ชีวิตการบำเพ็ญเพียรของชั้นปีที่สามเข้าสู่สภาวะปกติ เวลากำลังล่วงเลยอย่างเชื่องช้าและเรียบง่าย
อันหลินสร้างเสถียรภาพให้กับพลังยุทธ์ของตนแล้ว เริ่มก้าวเข้าสู่ระดับขั้นที่สูงกว่าแล้ว
ขั้นต่อไปก็คือศึกษาวิชาของตนแล้ว เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตนจะสร้างวิชารูปแบบไหนออกมา
แต่ในฐานะที่อันหลินเป็นเซียนกระบี่ การมีวิชาจำพวกหมื่นกระบี่ระดมยิง หรือวิชาประเภทปราณกระบี่โลดแล่นอะไรเทือกนั้น มันจึงจะเหมาะสมกับฐานะของเขา
เพื่อการบรรลุวิชาของตน เขาจึงมองอาทิตย์ขึ้นอาทิตย์ตก นั่งสมาธิภายใต้ท้องฟ้ายามราตรี รำกระบี่ใต้ธารน้ำตก ไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ทำหมดแล้ว
แต่ทว่าก็ยังไม่ได้ผลอยู่ดี
“เจ้าอัปลักษณ์ เจ้าว่าข้าศึกษาผิดวิธีหรือไม่ ไยยืนหยัดมาหลายวันแล้วกลับไม่มีผลอะไรเลย” อันหลินระบายความในใจ
เจ้าอัปลักษณ์เกาขนลิงบนศีรษะ พูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจว่า “จะพูดว่าวิธีการไม่ถูกก็ไม่ใช่เสียทีเดียว ต้องการสร้างวิชาของตน โดยปกติแล้วตัวเองจำต้องเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ สถานที่ที่ค่อนข้างมีความสุนทรี มีประโยชน์ต่อการบรรลุวิชาของตน”
“การหยั่งรู้วิชาของตนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายดาย อย่างไรเสีย มันเป็นสันปันน้ำที่ใหญ่โตโอฬาร นักพรตหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลายตั้งมากมายที่ชีวิตนี้ไม่อาจบรรลุวิชาของตนได้ ฉะนั้นพี่อันอย่าใจร้อนเกินไปเลยนะ”
เมื่ออันหลินได้ฟังก็เสียวสันหลังวาบทันที
เกิดคุณสมบัติของเขาไม่ดี ต้องใช้เวลาหลายสิบปีในการศึกษาวิชาของตน คงต้องร้องไห้จนตายแน่
ไม่ได้การแล้วๆ อันตรายแบบนี้จะเสี่ยงไม่ได้…
อืม…ขอความช่วยเหลือจากระบบหลอกลวงของเขาแต่โดยดีก็แล้วกัน!
ภายในห้องปรุงยา ณ ราชวังดุสิต
จอมอ้วนตัวกลมได้เจอไอดอลของเขาอีกแล้ว
“สหายอันหลิน ครั้งนี้มากินยาอะไรหรือ!” หยินสี่ตาลุกวาว เอ่ยถามด้วยความตื่นเต้น
“เอ่อ…ข้ามาครั้งนี้เพราะมีคำถามอยากจะขอคำแนะนำจากท่านสักหน่อย” อันหลินพูดอย่างละอายใจ
ผู้เที่ยงแท้หยินสี่เป็นศิษย์เอกของปรมาจารย์ไท่ซ่าง มากประสบการณ์ ซ้ำยังเป็นนักปรุงยาชั้นหนึ่ง ขอคำแนะนำจากเขาน่าจะไม่มีปัญหา
“ไม่ต้องเกรงใจ ว่ามาเถอะ เจอปัญหาอะไรหรือ” หยินสี่เคยเจออันหลินหลายครั้ง กำลังอยากผูกมิตรกับยอดฝีมือด้านการกินยาอยู่พอดี ด้วยเหตุนี้จึงแสดงความเป็นมิตรกับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก
อันหลินครุ่นคิดครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พูดวัตถุดิบในการทะลวงขั้นสู่ระดับแปลงจิตออกมา “ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสหยินสี่เคยได้ยินดวงใจแห่งเทพสวรรค์ น้ำแห่งเทพสวรรค์ กับผลเทวะสูงสุดหรือไม่”
หยินสี่เบิกตากว้างทันทีที่ได้ยิน เผลอสูดหายใจดังเฮือกโดยไม่รู้ตัว “ไยเจ้าต้องถามถึงของสามอย่างนี้ด้วย”
“ข้าอยากรวบรวมพวกมัน จำเป็นต้องใช้”
“ให้ตายสิ! รวบรวมพวกมันหรือ เจ้าจะเอาของพวกนี้ไปทำไม!”
“ทำไมหรือ ไม่ได้หรือ” อันหลินดะพริบตาปริบๆ ไม่เข้าใจว่าทำไมหยินสี่ถึงได้มีปฏิกิริยารุนแรงขนาดนี้ด้วย
“ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าได้หรือไม่ได้…” หยินสี่นวดขมับ มองอันหลินแล้วพูดเสียงเข้มว่า “แต่เพราะระดับของของสามสิ่งนี้สูงเกินไป ไยเจ้าต้องแตะต้องกันด้วย…”
“อย่างเช่นผลเทวะสูงสุด ยาวิเศษทั่วไปจะแบ่งเป็นระดับวิเศษกับระดับเซียนไม่ใช่หรือ”
อันหลินพยักหน้า “เรื่องนี้ข้ารู้ ระดับวิเศษกับระดับเซียนมีตั้งแต่ขั้นเก้าถึงขั้นหนึ่ง ขั้นหนึ่งสูงที่สุด”
หยินสี่มองอันหลิน กล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “แล้วเจ้ารู้ไหมว่า เหนือระดับเซียนยังมีอีกหนึ่งระดับน่ะ”
อันหลินชะงัก ในใจมีข้อสันนิษฐานบางอย่างผุดขึ้นมา มุมปากกระตุกยิกๆ “คงไม่ใช่ระดับเทวะหรอกนะ”
“ใช่แล้ว ระดับเทวะนั่นแหละ ผลเทวะสูงสุดที่เจ้าต้องการก็คือผลไม้ระดับเทวะ!” หยินสี่ทำหน้าแปลกใจ พูดต่อว่า “ฉะนั้นเนี่ย…เจ้าจะเอาผลไม้ระดับนี้ไปทำอะไร”
“โอ้โฮ!” อันหลินอดสบถไม่ได้ “แค่ยาสรรสร้างชีวิตยังต้องจ่ายถึงสิบกว่าล้านหินวิญญาณ ผลเทวะสูงสุดจะไม่ทำเอาข้าถังแตกเลยหรือ!”
จู่ๆ เขาก็สัมผัสได้ถึงเจตนาชั่วร้ายของระบบ ยังจะกินผลเทวะสูงสุดอีกหรือ
คนจนอย่างเขามีปัญญาซื้อกินที่ไหนกัน!
“ไม่ขนาดนั้นหรอก ผลเทวะกับยาเซียนแตกต่างกัน เพราะยาสรรสร้างชีวิตที่เทียบเท่ายาเซียนขั้นหนึ่ง ต้องใช้สมุนไพรระดับเซียนขั้นสูงหลายชนิดกว่าจะปรุงออกมาได้ ราคาย่อมสูงกว่าอยู่แล้ว ผลเทวะไม่ได้แพงระยับ เพียงแค่ราคาสูงไม่มีใครต้องการก็เท่านั้น…”
หยินสี่เหลือบมองอันหลิน “ผลเทวะสูงสุดมีสติปัญญาแต่กำเนิด เป็นวัตถุวิเศษที่เบื้องบนคุ้มครอง มันไม่เพียงแต่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระแต่กำเนิดเท่านั้น ยังพูดภาษาง่ายๆ ได้อีกด้วย เหมือนสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาสูง สรรพคุณมหัศจรรย์ท่วมท้น ความล้ำค่าของมัน แม้แต่ผู้เที่ยงแท้ก็ไม่ขายให้ใครง่ายๆ เจ้าจะไปเอาของแบบนั้นมาจากไหน”
“ข้าถึงได้ตกใจ ไยเจ้าต้องสะสมของพวกนี้ มันเป็นภารกิจที่ไม่มีทางเป็นจริงได้เลย! เจ้าอย่าคิดเรื่องนี้เลย!”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม