เขาชมจันทร์ นักเรียนสิบกว่าชีวิตมาถึงยอดของเขาชมจันทร์แล้ว
สวีเสี่ยวหลาน เซวียนหยวนเฉิง ซูเฉี่ยนอวิ๋น หลิวเชียนฮ่วน ลั่วจื่อผิง เหมียวเถียน จงหย่งเหยียน ซุนเซิ่งเหลียน เหยาหมิงซี เหยาซิ่ว หูก้วน ถังซีเหมิน หลิวต้าเป๋าและจ้าวหวายหยิน…
หลังผองเพื่อนของอันหลินทราบข่าวนี้ ก็พากันมารอที่ยอดเขาชมจันทร์ทันที
มีบุรุษชุดขาวที่องอาจเหนือสามัญอีกคน เหน็บกระบี่คู่กายข้างเอวยืนตระหง่านบนยอดเขา เขาคือเซียนกระบี่หลิงเซียว อาจารย์ที่ปรึกษาของห้องอันหลิน
อันหลินข้ามอสนีบาตจำต้องพึ่งพาตนเองเท่านั้น ไม่มีใครช่วยเขาได้
มิตรสหายอาจารย์มาที่นี่เพียงเพื่อป้องกันอุบัติเหตุยามข้ามอสนีบาต และให้กำลังใจอันหลินเท่านั้น
เรื่องที่อันหลินแปลงจิตยังถือเป็นความลับ หากว่าแพร่สะพัดออกไป เกรงว่าจะสะเทือนไปทั้งสำนัก เมื่อถึงตอนนั้น เขาชมจันทร์คงแออัดไปด้วยนักเรียนหลายหมื่นคน เขาจึงจำต้องจัดการเงียบๆ ให้คนสนิทสิบกว่าชีวิตรู้เป็นพอ
“ย้อนคิดถึงตอนนั้น ข้ากับอันหลินยังสูสีคู่คี่กันอยู่เลย ไม่คิดว่าวันนี้ เขาจะแปลงจิตแล้ว…” ใบหน้าดำเมี่ยมของหลิวต้าเป๋ามีความเศร้าซึม
“คนเราย่อมเปลี่ยนแปลง ต่อให้เป็นหมาก็เปลี่ยนเหมือนกัน” จ้าวหวายหยินแหงนหน้ามองฟ้าแล้วถอนหายใจ
หลิวเชียนฮ่วนยิ้มร่า “ไม่คิดเลยว่าคนที่เข้าสู่ระดับแปลงจิตคนแรกของสำนักจะเป็นอันหลิน ศิษย์พี่อย่างข้าละอายใจนัก!”
ถังซีเหมินกลอกตาใส่หลิวเชียนฮ่วน “ไยข้ามองไม่ออกเลยว่าเจ้าละอายใจน่ะ แต่ศิษย์พี่อย่างข้าคนนี้ละอายใจจริงๆ”
“นึกถึงตอนนั้น ตอนที่เขาเข้าเรียนเป็นเพียงกายแห่งมรรคขั้นศูนย์ ข้ายังบอกเขาอยู่เลยว่าให้ตั้งใจพยายาม ไม่คิดเลยว่าสามปีให้หลัง เขาจะกลายเป็นนักเรียนที่แปลงจิตก่อนใครเพื่อน” ใบหน้าของเซวียนหยวนเฉิงเจือความคะนึงคิด
“แต่อันหลินยังไม่กึ่งแปลงจิตเลยไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้จะเลื่อนระดับสู่แปลงจิตแล้วล่ะ” ดวงหน้าน่ารักเกลี้ยงเกลาของซูเฉี่ยนอวิ๋นฉายความงุนงงและสนเท่ห์
จงหย่งเหยียนขยับพัด กล่าวด้วยสีหน้าที่มองทุกอย่างปรุโปร่ง “พี่อันเป็นใคร วัดด้วยกฎมาตรฐานได้หรือ สู้กับบุคคลระดับหวนสู่ความว่างเปล่าได้ตั้งแต่กายแห่งมรรคขั้นสิบ ต่อให้ข้ามอสนีบาตเลื่อนระดับเป็นหวนสู่ความว่างเปล่าข้าก็ไม่แปลกใจ”
“นั่นสิ นั่นมันเทพอันเชียวนะ!” ใบหน้าขาวผ่องเป็นยองใยของเหมียวเถียนมีแต่ความชื่นชม
“พี่อันที่หนึ่งในหล้า!” แฟนคลับตัวยงอย่างเหยาหมิงซีและหูก้วนตะโกนก้อง
ดวงตาคู่งามของสวีเสี่ยวหลานมองทางเดินหินเขียวที่ลดเลี้ยวลงไป เห็นร่างที่สวมชุดสีแดง ใบหน้าก็พลันแย้มยิ้มดงดงาม “อันหลินมาแล้ว”
ทุกคนได้ยินก็เบนสายตามองทางเดิน เห็นอันหลินที่สวมชุดแดงอย่างที่คาด ด้านหลังมีหนึ่งวานร หนึ่งสุนัข กับหญิงสาวที่มีโฉมสะคราญล่มเมือง
อันหลินเดินมาถึงยอดเขา มองทุกคนที่รวมตัวกันนานแล้ว ก็อดเหม่อลอยไม่ได้ จากนั้นก็โค้งตัวกระดากใจ “ขอโทษที่ปล่อยให้ทุกคนต้องรอนาน”
“ฮ่าๆ พวกเราต่างหากที่มาก่อนเวลา อันหลินพูดประโยคนี้ถือเป็นคนอื่นแล้ว” เซียนกระบี่หลิงเซียวมองอันหลินด้วยความปลาบปลื้มและคาดหวัง
“จะว่าไปอันหลิน ทำไมเจ้าถึงใส่ชุดแดงเล่า เมื่อก่อนไม่เคยเห็นเจ้าใส่เลย” ซูเฉี่ยนอวิ๋นกะพริบดวงตาสีน้ำเงินปริบๆ เอ่ยด้วยความฉงน
“ไม่ใช่แต่งงานเสียหน่อย เจ้าแต่งตัวแบบนี้ไปทำไม จะแขวนลูกแพรปักตรงหน้าอกเจ้าไหม” สวีเสี่ยวหลานกลอกตาแล้วพูดค่อนขอด
อันหลินยืดอกอย่างลำพองใจ กล่าวยิ้มๆ ว่า “เจ้าจะเข้าใจอะไร เรื่องข้ามอสนีบาตแปลงจิต ย่อมต้องแต่งตัวเป็นมงคลสักหน่อย!”
“อ้อ…” ดวงตาของซูเฉี่ยนอวิ๋นมีแสงแวววับฉายวาบ ทำหน้าเหมือน ‘ถึงบางอ้อแล้ว’
“พี่อันสุดยอด!” พวกเหมียวเถียนตะโกนอย่างตื่นเต้น
“เสี่ยวหง” อันหลินขานเรียกหญิงสาวด้านหลัง
เสี่ยวหงพยักหน้า กลายเป็นแสงสีแดงพุ่งใส่หัวของอันหลิน สุดท้ายก็กลายเป็นดอกไม้สีแดงที่โยกไปโยกมาตามสายลมอยู่เหนือศีรษะของอันหลิน
เซียนกระบี่หลิงเซียวพูดอย่างประหลาดใจว่า “อันหลิน นี่หมายความว่าอย่างไร”
อันหลินยิ้มบางๆ “อาจารย์ นี่เรียกว่าแดงรับโชคลาภ!”
เซียนกระบี่หลิงเซียว “…”
พวกหูก้วนและเหยาหมิงซีต่างก็กู่ร้องอย่างลิงโลดว่า “แบบนี้ก็ได้ด้วย พี่อันสุดยอด!”
สวีเสี่ยวหลานกุมขมับ “นี่มันการข้ามอสนีบาตแปลงจิตนะ เจ้าช่วยจริงจังหน่อยได้ไหม”
หลิวเชียนฮ่วนหลุดขำพรืดออกมาอย่างอดไม่ได้ตั้งแต่เห็นภาพนี้ แอบล้วงมือถือออกมาเงียบๆ ถ่ายรูปไว้เพื่อเป็นที่ระลึกให้อันหลิน
เซียนกระบี่หลิงเซียวก็สมกับเป็นผู้มีประสบการณ์ เมื่อได้เห็นการกระทำพิลึกของอันหลิน ไม่นานอารมณ์ก็สงบลงอีกครั้ง ถามด้วยสีหน้าขึงขังว่า “อันหลิน เลื่อนระดับสู่แปลงจิตจำต้องข้ามอสนีสี่สิบเก้าสาย ระหว่างข้ามอสนีบาตไม่มีใครช่วยเจ้าได้ ทุกอย่างต้องพึ่งพาตัวเอง หากสำเร็จก็คือระดับแปลงจิต หากล้มเหลวจะสิ้นชีพวายชนม์ เจ้าเตรียมใจพร้อมแล้วหรือ”
เมื่อสิ้นคำพูด ทุกคนต่างก็เก็บงำความเหลาะแหละ จ้องอันหลินด้วยความหวั่นวิตก


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม