ยังมีความยุติธรรมอยู่หรือเปล่า ยังมีความยุติธรรมอยู่ไหม!
อันหลินอยากแจ้งตำรวจเหลือเกินว่า มีคนปัสสาวะในทะเลปราณของตนโดยพลการ!
จากนั้นเขาก็ฉุกคิดขึ้นได้อย่างน่าเศร้าว่า เรื่องนี้ไม่มีใครเชื่อ
ต่อให้มีคนเชื่อ ก็ไม่มีใครช่วยเขาได้…
“เฮ้อ…เหนื่อยใจจังเลย อยากแก้ไขชีวิตที่บัดซบนี่เหลือเกิน…”
ความฮึกเหิมที่อันหลินจุดขึ้นมาอย่างยากเย็น สุดท้ายลดลงไปกว่าครึ่ง นอนแผ่บนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก
ขณะเดียวกัน ข่าวที่อันหลินทะลวงสู่ระดับแปลงจิตได้สำเร็จเริ่มกระจายไปทั่วสำนักแล้ว เกิดการสั่นสะเทือนครั้งใหญ่! โดยเฉพาะเมื่อเหล่านักเรียนได้ยินว่าอสนีบาตบนท้องนภาเป็นกิเลนอสนีทองอนัตตา และอันหลินสามารถควบคุมกิเลนอสนีทองอนัตตาได้ ต่างก็เงียบกริบ
จากนั้นก็ได้ยินว่าอันหลินข้ามอสนีบาตสำเร็จ และให้กำเนิดลูกกิเลนตัวหนึ่งโดยไม่คาดฝัน ทำให้นักเรียนงงเป็นไก่ตาแตก สันสนมึนงงราวกับฟังคัมภีร์สวรรค์
“ไม่คิดเลยว่าศิษย์พี่อันหลินจะบรรลุระดับแปลงจิตแล้วจริงๆ”
“ตอนนี้เขาเป็นระดับแปลงจิตคนแรกของรั้วสำนักเลยใช่ไหม ความเร็วในการเลื่อนระดับช่างน่ากลัวจริงๆ!”
“นี่เป็นประเด็นสำคัญหรือไง ประเด็นสำคัญควรอยู่ที่อันหลินสร้างมุมมองใหม่ในการบำเพ็ญเซียนให้พวกเราไม่ใช่หรือ…”
“ข้ามอสนีทองอนัตตา เห็นอสนีทองอนัตตาเป็นของเล่น สุดท้ายยังให้กำเนิดสิ่งมีชีวิตที่ยิ่งใหญ่…นี่เป็นการสร้างมุมมองใหม่ให้กับข้าเลย!”
“ข้าไม่สามารถสรรหาคำไหนมาบรรยายความรู้สึกของข้าได้เลย ตอนนี้แค่อยากคุกเข่าให้พี่อัน!”
“อ๊าก...ตื่นเต้นมากเหลือเกิน พวกเราอยู่ในรั้วสำนักเดียวกับตำนานที่ยังมีลมหายใจ!”
…
ด้วยเหตุนี้ ‘อันหลินข้ามอสนีบาต’ จึงกลายเป็นหัวข้อสนทนายอดนิยมของสำนักในระยะนี้
หลังอันหลินพักรักษาตัวไปสองวัน ก็กลับมาเรียนตามปกติ จากนั้นอันหลินที่เดินเหินในรั้วสำนักก็พบว่า ชื่อเสียงของตนเองมาถึงขั้นที่น่ากลัวอย่างยิ่งแล้ว เจอแฟนคลับตัวยงระหว่างทางบ่อยครั้งแล้วหวีดร้องทำเขาตกใจ
แน่นอนว่าเสียงกรีดร้องไม่ใช่เจตนา เพียงแต่พวกเขาตื่นเต้นเกินไป…
แวดวงมรรคเทศนา แวดวงเพื่อน จดหมายรักถาโถมเข้ามาปานหิมะถล่ม แน่นอนว่าอันหลินไม่เสียเวลาไปอ่านของพวกนี้มากนัก เพราะมันมากเหลือเกิน อ่านไม่หมดจริงๆ! อืม อย่างมากก็อ่านจดหมายรัก…
ภารกิจเพิ่มน้ำหนักอันฉีหลินให้ถึงหนึ่งกิโลกรัมถูกอันหลินพักไว้ชั่วคราว
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะสื่อสารกับอันฉีหลินอย่างไร ขุนอันฉีหลินให้อ้วนอย่างไร
อันหลินนึกย้อนถึงความรู้สึกยามอุ้มอันฉีหลินในครั้งแรก น้ำหนักน่าจะราวๆ ครึ่งกิโลกรัม นั่นหมายความว่าเขาต้องขุนอันฉีหลินให้อ้วนขึ้นหนึ่งเท่า แค่คิดก็รู้สึกแล้วว่าเป็นภารกิจที่น่ากลัวและยากเย็น
ในย่ำค่ำที่แสงสายัณห์ปกคลุมแผ่นดิน แขกที่เหนือความคาดหมายคนหนึ่งก็มาเยือนที่พักของอันหลิน
ก๊อกๆ ๆ…
ก๊อกๆ ๆ…
เสียงเคาะประตูที่มีจังหวะอย่างยิ่งดังขึ้น
อันหลินเปิดประตู พบกับหูสีขาวปุกปุยที่ตั้งชูชันคู่หนึ่ง
เมื่อมองต่ำลงมา ก็เป็นดวงตากลมโตคู่หนึ่งกับฟันกระต่ายขาวสะอาด
“ราตรีสวัสดิ์เจ้าทึ่มอัน”
เสียงไพเราะดังขึ้น มันเป็นกระต่ายยักษ์ที่สูงขนาดครึ่งตัวคน เดินอาดๆ เข้ามา ไม่ทำตัวเป็นคนนอกเลยสักนิด
มุมปากของอันหลินกระตุกเล็กน้อย หากไม่เห็นถุงข้าวของในมือของมัน คงจะเตะมันกระเด็นออกไปนานแล้ว

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม