เจ้าอัปลักษณ์สวมหน้ากากนักรบคราม พลังพุ่งทะยานทันที ใช้กระบองฟาดกู่เยว่หวงที่กระโดดเข้ามาเช่นกัน
ตูม!
การปะทะกันของกระบี่กับกระบองเงิน ทำให้เกิดสุญญากาศทรงกลม จากนั้นระเบิดทันใด
แผดเสียงอย่างบ้าคลั่ง ฟ้าดินสั่นสะเทือน
เจ้าอัปลักษณ์ถูกสะเทือนจนถอยไปหลายจั้ง กู่เยว่หวงเองก็เช่นกัน
กู่เยว่หวงพรั่นพรึง ไม่คิดว่าพลังของวานรตัวนี้ จะไล่เลี่ยกับมัน
“เอาอีก!”
มันตะโกนลั่น กระโจนใส่เจ้าอัปลักษณ์อีกครั้ง
ตูมๆ ๆ… กลางนภา กู่เยว่หวงกับเจ้าอัปลักษณ์สู้รบปรบมือกัน พลังปราณซัดสาด เสียงสะเทือนสามลี้
ผู้แข็งแกร่งแห่งเกาะมรกตมองการต่อสู้กลางอากาศด้วยความตะลึง พวกมันไม่คิดเลยว่าวานรที่ไม่บรรลุระดับแปลงจิตเลยด้วยซ้ำ จะสู้กู่เยว่หวงได้จริงๆ
ตูม! เจ้าอัปลักษณ์ยิ่งรบก็ยิ่งฮึกเหิม โจมตีจนกู่เยว่หวงถอยออกไปหลายสิบเมตรด้วยกระบองทรงพลัง
หนนี้ สีหน้าของทุกคนบนเกาะมรกตเปลี่ยนไปอีกครั้ง
“คุณพระ ราชันวานรต้าซ่วยกำราบกู่เยว่หวงได้แล้ว หรือครั้งนี้เจ้าแห่งเกาะมรกตจะถูกแทนที่อีกแล้ว”
“ไม่มีทางหรอก” ภูตพฤกษาชราตนหนึ่งส่ายหน้า “การโจมตีในขั้นนี้ของราชันวานร ทำลายเขตอาคมแสงจันทร์พิทักษ์ของกู่เยว่หวงไม่ได้ อีกอย่างราชันวานรน่าจะใช้วิธีระเบิดพลังบางอย่าง วิธีแบบนี้ไม่คงทน หากว่าสิ้นประสิทธิภาพ ก็ถึงวันตายของราชันวานรแล้ว…”
ความจริงก็เป็นดั่งเช่นที่มนุษย์พฤกษากล่าว พลังจากหน้ากากนักรบครามของเจ้าอัปลักษณ์จวนจะสูญสิ้นแล้ว
“ก็ยังไม่พออยู่ดี…” อันหลินนำกระบี่พิชิตมารออกจากแหวนมิติ
กู่หวงเยว่กับเจ้าอัปลักษณ์กำลังรบกัน ไม่มีใครสนใจการกระทำของนักพรตหนุ่ม
แต่ในตอนนั้นเอง ฟ้าดินก็พลันมืดมนอย่างสิ้นเชิง
กระบวนท่าที่สอง เงาพยัคฆ์!
สรรพสิ่งเริ่มเงียบงัน จู่ๆ กู่เยว่หวงก็สั่นเทิ้ม วิกฤตมรณะที่ไม่เคยมีมาก่อนแผ่คลุมทั่วร่าง
มันกระตุ้นเขตอาคมแสงจันทร์พิทักษ์อย่างบ้าคลั่ง ดวงจันทร์แผ่แสงขาวไม่หยุด
ทว่าความมืดกลับเป็นเหมืองกรงเล็บที่แหลมคมที่สุด ฉีกลำแสงสีขาว รุกรานดวงจันทร์…
“ไม่นะ!” กู่เยว่หวงวิงวอนอย่างกริ่งเกรง
ชั่ววินาทีนั้น มันหวนคิดถึงความโหดเหี้ยมจากกระบี่ของหญิงเผ่าพันธุ์มังกรคนนั้น สัมผัสได้ถึงความกลัวที่ถูกเชือดเฉือน
“ขอยืมแขนเจ้าหน่อย” เสียงเรียบเฉยดังขึ้นท่ามกลางอนธการและความเงียบสงัด อันหลินปรากฏกายในเงามืด กระบี่พิชิตมารตวัดฟันลงมาอย่างไร้สุ้มเสียง!
เงากระบี่สีดำที่ลุกลามไปร่วมร้อยเมตรพุ่งลงมาทันที กู่เยว่หวงกรีดร้องกลางเวหา
แสงสว่างสาดส่องอีกครั้ง ความมืดมาไว ไปไวด้วยเช่นกัน
เมื่อสิ่งมีชีวิตบนเกาะมรกตมองเห็นเหตุการณ์บนเวหาอีกครั้ง สุนัขสีขาวขนปุกปุยก็คาบแขนหนาใหญ่สีเขียวเหลือง หนีเตลิดไปไกลพร้อมกับราชันวานรแล้ว
“หึ จักรพรรดิเกาะมรกตกับผีอะไร แม้แต่กระบี่ของเซียนกระบี่อันหลินอย่างข้ายังต้านไม่ได้! ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ไปใคร่ครวญให้ดี!”
ชายหนุ่มหล่อเหลาทิ้งคำพูดนี้ไว้ หันแผ่นหลังที่แข็งแรงกำยำให้ชาวเกาะมรกตแล้วย่ำก้อนอิฐสีดำแปลกพิลึกเหาะเหินไป ไม่มีใครกล้าขัดขวาง
พวกมันตกตะลึง ไม่เข้าใจว่าทำไมนักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณคนนั้นถึงได้แข็งแกร่งปานนี้
แต่มีประการหนึ่งที่พวกมันรู้ดีแก่ใจเป็นอย่างมากนั่นก็คือ เซียนกระบี่ที่มีนามว่าอันหลิน ตำนานแห่งเกาะมรกตที่เอาชนะกู่เยว่หวงได้ด้วยกระบี่เดียว! วีรกรรมของเขาจะกระฉ่อนไปทั่วเกาะมรกต ไปถึงทะเลบูรพา
แน่นอนว่ากู่เยว่หวงไม่ถือสา…
กู่เยว่หวงรอดตายจากหายนะ หมดสิ้นมาดมังกรผงาดฟ้าที่เคยมีไปนานแล้ว ลอยลงมาบนแท่นหินด้วยเนื้อตัวที่สั่นเทา มันรู้ว่า หากอันหลินไม่ยั้งมือ มันจะไม่ใช่แค่แขนขาดแน่นอน แต่ร่างกายจะถูกฟันเป็นสองท่อน…
ชายหนุ่มที่มีเพลงกระบี่น่ากลัวคนนั้นไปแล้ว ไยเขาฟันแค่แขนเดียวก็ไปเลยเล่า
กู่เยว่หวงไม่เข้าใจ แต่เมื่อมันนึกถึงสุนัขที่คาบแขนของตัวเอง มันก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้
หญิงเผ่าพันธุ์มังกรคนนั้นก็ฟันมันท่อนหนึ่งแล้วจากไปเช่นกันไม่ใช่หรือ
เหตุการณ์ที่คุ้นเคยทำให้มันหวาดหวั่นพรั่นพรึง อดสะดุ้งโหยงไม่ได้
“ผู้ที่อาจหาญท้าทายข้า ถูกข้าไล่ตะเพิดไปแล้ว…”


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม