สายฟ้าสีทองโลดแล่นผสานกันเป็นตาข่าย จากนั้นค่อยๆ รวมตัวกันเป็นก้อน คล้ายว่าพลังงานมวลใหญ่จะกดผืนฟ้าให้ถล่มแล้ว
“พับผ่าสิ นี่มันอสนีระดับแปลงจิตจริงๆ เหรอ สุดยอดเกินไปหรือเปล่า” ตอนแรกอันหลินมีความมั่นใจเต็มเปี่ยม แต่เมื่อเห็นสายฟ้าที่เหมือนจะทำลายล้างแม้กระทั่งนภาลัย ก็เริ่มหวั่นใจขึ้นมาดื้อๆ
ทีแรกเขาตั้งใจว่าหากใกล้จะต้านทานการถูกฟ้าผ่าจากการข้ามอสนีบาตไม่ได้ ค่อยเผยไพ่ตายของตัวเอง
แต่บัดนี้ เขาคิดว่าชิงนำไพ่ตายออกมาก่อนเป็นดีที่สุด
“ออกมาเลย อิฐแรกกำเนิด!”
อันหลินตะโกนลั่นอย่างองอาจเต็มที่ แหวนมิติพลันสว่างวาบ
จากนั้นก็ไม่มีหลังจากนั้นแล้ว
อะไรกัน!
ใจของอันหลินวูบโหวง เรียกอิฐแรกกำเนิดอีกครั้ง ไม่คิดเลยว่าจะไม่ออกมาเช่นเดิม ราวกับว่าถูกพลังงานบางอย่างพันธนาการ
อันหลิน “…”
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้า สายฟ้าสีทองเริ่มขยับเขยื้อน หลอมผสาน…
ก้อนอิฐสีนิลที่มีพลังป้องกันอันดับหนึ่ง ทำไมถึงไม่ออกมา
หรือว่า…สวรรค์จะคร่าเซียนกระบี่อันหลินอย่างเรา
ขณะนั้นเอง เรื่องที่น่าตะลึงยิ่งกว่าก็บังเกิดขึ้น
อสนีทองอนัตตาบนท้องนภาค่อยๆ หลอมรวมกันช้าๆ สุดท้ายก่อตัวเป็นกิเลนสีทองขนาดราวๆ สิบจั้งตัวหนึ่ง
กิเลนเกลือกกลิ้งกลางเมฆทะมึน เพียงชั่วหนึ่งอึดใจ ประหนึ่งเทพเจ้าบนสวรรค์เก้าชั้นฟ้าคำรามเกรี้ยว กรงเล็บแหลมคมของสายฟ้าพาดผ่านเวหา พร้อมกับเสียงแผดร้องดังเป็นระลอกๆ อากาศก็มีรอยร้าวจางๆ ปานกระจกที่ได้รับแรงกระเทือน
ต่อให้อันหลินจะโง่เง่า แต่ก็รู้แล้วว่าอสนีพวกนี้ไม่ธรรมดา
เขาเบนสายตามองผองเพื่อนที่อยู่ไกลออกไป พบว่าเซียนกระบี่หลิงเซียวทำหน้าขึงขัง สวีเสี่ยวหลานตาแดงก่ำ แฟนคลับที่เชื่อมั่นในตัวเขาอย่างยิ่งก็ใบหน้าซีดเผือดเช่นกัน
อืม…ดูเหมือนเรื่องราวจะสาหัสกว่าที่เขาคิดเสียอีก
เหล่าอาจารย์บนเขาชมจันทร์ก็งงเป็นไก่ตาแตก
“ใครบอกข้าได้บ้างว่า อสนีบาตที่อันหลินข้ามคืออสนีอะไร”
“เป็นอสนีทองอนัตตาระดับแปลงจิตก็เกินพอแล้ว สายฟ้ายังกลายร่างเป็นภูตได้ด้วยหรือ”
“สวรรค์ไม่ปล่อยให้เขารอดแล้ว!”
“ชาติก่อนอันหลินทำลายโลกหรืออย่างไร”
“ข้าคิดว่าพวกเราถอยห่างอีกหน่อยดีกว่า…”
…
เมฆดำสิบลี้ม้วนตัว ฟ้าดินมืดสลัว
แต่กิเลนสายฟ้าสีทองที่ปรากฏกายกลางเมฆดำ กลับนำแสงทองมาสู่แผ่นดินผืนนี้
พลังงานสายฟ้าที่แฝงอานุภาพของสวรรค์ทำให้คนเกิดความรู้สึกต้านทานไม่ได้ แสงสว่างเจิดจ้าชวนให้รู้สึกอยากศิโรราบ
ณ ตีนเขาชมจันทร์ เต็มไปด้วยเงาจำนวนมาก นั่นเป็นเหล่าลูกศิษย์ที่อดใจไม่ไหวโดดเรียน แอบมุ่งหน้ามาดูให้เห็นประจักษ์ สิ่งที่ควรค่าให้พูดถึงคือ หลังพวกเขาเห็นกิเลนสายฟ้าที่มองเย้ยทุกคนบนท้องนภา ก็สูญสิ้นความคิดที่จะเดินหน้าต่อไป
อันหลินหายใจถี่กระชั้น เพียงแค่เงยหน้าประจันหน้ากับกิเลน เนื้อตัวก็สั่นระริกขึ้นมา
เขาก็คิดไม่ถึงเลยว่าหากกิเลนสายฟ้าตัวนั้นพุ่งลงมาจะเกิดเหตุการณ์เช่นใด
ในตอนนั้นเอง จู่ๆ กิเลนที่ก่อตัวจากอสนีทองอนัตตาก็ค้อมตัวลงช้าๆ ศีรษะจ่ออันหลินบนยอดนภา ทำท่าเตรียมจะกระโจนออกมา
อสนีบาตจะฟาดลงมาแล้ว!
นักเรียน อาจารย์นับไม่ถ้วนต่างก็ลืมหายใจ หัวใจจะกระเด็นออกมาแล้ว
อันหลินกัดฟันกรอด มาถึงขั้นนี้แล้วเขาถอยไม่ได้ ต่อให้สวรรค์เปิดบั๊กโจมตีเขา เขาก็จะเดินหน้าอย่างหาญกล้า!
“อสนีเปิดบั๊กแล้วยังไง ใช่ว่าเราจะไม่เคยเจอบั๊กซะหน่อย!” เขาพูดให้กำลังใจตัวเอง
ชั่ววินาทีนั้นเอง เหมือนเขาเพิ่งฉุกคิดขึ้นได้ จู่ๆ ความคิดหนึ่งก็ผุดวาบในใจ
เปิดบั๊กเหรอ บั๊กนั้นใช้ได้หรือเปล่า
แต่เป้าหมายเป็นอสนีบาตเชียวนะ คงจะไม่วิปริตขนาดนั้นหรอกมั้ง…
กิเลนอสนีทองอนัตตากระโจนลงมาราวกับการลงทัณฑ์ของสวรรค์ ลำแสงสีทองกระจายทั่วฟ้าดินในพริบตา กลายเป็นสีสันเพียงหนึ่งเดียว! เสียงดังสะเทือนเลือนลั่น กลายเป็นคลื่นเสียงม้วนตัวไปสิบกว่าลี้
เสี้ยววินาทีนั้น ทุกคนรู้สึกเพียงดวงตารวดร้าว จากนั้นแก้วหูก็ถูกสะเทือนเจียนแตก
“สายฟ้าสีทองน่ากลัวเหลือเกิน อันหลินเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม