เสิ่นอิงดีกับสวีเสี่ยวหลานขนาดนี้ ทำให้สวีเสี่ยวหลานทำตัวไม่ค่อยถูก
แม้แต่การทดสอบก็งดเว้น มอบมรดกให้นางอย่างผ่าเผยเช่นนี้ นี่มันของดีตกลงมาจากฟ้า[1]ไม่ใช่หรือ
“ไม่ต้องกังวล ข้าจะช่วยปลุกพลังสายเลือดมังกรให้เจ้าก่อน” เสิ่นอิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม อากัปกิริยาเปี่ยมด้วยความรักใคร่เอ็นดูที่ผู้อาวุโสมีต่อลูกหลาน
สวีเสี่ยวหลานพยักหน้า ปัญหาเรื่องพลังสายเลือดมังกรแม้แต่พ่อนางก็แก้ไขไม่ได้ ไม่คิดว่าวันนี้จะแก้ไขปัญหานี้ที่สุสานมังกรเหมันต์ได้ เกรงว่าคงจะเป็นบุญคุณที่ใหญ่หลวงอย่างยิ่งสำหรับนางแล้ว
นัยน์ตาของเสิ่นอิงกลายเป็นสีทอง อานุภาพมังกรอันสูงส่งแผ่ออกมาโดยไม่รู้ตัว ปานเทพเจ้าที่อยู่เหนือทุกผู้ทุกคน
มีค่ายกลสีทองขนาดใหญ่ก่อตัวบนผิวดิน แผ่คลุมทั่วผืนแผ่นดินลอยฟ้า
พลังปราณเริ่มซัดสาด อักขระสีทองนับไม่ถ้วนปรากฏให้เห็นกลางอากาศ หมุนรอบสวีเสี่ยวหลาน
เสิ่นอิงพึมพำเป็นภาษามังกร นิ้วเรียวดุจต้นหอมเคลื่อนไหว ประสานอินอย่างคล่องแคล่ว
“อานุภาพแห่งบรรพชน ทลายหมื่นต้องห้าม!”
ในที่สุดเสิ่นอิงก็พูดประโยคที่อันหลินฟังรู้เรื่อง จากนั้นนางก็ชูสองนิ้วแตะที่หว่างคิ้วของสวีเสี่ยวหลาน
ครืน! ค่ายกลทำงานอย่างรวดเร็ว อักขระมากเหลือคณานับแทรกซึมในร่างกายของสวีเสี่ยวหลานอย่างบ้าคลั่ง
สวีเสี่ยวหลานขมวดคิ้ว ครวญครางด้วยความเจ็บปวด
สิบห้านาทีต่อมา ราวกับมีอะไรบางอย่างฟื้นคืนชีพอย่างไรอย่างนั้น
กลิ่นอายของสวีเสี่ยวหลานแปรเปลี่ยนโดยพลัน มันเป็นกลิ่นอายของราชินีผู้อยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง
นัยน์ตาของนางกลายเป็นสีทอง ปีกของพญาหงส์กางออก มีมังกรสีเขียวห้อมล้อมเรือนร่างอรชร ขับให้นางสูงส่งเกินอาจเอื้อม
อันหลินเห็นสวีเสี่ยวหลานในสภาพแบบนี้ ก็เกือบจะศิโรราบแล้ว
นี่เป็นสวีเสี่ยวหลานเวอร์ชั่นปรับปรุงแล้ว! สะดุดตาจังเลย!
ไม่นานดวงตาของสวีเสี่ยวหลานก็กลับมาเป็นสีขาวดำสุกใสเช่นเดิม เริ่มเก็บงำกลิ่นอายแล้ว
เสิ่นอิงกลับเสียการทรงตัว ประหนึ่งว่าออกแรงมากเกินไป
สวีเสี่ยวหลานรีบเข้าไปประคองเสิ่นอิง พูดอย่างซาบซึ้งใจและกังวลว่า “ขอบคุณพี่เสิ่นอิง ท่านไม่เป็นไรใช่ไหม”
เสิ่นอิงส่ายหน้า “ไม่เป็นไร…เรามาเริ่มรับมรดกในขั้นต่อไปกันเถอะ ข้าจะมอบความรู้ การหยั่งรู้ รวมถึงพลังสายเลือดที่หลงเหลือเพียงน้อยนิดของข้าให้เจ้าทั้งหมด”
เมื่อพูดจบ นางก็ไม่สนปฏิกิริยาของสวีเสี่ยวหลาน ยกนิ้วจรดหน้าผากของสวีเสี่ยวหลานอีกครั้ง…
ครั้งนี้มรดกเรียบง่ายขึ้นมากโข รอบตัวแทบจะไม่มีคลื่นอะไรเลย
เวลาเดินผ่านไปช้าๆ อันหลินนอนฟุบอยู่บนตัวต้าไป๋ ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร ทำได้เพียงชื่นชมหญิงงามที่ยืนนิ่งไม่ไหวติงเงียบๆ
“นี่ ต้าไป๋ ในผู้หญิงสองคนนี้ เจ้าชอบใครมากกว่า” จู่ๆ อันหลินก็ถามขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
ต้าไป๋เพิ่งตกใจกับท่าทางของสวีเสี่ยวหลาน บัดนี้จึงตอบอย่างไม่ลังเลว่า “แน่นอนว่าต้องเป็นสวีเสี่ยวหลานสิ โฮ่ง!”
ปึก!
หัวของต้าไป๋ถูกทุบด้วยความโมโหจนปูดโปน
“ให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง” อันหลินพูดเสียงเย็น
ต้าไป๋ “…เสิ่นอิง”
อันหลินถึงได้พยักหน้าพอใจ เป็นสัตว์เลี้ยงจะชอบผู้หญิงคนเดียวกับเจ้านายได้อย่างไร
ขณะที่หนึ่งคนหนึ่งสุนัขกำลังหยอกล้อกันอยู่นั้น การสืบทอดของสวีเสี่ยวหลานก็สิ้นสุดลงอย่างไม่รู้ตัว
เสิ่นอิงลดมือที่จรดหน้าผากของสวีเสี่ยวหลานลง ใบหน้าฉายความโล่งอก
นางชูนิ้วขึ้นเล็กน้อย มิติแผ่ริ้วคลื่นเป็นระลอกๆ แหวนมิติสีขาวพร่างพราวกระโดดออกจากมิติ จากนั้นจรดที่ปลายนิ้วเบาๆ


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม