เหตุการณ์เงียบผิดปกติ บรรยากาศชอบกลอย่างยิ่ง
อันหลินกับต้าไป๋กระอักกระอ่วนยิ่งนัก รูปถ่ายที่เหมือนกันอย่างกับแกะเด่นหราอยู่ตรงนี้แล้ว พวกเขาจะพูดอะไรได้อีก
‘ต้าไป๋ ทำอย่างไรดี’ อันหลินส่งกระแสจิตถามอย่างร้อนรน
‘พี่อัน ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน’ ขณะที่พูด ต้าไป๋ก็แสดงสีหน้าบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
มันกวาดสายตามองรอบๆ อย่างน่าสงสาร ส่งกระแสจิตต่อว่า ‘แต่ตอนนี้ข้าไม่มีอันตรายอะไร คนที่ควรกังวลน่ะเจ้าต่างหาก เจ้าเคยเห็นจอมยุทธ์ผดุงความยุติธรรมคนไหน สังหาร ‘ม้า’ ในยามกำจัดปีศาจราคะขี่ม้าบ้างเล่า’
อันหลินอ้าปากค้าง ตัวแข็งทื่อดุจตกลงไปในอุโมงค์น้ำแข็ง
ต้าไป๋พูดได้มีเหตุผลเหลือเกิน ไม่อาจโต้เถียงได้เลย…
นั่นก็หมายความว่า…คนที่อันตรายที่สุดในตอนนี้คือเขา!
“ใช่ไหม เจ้าคืออันหลินใช่ไหม!” ออกัสชี้รูปถ่ายพลางจ้องอันหลิน แม้จะเป็นประโยคคำถาม แต่ความหมายแฝงที่บ่งบอกถึงความมั่นใจกลับปรากฏให้เห็นทนโท่อยู่ตรงนี้
อันหลินกวาดตามองเหล่าทูตสวรรค์ที่มีกลิ่นอายยิ่งใหญ่ ยิ้มอย่างใจดีสู้เสือ “ใช่ ข้านี่แหละอันหลิน อันที่จริง ข้าทำเช่นนี้ก็มีความลำบากเหมือนกัน…”
เขายังคิดจะสรรหาถ้อยคำมาช่วยเหลือตัวเอง คิดไม่ถึงว่าออกัสจะพุ่งเข้ามาหาเขาแล้ว
อันหลินเห็นดังนั้นก็สะดุ้งอีกครั้ง
ให้ตายสิ ยังอธิบายไม่เสร็จก็จะอัดเราแล้วเหรอ!
กำลังจะพูดว่า ‘อย่าตีข้า!’ สองมือของเขาก็ถูกออกัสกุมไว้แน่น
“ดีเหลือเกิน ไม่คิดเลยว่าจะบังเอิญเช่นนี้ พวกเรากำลังจะไปหาเจ้าอยู่พอดี!” ออกัสพูดอย่างตื่นเต้น
“เอ่อ” อันหลินกะพริบตาปริบๆ อย่างตั้งตัวไม่ทัน
เขาสอดส่ายสายตามองไปทั่ว กลับพบว่าสีหน้าของชาวปีกปัณฑูรรอบตัวเปลี่ยนแปลงไปแล้ว กลายเป็นอ่อนโยน บางคนถึงขั้นว่าส่งยิ้มให้เขาด้วยซ้ำ
มันเรื่องอะไรกัน
“อืม บังเอิญนัก จะว่าไปเจ้ามีธุระอะไรกับข้าหรือ”
อันหลินพยายามทำให้ตัวเองนิ่งเฉย ใบหน้ามีรอยยิ้มบางๆ ประดับอยู่
รีบเปลี่ยนประเด็นนั่นแหละถูกแล้ว ลืมเรื่องก่อนหน้านี้ให้หมดสิ้น!
ออกัสโค้งคำนับอันหลินอย่างพินอบพิเทา “ข้าชื่อออกัสจากเผ่าพันธุ์ปีกปัณฑูร ได้ทราบจากข้อมูลที่เกี่ยวข้องว่า สหายอันหลินเป็นผู้กำจัดราชินีอ้านเย่แห่งเผ่าพันธุ์ปีกทมิฬ พวกเราจึงเดินทางมาขอบคุณเจ้าโดยเฉพาะ”
ราชินีอ้านเย่หรือ
อันหลินได้ฟังก็สงบสติอารมณ์ ในใจพอรู้เรื่องคร่าวๆ แล้ว เอ่ยปากว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก ตอนนั้นข้ากับนางเป็นศัตรูกันอยู่แล้ว”
ออกัสยิ้มละมุน “เผ่าพันธุ์ปีกทมิฬกับพวกเราชาวปีกปัณฑูรเป็นศัตรูคู่อาฆาตกันอยู่แล้ว สหายอันหลินทำให้หนึ่งในสิบสองราชาแห่งเผ่าพันธุ์ปีกทมิฬอย่างราชินีอ้านเย่ตาย สำหรับชาวปีกปัณฑูรนั้น เป็นการช่วยพวกเรากำจัดศัตรูตัวฉกาจทางอ้อม ฉะนั้นจำเป็นต้องขอบคุณ ของตอบแทนก็จำเป็นเช่นกัน หวังว่าสหายอันหลินจะไม่ปฏิเสธ”
ใจของอันหลินกระตุกวูบ มีของตอบแทนด้วยเหรอ
งั้น…ไม่รับต้องเสียน้ำใจแน่นอน!
เขาแสดงสีหน้าลำบากใจ “ออกัส เจ้าเกรงใจกันเกินไปแล้ว…”
“เชอรีล!” ออกัสเรียกขาน
หญิงงามคนหนึ่งมาตามคำเรียก
รูปร่างที่มีทรวดทรงองค์เอวของนางบวกกับใบหน้าทูตสวรรค์ ทำให้อันหลินกับต้าไป๋ตาลุกวาว
เมื่อเชอรีลเห็นอันหลินก็ตาเป็นประกายเช่นกัน จดจ้องเขาไม่วางตา “ระดับความหน้าตาดีเจ็ดคะแนน ความสามารถคะแนนเต็ม เสน่ห์ของวีรบุรุษคะแนนเต็มคูณสอง!”
“หา” อันหลินยืนอึ้งกับที่ทันทีเมื่อได้ยินคำพูดของเชอรีล
ออกัสตีหน้าเข้ม พูดเสียงเกรี้ยวว่า “เชอรีล อย่าลืมธุระสำคัญ!”
“อ้อ!”
เชอรีลได้ยินก็ได้สติ หยิบไข่ยักษ์สีน้ำเงินที่มีขนาดสูงเกือบครึ่งเอวคนออกมาจากแหวนมิติ กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ไข่ใบนี้มีชื่อว่าไข่มังกรเปลวไฟน้ำแข็ง เป็นไข่ที่มาจากเผ่าพันธุ์มังกรชั้นสูงของชาวเรา เมื่อฟักตัวแล้วจะได้มังกรภูตเพศผู้ เป็นสัตว์เลี้ยงธรรมชาติ”
อันหลินได้ยินก็ตื่นเต้นจนหัวใจจะหลุดออกมาแล้ว มังกรภูตชั้นสูงเชียวนะ…
แค่ไข่มังกรก็มีมูลค่าน่าตะลึงแล้ว งั้นมูลค่าของไข่มังกรชั้นสูงเกรงว่าคงประมาณค่าไม่ได้!
“มา สหายอันหลิน นี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากเผ่าพันธุ์เรา มอบให้เจ้า!” เชอรีลยื่นไข่มังกรให้อันหลินยิ้มๆ
อันหลินรับไข่มังกรด้วยความลิงโลดอย่างยิ่ง เอ่ยถามว่า “ขอบคุณมาก ไข่ใบนี้ควรจะฟักอย่างไรหรือ”
เชอรีลยิ้มตาหยี “เจ้าเพียงวางมันไว้ใต้แสงอาทิตย์ทุกวัน หลั่งเลือดหนึ่งหยดบนไข่ให้มันดูดซึมทุกวัน เมื่อไข่มังกรฟักตัว มันก็จะรู้เจ้าของด้วยตัวเอง!”
อันหลินพยักหน้ารัวๆ เมื่อได้ฟัง กอดไข่มังกรไว้อย่างระแวดระวัง เกรงว่าจะได้รับการกระทบกระเทือน
หากถามว่าทำไมเขาไม่เก็บไข่เข้าไปในแหวนมิติ เพราะเขาอยากอุ้มให้นานหน่อย!


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม