิ๋นก็เต็มไปด้วยความตกใจ “สหายอันหลิน ใช่ว่าจะกินได้ทุกอย่าง นั่นมันขุมพลังสัตว์นะ ดีไม่ดีกินแล้วอาจจะระเบิดก็ได้!”
ราชาวานรเนตรทองก็เกาหัวเกาขนวานรบนศีรษะ และพูดเช่นเดียวกันว่า “เมื่อหกปีก่อน ราชาแรดจอมตะกละแห่งแดนสัตว์ของพวกเรา ก็เผลอกลืนขุมพลังสัตว์ลงไประหว่างที่กินจระเข้ดึกดำบรรพ์ลงท้องนี่แหละ”
“จากนั้นก็ระเบิดดังตูม”
“ตอนนี้หญ้าตรงหลุมศพของมันสูงหนึ่งจั้งแล้ว”
อันหลิน “…”
เดิมทีเขาอยากเรียกคนพวกนี้มาช่วยคุ้มกันเขา ไยตอนนี้ถึงทำเอาตนตึงเครียดขึ้นทุกทีเล่า
สวีเสี่ยวหลานยืนมือเท้าเอว ใบหน้าขาวผ่องดุจหยกขาวแสดงอาการกลัดกลุ้ม
บนหัวของนางมีดอกไม้สีแดง
เสี่ยวหงร้องไห้สะอึกสะอื้น หากเจ้านายตายมันก็อยู่ไม่ได้แล้วเช่นกัน แต่ก็จนใจเพราะเจ้านายเอาแต่รนหาที่ตาย
อันหลินเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง มักจะทำเรื่องประหลาดและน่าตกใจ และอธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร
“ได้ เจ้าดื้อเช่นนี้ ครั้งนี้ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะตายหรือไม่”
สวีเสี่ยวหลานแสดงอาการโกรธขึง พูดอย่างโมโห
อันหลินแค่นยิ้ม จ้องขุมพลังสัตว์ที่วางอยู่บนโต๊ะ สีหน้าเริ่มหนักแน่นขึ้นช้าๆ
หากต้องการเข้าสู่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณ ข้อเสนอแนะที่ระบบให้คือ
‘ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณ บรรลุเงื่อนไข กินขุมพลังสัตว์สามเม็ด’
ระบุว่ากลืน แน่นอนว่าหมายถึงกลืนทั้งเม็ด
หากว่าค่อยๆ เคี้ยวละก็ พลังที่แฝงอยู่ในขุมพลังสัตว์จะปริแตก ทำให้ตายเพราะระเบิดได้จริงๆ
เมื่อคิดได้ดังนั้น เขาจึงหยิบขุมพลังสัตว์สีขาวขึ้นมาก่อน
ขุมพลังสัตว์เม็ดนี้เขาได้มาจากหมีขาวยักษ์ที่ถูกเขาฆ่าตาย รูปลักษณ์ใช้ได้ ซ้ำยังแผ่ไอเย็นออกมาเป็นระลอกๆ
สวย แถมยังแผ่ไอเย็น ไม่ค่อยสอดคล้องกับระเบิดสักเท่าใด…
ทำให้ขุมพลังสัตว์ของหมีขาวยักษ์กลายเป็นตัวเลือกที่หนึ่งของอันหลินไปโดยปริยาย!
เขาใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้หยิบขุมพลังสัตว์ขึ้นมา ความเย็นเยือกจู่โจมนิ้วเป็นระยะๆ
เขามองขุมพลังสัตว์ขนาดเท่าลูกองุ่นเม็ดนี้พลางกลืนน้ำลาย
คำถามหนึ่งผุดขึ้นมาในใจเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ ‘กลืนลงไปแบบนี้ จะสำลักหรือเปล่า’
สามมนุษย์หนึ่งดอกไม้และสัตว์อีกตัวก็จ้องอันหลินด้วยความตึงเครียดอย่างยิ่งเช่นกัน เผลอกลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว
อันหลินอมขุมพลังสัตว์ไว้ในปาก แต่กลับไม่มีความกล้าจะกลืนลงไป เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองกำลังอมลูกระเบิด…
ความเย็นเริ่มจู่โจมปากของเขา เขาตกอยู่ในสภาวะขัดแย้งกับตนเอง
ตายเป็นตาย ก็แค่เรื่องลืมตาหลับตาไม่ใช่หรือไง!
อันหลินไม่สนแล้ว กระดกลิ้นขึ้น กลืนขุมพลังสัตว์ทั้งเม็ดลงท้องไป
“เอื๊อก…”
ความเย็นจับขั้วหัวใจ ทำให้เขาตัวสั่นเทาขึ้นมา
ความรู้สึกแบบนี้…
สุดยอด!
เมื่อเห็นอากัปกิริยาสุขสมของอันหลิน ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง
“ขุมพลังสัตว์อร่อยจริงหรือ” ซูเฉี่ยนอวิ๋นพูดด้วยเสียงนุ่มนวล ใบหน้าเปี่ยมด้วยความสงสัย
“นายท่าน ไม่เป็นไรใช่ไหม ท้องป่องท้องร้อนหรือไม่” เสี่ยวหงถามเสียงหวาน
อันหลินเพิ่งรู้สึกตัว จึงลูบท้องป้อยๆ แล้วพูดว่า “ไม่มีรสชาติ นอกจากชาและเย็นไปทั้งตัวแล้ว ไม่รู้สึกอะไรเลย”
เมื่อเห็นว่าขุมพลังสัตว์หนึ่งเม็ดไม่มีอันตรายร้ายแรงอะไรเกิดขึ้น เขาจึงหยิบขุมพลังสัตว์เม็ดที่สองขึ้น
เขากลืนขุมพลังสัตว์ลงท้องทันทีโดยที่ไม่คิดอะไร
กระแสอุ่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายในทันที ทำให้เขาอ่อนเปลี้ยไปทั้งตัว
“อา…”
สบายเหลือเกิน เขาร้องออกมาอย่างอดไม่ได้
เมื่อเห็นอากัปกิริยาสุขสมของอันหลิน ทุกคนต่างก็เบิกตากว้าง
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม