ห้าร่างซ่อนเร้นท่ามกลางรัตติกาล จ้อง ‘มงกุฎ’ บนภูเขาสูงเขม็ง
ตงเยี่ยน ออกัส เชอรีล ชิงจือกับชิงซินรวมตัวกันแล้ว
บัดนี้ทั้งสามอิทธิพลยืนอยู่บนแนวรบเดียวกัน ช่วยไม่ได้ หากไปชิงจอกศักดิ์สิทธิ์ทองเพียงลำพัง มันเป็นฝันกลางวันชัดๆ!
ตอนนี้มีเพียงทุกคนร่วมมือร่วมใจกันเท่านั้น จึงจะมีความหวังฝ่าด่านได้
กล่าวตามตรง ออกัสที่เคยเห็นเด็กหญิงสำแดงเดช รู้ซึ้งถึงความน่ากลัวของพลังแบบนั้น
เขายังคงไม่หวังกับการรวมพลังของทั้งสามอิทธิพลมากนักอยู่ดี
ปีศาจจอกศักดิ์สิทธิ์ทองตนเดียวก็น่ากลัวมากพอแล้ว มีหลิวเชียนฮ่วนกับอันหลินเพิ่มมาอีก…
เมื่อคิดเช่นนี้ ออกัสก็ทอดถอนใจอีกครั้ง หากชิงจือไม่มีท่าไม้ตาย เขาจำต้องบอกว่าไม่มีความหวังแล้ว
ท่าไม้ตายของชิงจือ เป็นสิ่งที่เอาชนะปีศาจจอกศักดิ์สิทธิ์เงินได้ ทุ่มเทไปมหาศาลเพื่อกระตุ้นและซ่อมแซม บัดนี้ใช้ได้อีกครั้งแล้ว ผสานกับค่ายกลเทวทูตปัญจธาตุของออกัส สร้างผลลัพธ์อันน่าทึ่งได้ นี่เป็นที่พึ่งหนึ่งเดียวภายใต้สภาพนี้ของพวกเขาแล้ว…
ตงเยี่ยนปั้นนกหิมะตัวหนึ่ง บินสู่ยอดเขา โบยบินไปทั่วทุกสารทิศ
“ตอนนี้บนยอดเขาไม่มีกลิ่นอายของค่ายกล แม้แต่ค่ายกลซ่อนเร้นก็ถูกถอนไปหมดแล้ว ท่าทางพวกเขาก็กำลังรอพวกเราอยู่เหมือนกัน” ตงเยี่ยนเอ่ยขึ้นมาหลังใช้นกหิมะตรวจสอบดูแล้ว
ออกัสแค่นยิ้ม “นี่แหละความไม่หวั่นเกรงเพราะมีที่พึ่ง มีพลังแบบนั้น ไม่จำเป็นจะต้องใช้ลูกไม้อื่นใดเลย บดขยี้ด้วยกำลังก็พอแล้ว”
“พลังที่พวกเราระเบิดช่วงสั้นๆ ใช่ว่าจะด้อยกว่านาง โจมตีนางจนโต้ตอบไม่ทันด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด พวกเราก็ยังพอมีความหวังจะชนะได้” ชิงจือพนมมือ เอ่ยเสียงนิ่ง ใบหน้าไม่แสดงอารมณ์ใดเลย แต่ในวาจามีความมั่นใจ
ออกัสไม่เคยเห็นท่าไม้ตายของชิงจือกับตา แต่ดูจากท่าทางของเขา สามารถเพิ่มขวัญและกำลังใจให้กับอิทธิพลที่ร่วมมือกับฝ่ายตนได้อย่างแท้จริง
หลังจากที่ทั้งห้าคนแลกเปลี่ยนกลยุทธ์แล้ว ก็เริ่มเข้าประชิดยอดเขาช้าๆ
ยอดเขาสงบมาก ลมหนาวโชยผ่านเงียบเชียบ เสมือนเจือปนด้วยความอบอุ่น
ทั้งห้าทะยานลงมา เห็นตำหนักเล็กกะทัดรัดหลังนั้น ค่ายกลสีน้ำเงินปรากฏใต้ฝ่าเท้าของทั้งห้าคน
พวกเขาแยกกันยืนคนละตำแหน่ง ลำแสงห้าสีสว่างไสว ขนสีขาวลอยล่องกลางอากาศอย่างเชื่องช้า กลิ่นอายศักดิ์สิทธิ์มหาศาลเริ่มแผ่กระจายออกมาทุกทิศทาง
“ค่ายกลเทวทูตปัญจธาตุก่อตัวแล้ว ตอนที่พวกเราต่อสู้ อย่าลืมยืนอยู่กับที่” จู่ๆ ดวงตาของออกัสก็สาดแสงที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่ง ลักษณะของเขาแปรเปลี่ยนไปโดยพลัน
พลังมหาศาลแผ่ออกมาจากตัวเขา สองมือหันเข้าหาอากาศ กระแสวนสีขาวผสานพลังปัญจธาตุ กลิ่นอายทวีความน่ากลัวยิ่งขึ้น
เสาคลื่นสีขาว การลงทัณฑ์แห่งสวรรค์!
เสาแสงคลื่นน้ำวนลอยลงมาจากฟ้า พร้อมกับพลังมหาศาล มุ่งหน้าไปทางตำหนักสีขาว!
ตูม! พลังหมัดพุ่งลงมา เสาแสงมโหฬารพันลึกสะเทือนหมัดจนกระจาย
ไม่รู้ว่าเด็กหญิงปรากฏตัวตรงหน้าประตูตำหนักตั้งแต่เมื่อไหร่ จ้องพวกออกัสทั้งห้าคนด้วยสีหน้าเย็นเยือก
“พวกเจ้าจะมารื้อบ้านของข้างั้นหรือ” เด็กหญิงพูดเสียงเย็น
ออกัสเห็นหมัดที่ปล่อยออกมาส่งๆ ของเด็กหญิง ทลายกระบวนท่าอันยิ่งใหญ่ที่สั่งสมพลังมาเนิ่นนานของเขา สีหน้าพลันเปลี่ยนไป
เขาไม่ได้ตอบ แต่พุ่งใส่เด็กหญิงทันที สี่คนที่เหลือก็ตามเข้าไปอย่างรู้กัน เจตนาชัดเจนอย่างยิ่ง ไม่ต้องพูดพร่ำพรำเพลง จัดการเลย!
ตงเยี่ยนยืนอยู่บนตำแหน่งของธาตุน้ำ มันกางปีกแล้วทะยานออกไป คลื่นลูกใหญ่มืดฟ้ามัวดินบดบังจันทราและดารา โหมซัดใส่เด็กหญิง
หากว่าเป็นก่อนหน้านี้ มันไม่มีทางปล่อยพลังที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้ แต่อาศัยพลังสมทบจากธาตุของค่ายกลเทวทูตปัญจธาตุ สามารถทำในระยะเวลาอันสั้นได้!
ชิงซินยืนบนตำแหน่งธาตุไฟ ปล่อยหัตถ์วัชรเทพใส่เด็กหญิงที่อยู่ตรงหน้า ฝ่ามือสีทองกำลังขยายใหญ่ขึ้น แฝงด้วยกฎเกณฑ์แห่งพุทธ เจือพลังอันแข็งแกร่งดุจเพลิง ทำให้อานุภาพเพิ่มขึ้น



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม