เข้าสู่ระบบผ่าน

ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม นิยาย บท 207

“จอกศักดิ์สิทธิ์ใบนี้กับจอกที่พวกเราได้มาก่อนหน้านี้ ลวดลายบนพื้นผิวแตกต่างกันลิบลับ เหมือนกับเป็นระบบใหม่เอี่ยมที่แยกออกมาอย่างสิ้นเชิง” หลิวเชียนฮ่วนลูบจอกศักดิ์สิทธิ์และพูดอย่างเชื่องช้า

“ลวดลายมีความหมายอะไรเป็นพิเศษไหม” อันหลินกินยาบำรุงกำลังแล้วเอ่ยถาม

หลิวเชียนฮ่วนยิ้มเล็กน้อย “ถ้าได้จอกศักดิ์สิทธิ์เพิ่มอีกสักหน่อย ข้าคิดว่าข้าน่าจะพบกฎเกณฑ์ที่ซ่อนอยู่”

“หึ ได้จอกศักดิ์สิทธิ์เพิ่มมาอีกสักหน่อย ผลคะแนนรวมอันดับหนึ่งก็จะเป็นของพวกเรา”

“เมื่อถึงตอนนั้น ท่านจะพบกฎเกณฑ์หรือไม่ จะมีประโยชน์อะไรสำหรับพวกเราอีก”

อันหลินยักไหล่ เมินศิษย์พี่ที่ยู่ปากเพราะคำพูดของเขา ตรงไปข้างหน้าพร้อมกับหวังเสวียนจ้านต่อ

ตอนนี้ในบรรดาจอกศักดิ์สิทธิ์ทั้งเก้า มีจอกศักดิ์สิทธิ์สามใบถูกชิงไปแล้ว จอกศักดิ์สิทธิ์อีกหกใบที่เหลือยังไร้วี่แวว

ทั้งสามคนเดินเตร่ท่ามกลางเทือกเขาคุนหลุนอย่างไม่มีจุดหมายอยู่นาน

พระอาทิตย์ค่อยๆ ลาลับขอบฟ้า ผืนฟ้าอาบแสงสายัณห์ยามพลบค่ำ

อันหลินล่าราชามาร์มอตได้ตัวหนึ่ง[1]

กระรอกชนิดนี้มีขนาดสูงเกือบครึ่งตัวคน เสียงร้องค่อนข้างกังวาน เนื้อสดอร่อยและเหนียวหนึบ

เขาย่างราชามาร์มอตตัวนี้กิน รสชาติหอมกรอบอร่อย หลิวเชียนฮ่วนกับหวังเสวียนจ้านก็ชมไม่หยุดปากเช่นกัน

ผู้ชายหลายหมื่นชีวิตในจัตุรัสฟ้าครามทำได้เพียงแทะยาปี้กู่ประทังความอยาก[2]

พวกเขามองมาร์มอตบนหน้าจอผลึกหินด้วยความอิจฉา ริษยาและแค้นเคือง

หลังกินมาร์มอตเสร็จ ทั้งสามก็เดินทางต่อ

ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของการชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ ฉะนั้นคืนนี้พวกเขาตั้งใจว่าจะไม่หยุดพัก แต่จะค้นหาเบาะแสของจอกศักดิ์สิทธิ์ตลอดทั้งคืน

“เอ๊ะ พวกเจ้ารีบดูทางทิศตะวันออกสิ เหมือนว่าจะมีแสงไฟ!” หลิวเชียนฮ่วนชี้ไม้ชี้มือพลางอุทานลั่น

อันหลินกับหวังเสวียนจ้านแสดงสีหน้าตกใจ พวกเขามองไปยังทิศทางนั้น มองเห็นแสงสว่างอยู่รำไรจริงๆ

“ไป เราไปดูกันเถอะ” หวังเสวียนจ้านวิ่งไปทางนั้นอย่างรีบร้อนใจ

แม้จะวิ่งได้ไวมาก แต่ทั้งสามก็พยายามอำพรางกลิ่นอายของตนสุดความสามารถ เพราะเป็นไปได้สูงว่าที่นั่นอาจเป็นที่อยู่ของอิทธิพลอื่น

“เอ่อ…โขมดหรือ[3]”

เมื่ออันหลินเข้าไปใกล้ กลับพบว่าแสงไฟนั่นเป็นสีน้ำเงิน

พวกมันลอยอยู่กลางอากาศ ลุกไหม้อย่างเชื่องช้า เงียบสงบและแปลกประหลาด

“ไม่สิ ลูกไฟดวงนี้ไม่ธรรมดา!” หวังเสวียนจ้านตกใจ พูดเสียงร้อนรนว่า “ทุกคนระวัง!”

เพิ่งสิ้นเสียง ก็เห็นลูกไฟสีน้ำเงินนับไม่ถ้วนค่อยๆ ผุดออกมาจากผิวดิน ปิดล้อมทุกคนไว้

ลูกไฟสีน้ำเงินนับร้อยนับพันลูกลุกไหม้เงียบเชียบ แม้จะไม่คุโชน แต่กระจัดกระจายอยู่รอบกายอย่างเนืองแน่น ให้ความรู้สึกพรั่นใจอยู่ดี

“คิกๆ มาเล่นกันเถอะ…”

จู่ๆ ก็มีเสียงเด็กดังกระทบโสตประสาทของทั้งสาม

เสียงนี้ลึกล้ำและไกลโพ้น แต่กลับเหมือนกระซิบกระซาบอยู่ข้างหูพวกเขา ชวนให้ขนพองสยองเกล้าเมื่อได้ยิน

แกรกๆ ๆ…

โครงกระดูกสีแดงก่ำเดินมา ปรากฏสู่สายตาของทุกคน

อันหลินเบิกตากว้างเมื่อเห็นโครงกระดูก มันสูงเพียงครึ่งตัวคน โครงกระดูกหนาใหญ่ดุจจอมอ้วน ศีรษะของมันก็เป็นกะโหลกเช่นกัน แต่กลับมีดวงตากลมเปี่ยมด้วยความไร้เดียงสาและสุกใสคู่หนึ่ง

บอกตามตรง เขายอมให้เบ้าตาของโครงกระดูกกลวงโบ๋ ดีกว่าเห็นดวงตาที่แพรวพราวมีชีวิตชีวาแบบนี้ ดวงตาของโครงกระดูกช่างพิลึกเสียเหลือเกิน!

มีอีกจุดหนึ่งก็คือ มันสวมมงกุฎที่เป็นจอกศักดิ์สิทธิ์เงินอยู่เหนือศีรษะอีกด้วย!

ลูกไฟสีน้ำเงินนับพันลอยกระเพื่อมขึ้นลงประหนึ่งริ้วคลื่น ซ้ำยังส่งเสียงคิกคักประหลาดอีก

“คิกๆ มาเล่นกันเถอะ…” เสียงลึกล้ำเวิ้งว้างของโครงกระดูกอ้วนสีแดงดังขึ้นอีกครา

“ได้สิ! มาเล่นลีคออฟคิงกันเถอะ!”

หญิงสาวผมสีชมพูชูมือถือชักชวนอย่างเบิกบานใจ

รอบข้างเงียบสงัดลงทันตา

หวังเสวียนจ้าน “…”

อันหลิน “…”

โครงกระดูกอ้วนเตี้ย “…”

โครงกระดูกขบคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วหยิบกระจกขึ้นมาส่อง

จากนั้นมันก็ขยับมงกุฎของตน พบว่าตนดูน่ากลัวไม่น้อยเลย…

“ไหนบอกว่าให้พวกเราเล่นกับเจ้า จะเล่นหรือไม่เล่นกันแน่!” หลิวเชียนฮ่วนพูดอย่างไม่พอใจ

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม