อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนเจอกับหวังเสวียนจ้านอีกครั้ง
มือของหวังเสวียนจ้านถือจอกศักดิ์สิทธิ์โลหะ ใบหน้าแสดงความลังเลใจ
“ศิษย์พี่หวัง ท่านสุดยอดจริงๆ!” หลิวเชียนฮ่วนยิ้มกริ่มพูดยอตามมารยาทก่อน
หวังเสวียนจ้านยิ้มบางๆ แล้วกล่าวว่า “พอข้าได้จอกศักดิ์สิทธิ์ รองผู้อำนวยการอวี้หัวตัดสินแล้วว่าพวกเราได้หนึ่งคะแนน กล่าวตามหลักแล้ว จอกศักดิ์สิทธิ์โลหะใบนี้ไม่มีมูลค่าอะไรแล้ว แต่ข้ากลับสังหรณ์ใจ คิดว่าจอกศักดิ์สิทธิ์ใบนี้น่าจะมีความลับให้พวกเราขุดค้น”
“มีความลับให้ขุดค้นด้วยหรือ” หลิวเชียนฮ่วนรับจอกศักดิ์สิทธิ์มา มือเรียวสวยลูบไล้ผิวของมัน แสงสีขาวเบาบางสว่างวาบ
“อืม…ลวดลายด้านบนนี้น่าสนใจไม่น้อยเลย มันไหลลื่น เปี่ยมด้วยความเรียบลื่น แต่กลับขาดเมื่อถึงจุดที่สำคัญที่สุด ชวนให้รู้สึกอึดอัดใจ” ยิ่งนางวิเคราะห์มากเท่าใด ก็รู้สึกสนใจมากขึ้นเท่านั้น
หวังเสวียนจ้านมองอะไรไม่ออก
อันหลินใช้วิชาญาณทิพย์กับจอกศักดิ์สิทธิ์ วินิจฉัยได้ว่า ‘จอกศักดิ์สิทธิ์ผิวโลหะ ไม่อร่อย’ มันทำให้เขาสงสัยว่าวิชาญาณทิพย์ของตัวเองเป็นของปลอมหรือเปล่า
ทั้งคู่ต่างก็อับจนหนทาง จึงยกจอกศักดิ์สิทธิ์ให้หลิวเชียนฮ่วนศึกษาด้วยประการละฉะนี้
ทั้งสามคนมุ่งหน้าสู่หอคอยสีขาวต่อ
จากนั้นพวกเขาก็เห็นลำธารใสสะอาดไหลคดเคี้ยวผ่านไป
เมื่อหลิวเชียนฮ่วนเห็นลำธารเส้นนั้น ก็โยนจอกศักดิ์สิทธิ์ลงไป
ต๋อม!
ละอองน้ำกระเซ็นขึ้นสูง
อันหลิน “…”
หวังเสวียนจ้าน “…”
สองคนนี้จ้องหลิวเชียนฮ่วนอย่างงุนงง แต่หลิวเชียนฮ่วนกลับมองลำธารสายนั้นด้วยความคาดหวัง
“เอ๊ะ…บทไม่ถูกนี่นา เวลาแบบนี้ ควรจะมีเทพแห่งสายน้ำกระโดดออกมาถามข้าสิ”
“แม่สาวน้อยนักเวท ที่เจ้าทำตกเป็นจอกศักดิ์สิทธิ์ทองคำหรือจอกศักดิ์สิทธิ์เงิน”
หลิวเชียนฮ่วนลูบคางขาวหยวก พูดด้วยสีหน้าฉงนใจ
อันหลินเข้าใจทันที มองหลิวเชียนฮ่วนอย่างตะลึง นับถือมันสมองของนางจริงๆ
หวังเสวียนจ้านนวดหว่างคิ้ว ทอดถอนหายใจ ไม่อยากพูดจา
ผ่านไปหนึ่งนาที ลำธารใสสะอาดยังคงไหลเอื่อยๆ เช่นเคย ไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิด
ไม่มีเทพแห่งสายน้ำ
ไม่มีขวานทองหรือขวานเงิน
ยิ่งไม่มีทางมีจอกศักดิ์สิทธิ์ทองคำหรือจอกศักดิ์สิทธิ์เงิน
หลิวเชียนฮ่วนล้วงจอกศักดิ์สิทธิ์โลหะขึ้นมาอย่างผิดหวัง วิเคราะห์มันต่อด้วยความกลัดกลุ้ม
ทั้งสามมุ่งหน้าไปทางหอคอยสีขาว ขณะเดียวกันก็สังเกตสถานการณ์รอบตัวด้วย
แต่เมื่อเดินหน้าไปเรื่อยๆ นอกจากสัตว์ที่น่ารักไม่กี่ตัวแล้ว ไม่พบความผิดปกติอะไรเลย
ไม่นานพวกเขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าหอคอยสีขาว
“หอคอยไข่มุก ไยชื่อนี้ถึงได้ละมุนปานนี้เล่า”
อันหลินมองป้ายที่แขวนอยู่บนประตูหอคอย พูดพลางขมวดคิ้วมุ่น
หอคอยที่โผล่มาในสถานที่แบบนี้ ควรจะเรียกว่าหอเซียน หอปีศาจ หอมารอะไรเทือกนั้นถึงจะถูก จากนั้นพวกเขาก็เข้าไปปราบมารกำจัดปีศาจในหอคอย ฝ่าฟันอุปสรรคนานา เพื่อให้ได้จอกศักดิ์สิทธิ์ทองคำมา
อืม…การเดินเรื่องแบบนี้สิจึงจะถูกจริต!
เมื่อเปิดประตูหอไข่มุก สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาทั้งสามเป็นม่านลายน้ำที่บดบังทัศนวิสัย
ดวงตาของหวังเสวียนจ้านกระจายคลื่นสีทอง ทะลวงม่านลายน้ำ…
“อืม ยังไม่รู้สึกถึงอันตรายจากชั้นด้านใน แต่ชั้นบนของหอคอยอาจมีสิ่งมีชีวิตหรือกลไกอย่างอื่น” หวังเสวียนจ้านพูดขึ้นหลังจากที่สัมผัสอยู่ครู่หนึ่ง
อันหลินกับหลิวเชียนฮ่วนได้ยินแล้วพยักหน้า ขอเพียงไม่ใช่กับดัก เช่นนั้นก็ควรค่าจะเข้าไปสำรวจ
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสามจึงทะลุผ่านม่านลายน้ำ เข้าสู่หอไข่มุกอย่างเป็นทางการ


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม