เขาแห่งสายลม เขตหมื่นเขา
อันหลินกำลังขี่สุนัขเหินเวหา สิ่งที่เข้ามาในคลองจักษุเป็นยอดเขาที่สูงทะลุเมฆ มีหมอกโอบล้อมลูกแล้วลูกเล่า
“พี่อัน ที่นั่นมีหญิงงามที่งดงามเย้ายวนจริงๆ หรือ โฮ่ง” ต้าไป๋พูดอย่างไม่ค่อยเชื่อ
อันหลินพูดอย่างเคร่งขรึมว่า “จริงสิ เป็นองค์หญิงที่ถูกขังอยู่ในปราสาทมืดมน กำลังรออัศวินไปช่วยเหลือนาง!”
“อัศวินขี่สุนัข โฮ่ง!” ต้าไป๋ชอบโครงเรื่องแบบนี้มาก จึงตะโกนอย่างตื่นเต้น
เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของต้าไป๋แล้ว เจ้าอัปลักษณ์กับเสี่ยวหงกลับเบื่อหน่าย เจ้าอัปลักษณ์เป็นเพราะเข้าไปไม่ได้ ครั้งนี้มาเพื่อผ่อนคลายเฉยๆ ส่วนเสี่ยวหงนอนอยู่ในกระเป๋าของอันหลินเงียบๆ อยู่หรือตายไม่มีอะไรต่างกัน
ใต้ขุนเขาที่สูงทะลุชั้นเมฆลูกหนึ่ง น้ำในทะเลสาบเมฆขาวกระเพื่อม
อันหลินมาหยุดอยู่เหนือทะเลสาบเมฆขาว ตะโกนเสียงดังว่า “ผู้อาวุโสเจียงอันหลาน อยู่หรือไม่!”
เสียงของเขาดังก้องผิวทะเลสาบปานสายฟ้าคำราม เชื่อว่าหากหูไม่หนวก ก็น่าจะได้ยิน
เจ้าอัปลักษณ์พูดอย่างงุนงงว่า “เรียกผู้อาวุโสเจียงอันหลานควรจะไปจับวัวสายรุ้งมาเซ่นไม่ใช่หรือ”
อันหลินกลับยิ้มบางๆ เมื่อได้ฟัง “ข้ากับเขามีมิตรภาพต่อกัน ต้องใช้พิธีรีตองพวกนั้นด้วยหรือ”
ครืน
ละอองน้ำขนาดใหญ่พุ่งขึ้นจากผิวน้ำ มังกรยาวหลายสิบจั้งที่เต็มไปด้วยเกล็ดสีเขียวตัวหนึ่งปรากฏตรงหน้าอันหลินอย่างน่าเกรงจาม
“อันหลิน เจ้าเองหรือ” มังกรเห็นอันหลินก็ชะงักไป
มันจดจำชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ได้ดีเหลือเกิน เพราะเป็นคนที่เคยยกเค้าคลังสมบัติของมัน ไม่อยากจดจำก็ทำไม่ได้
“ฮ่าๆ ผู้อาวุโสเจียงอันหลาน เป็นอย่างไรบ้าง” อันหลินทักทายอย่างเริงร่า
“ไม่พบกันนานเลยนะสหายอันหลิน ไม่ทราบว่าเจ้ามาที่นี่มีธุระอะไร” เจียงอันหลานไม่คิดว่าอันหลินมาที่นี่เพราะคิดถึงมันแน่
“อ้อ ผู้อาวุโส ข้ามาเพื่อผจญภัยในโบราณสถานของทะเลสาบเมฆขาว” อันหลินพูดตรงๆ
เจียงอันหลานปากกระตุกทันทีที่ได้ยิน “ยังจะมาอีกหรือ ก่อนหน้านี้ถูกร่างจำแลงศูนย์กลางข้างในนั่นไล่ออกมาไม่ใช่หรือ”
“ฮ่าๆ นั่นมันเมื่อก่อน ข้าในตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว!” อันหลินยิ้มอย่างมั่นใจ ในดวงตามีเปลวไฟลุกโชน
ใช่แล้ว ตอนนี้เขาเป็นผู้แข็งแกร่งระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นปลายแล้ว และมีพลังวิเศษเลิศล้ำนานาชนิด
โบราณสถานจื่อซิงน่ากลัวงั้นเหรอ ไม่เลย!
โบราณสถานจำกัดเพียงนักพรตที่มีพลังต่ำกว่าระดับแปลงจิตเท่านั้นที่จะเข้าได้ อันหลินไม่ได้ตัดสินใจทะลวงระดับแปลงจิต จุดประสงค์ก็เพื่อมากวาดล้างโบราณสถานดาวม่วงแห่งนี้ให้ราบคาบอีกสักรอบ!
ถ้าแม้แต่เขาก็กวาดล้างสถาบันวิจัยหมายเลขแปดสิบแปดแห่งนี้ไม่ได้ เช่นนั้นคนอื่นก็ยิ่งทำไม่ได้ ระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณที่เหนือกว่าอันหลินมีหรือไม่ไม่รู้ แต่อย่างน้อยเขาไม่เคยพบเห็น
“เอาเถอะ ข้าก็คร้านจะยุ่งกับเจ้าแล้ว” เจียงอันหลานเห็นท่าทางฮึกเหิมของอันหลิน จึงไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่มองสองมือของอันหลินด้วยนัยน์ตาสีเหลือง “วัวสายรุ้งล่ะ”
“ฮ่าๆ วัวสายรุ้งหายากยิ่งนัก เราเป็นเพื่อนเก่ากันแล้ว ต้องพูดเรื่องนี้อีกหรือ” อันหลินหัวเราะร่า ทำหน้าสนิทสนมชิดเชื้อ
มังกรแสยะยิ้ม “หึๆ”
มันไม่ขยับเขยื้อน และไม่พูดอะไรอีก
จู่ๆ บรรยากาศก็เงียบงัน
สถานการณ์กระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง
ต้าไป๋พยายามกลั้นขำ นี่น่ะหรือเพื่อนเก่าที่พี่อันว่า
ทำไมเหมือนอริเก่าปานนี้ล่ะ
อันหลินหงุดหงิดใจ คิดในใจว่าทำไมมังกรงั่งนี่ไม่ไว้หน้ากันเลย
ใบหน้าของเขาฉายความเจ็บปวด หยิบหินปราณสีขาวพร่างพรายออกจากแหวนมิติสิบก้อน
“ฮ่าๆ สหายเจียง ข้ารู้ว่าของธรรมดาพวกนี้ท่านอาจจะไม่ต้องการ...”
เจียงอันหลานเห็นหินปราณในมืออันหลิน มุมปากก็กระตุก คล้ายว่ามีอะไรอยากพูด
ตอนนั้นเอง อันหลินพูดต่อว่า “แต่ข้าคนนี้ตื้นเขินยิ่งนัก อย่างอื่นไม่มี เหลือแค่เงิน…นานๆ ทีจะได้พบเพื่อนเก่าสักหน ของขวัญที่พบกันคราวนี้เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของข้า หวังว่าท่านจะรับไว้…”
เขาพูดพลางยัดสิบหินปราณใส่มือเจียงอันหลาน
เจียงอันหลานกำหินปราณพวกนี้ไว้ สีหน้าแปรเปลี่ยนทันใด หัวเราะร่วน “โธ่ ดูสหายอันหลินพูดเข้าสิ มาหาข้าจะเตรียมของพวกนี้มาอีก ต่อไปไม่ต้องลำบากแบบนี้หรอก”
จากนั้นมังกรก็กลายร่างเป็นชายวัยกลางคน เก็บหินปราณใส่แหวนมิติอย่างหน้าชื่นตาบาน ทั้งคู่เริ่มพูดคุย สนทนากันอย่างรื่นรมย์ ท่าทางเหมือนเพื่อนเก่าดีใจที่ได้พบกันอีกครั้ง หลังจากที่ไม่เจอกันนานนม
ต้าไป๋อ้าปากค้าง มองภาพตรงหน้าอึ้งๆ ในใจเหมือนมีประตูบานหนึ่งเปิดออก

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม