อันหลินมองต้าไป๋ พูดอย่างฉงนใจว่า “ต้าไป๋ พวกเรามาร้านกาแฟทำไม”
ต้าไป๋เกาหัวแล้วกวาดตามองรอบกาย กล่าวอย่างไม่แน่ใจว่า “หรือเราจะถูกมนต์ลวงตา คาถาเสียความทรงจำ”
“อวัยวะข้าก็ไม่ได้หาย เงินข้าก็ยังอยู่ จะใช้เวทมนตร์พวกนี้กับข้าทำไม” อันหลินมองแก้วกาแฟบนโต๊ะที่อยู่ตรงข้าม เมื่อหยิบขึ้นมาพบว่าถูกดื่มไปครึ่งหนึ่งแล้ว จึงสูดดมอย่างสนเท่ห์ ไม่พบความพิเศษอะไร
เขาจึงดื่มไปคำหนึ่ง อืม รสชาติใช้ได้
“หมายความว่าใครบางคนมาดื่มกาแฟกับข้า พอดื่มหมดก็ทิ้งคาถาลบความจำแล้วหนีไปงั้นหรือ” อันหลินคิดว่าข้อสันนิษฐานนี้เหลวไหลมาก ยอดฝีมือคนไหนที่ว่างขนาดนี้!
เมื่อรู้ว่าความทรงจำของตนถูกลบ ช่างเป็นเรื่องที่อัดอั้นตันใจเหลือเกิน
เพราะมนุษย์มักมีความสงสัยใคร่รู้ ครั้นเขารู้ว่าตัวเองสูญเสียความทรงจำ ก็อยากรู้เหลือเกินว่าความทรงจำที่หายไปคืออะไรกันแน่ มันเป็นความดื้อดึงที่คล้ายคลึงกับโรคย้ำคิดย้ำทำ ราวกับว่าหากไม่รู้เรื่องนั้น ชีวิตของตนจะไม่สมบูรณ์อย่างไรอย่างนั้น มันทรมานยิ่งกว่าอยากรู้ว่าคนตายไปแล้วพูดอะไรกันแน่เสียอีก!
อันหลินล้วงมือถือออกมา อยากจะโพสต์ระบายอารมณ์ที่ย่ำแย่ในตอนนี้ของเขาสักหน่อย
จากนั้นเขาก็เห็นรายชื่อเพื่อนแปลกหน้า ชื่อว่า ‘พญางูนิล’
ตูม ราวกับอะไรบางอย่างถูกเปิดออก
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้เริ่มฉายในสมองเป็นฉากๆ
อันหลินสูดหายใจเข้าลึก เปิดหน้าต่างสนทนากับพญางูนิล สองนิ้วเคาะบนหน้าจอ ‘พญางูนิล เธอเป็นใครกันแน่ ไม่รู้หรือไงว่าการลบความทรงจำของคนอื่นโดยพลการเป็นเรื่องที่บาปมหันต์น่ะ!’
พญางูนิลส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มกว้างมา ‘ถ้าฉันลบความทรงจำของนายจริงๆ นายคิดว่าตัวเองจะนึกเรื่องพวกนี้ออกเหรอ’
นักพรตจอมปลอมเสี่ยวอัน ‘…’
นักพรตจอมปลอมเสี่ยวอัน ‘เธอเป็นใครกันแน่ มาหาฉันวันนี้มีจุดประสงค์อะไร’
อันหลินคิดว่าผู้หญิงคนนี้ต้องเป็นยอดฝีมือแน่นอน มาตีสนิทกับเขาด้วยจุดประสงค์ที่บอกใครไม่ได้
ต้องการทรัพย์สินของเขา หรือต้องการตัวเขา
พญางูนิลส่งสติ๊กเกอร์ยิ้มมา ‘เหอะๆ ไปอาบน้ำก่อน แล้วคุยกันใหม่’
เมื่ออันหลินเห็นข้อความนี้ก็หน้ามืด เกือบจะกระอักเลือด
ให้ตายสิ! สามอาวุธสังหารของบทสนทนา ยิ้ม เหอะๆ เกราะอาบน้ำถูกใช้จนครบ นุ่มนวลหน่อยจะตายหรือไง!
ไม่รู้หรือไงว่าบทสนทนาแบบนี้ทำร้ายจิตใจกันมากน่ะ!
เขากดโทรหาคนคนหนึ่งด้วยความโมโห
“ว้าว ท่านเจ้าแห่งพิษโทรหาฉันเหรอเนี่ย ดีใจจังเลย!”
“อะแฮ่ม พญางูขาว ฉันขอถามอะไรหน่อย เธอต้องบอกมาตามจริงนะ”
“อืมๆ คุณถามมาได้เลย!”
“เธอรู้ไหมว่าพญางูนิลคือใคร”
“ฮะ พญางูนิลคืออะไร คุณคงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นพญางูขาว ก็เลยคิดว่ายังมีพวกพญางูนิล พญางูน้ำเงินอะไรเทือกนั้นหรอกนะ”
อันหลินฟังประโยคที่คุ้นหู มุมปากกระตุกยิกๆ ไม่รู้ว่าจะสบถอะไรดี
หลังคุยสัพเพเหระครู่หนึ่ง ในที่สุดก็วางสายโดยที่ไม่ได้อะไรเลย ก่อนจะมองหน้าต่างสนทนาของพญางูนิลอีกครั้ง พบว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดเลย จึงอดทอดถอนใจไม่ได้
“ไปกันเถอะต้าไป๋ เราไปช้อปปิ้งกันต่อเถอะ…”
…
เวลามักผ่านไปไวเสมอ ผ่านไปอีกสองวันอย่างไม่รู้ตัว
ศิษย์พี่หลิวหลงใหลเกมที่ชื่อพับจีเข้าแล้ว สวีเสี่ยวหลานกับซูเฉี่ยนอวิ๋นซื้อเสื้อผ้าหลากหลายสไตล์มามากมาย พี่เฉิงเสียเงินจำนวนมหาศาลไปกับอาวุธลับชิ้นหนึ่งของรัสเซีย เถียนหลิงหลิงจะทะลวงขั้นสู่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณแล้ว จักรพรรดินีปี้ฉงเข้าสู่ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลายแล้ว จักรพรรดิจื่อหยางเองก็กายแห่งมรรคขั้นหนึ่งแล้ว…
เวลาที่จะได้อยู่บนโลกเข้าสู่บั้นปลายแล้ว ค่ำคืนสุดท้าย อันหลินเชื้อเชิญพวกเฉินจิ่งเทียนที่รบเคียงบ่าเคียงไหล่ที่บ่อสวรรค์ในวันนั้น จัดปาร์ตี้ปิ้งย่างแกล้มเบียร์ สนุกสนานกันสุดเหวี่ยงจนค่อนคืน
รุ่งอรุณ อันหลินบอกลาพ่อ บอกลาผองเพื่อนบนโลก หวนกลับสรวงสวรรค์อีกครั้ง



ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม