เช้าวันใหม่ อันหลินออกไปเลือกสรรวัตถุดิบแต่เช้าตรู่
เนื้อไก่เลือกไก่อัคคีจากเขาตงหลิงของรั้วสำนัก หัวหอมกับขิงเป็นพืชคุณภาพที่มาจากไร่วิเศษ แม้แต่เครื่องปรุงนานาชนิดอย่างเกลือ น้ำมัน ซีอิ๊วและน้ำส้มสายชูก็ได้มาจากพ่อครัวมือฉมังแห่งสรวงสวรรค์!
รวมถึงโค้กปี 85 ขวดหนึ่ง!
ใช่แล้ว เมนูที่เขาจะทำในวันนี้ก็คือ ไก่อบโค้กที่หนึ่งในปฐพี!
อันหลินใช้กระทะก้นแบนแรกกำเนิดอีกครั้ง ผสานกับพลังงานความร้อนจากเพลิงสุริยะ เริ่มลงมือผัด อบด้วยไฟแรง สีหน้าจดจ่ออย่างยิ่งราวกับกำลังทำเรื่องที่วิเศษมากก็ไม่ปาน
ในที่สุดกลิ่นหอมที่ชวนให้ตื่นตะลึงก็ดึงดูดสายตาของสัตว์เลี้ยงทั้งสาม แต่ละตัวตาลุกวาวพากันกรูเข้ามา กลับถูกเขาเตะกระเด็นอย่างไม่ลังเล
“หลีกไป! นี่เป็นของที่จะให้เสี่ยวหลานกิน!” อันหลินพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“ฮือ…พี่อัน ในใจของเจ้า เสี่ยวหลานสำคัญกว่าข้าอีกหรือ โฮ่ง!” ต้าไป๋คร่ำครวญ
“ใช่แล้ว!” อันหลินพูดอย่างเด็ดขาด
ต้าไป๋ “…”
“นายท่าน ท่านกำลังบีบให้ข้าอดอาหารประท้วงอยู่นะ” เสี่ยวหงทำหน้าทุกข์ระทม ท่าทางงดงามน่าดูชม ชวนให้สงสารมากเป็นพิเศษ
อันหลินจดจ่อกับการปรุงอาหารไม่วอกแวก “เจ้าอดอาหารไม่เป็นไร แค่สังเคราะห์แสงก็เพียงพอแล้ว”
“พี่อัน ข้าจะจองอาหารของวันพรุ่งนี้!” ดวงตาของเจ้าอัปลักษณ์ดุจโคมไฟ ฉวยโอกาสก่อนใคร
“ถ้าพรุ่งนี้เสี่ยวหลานไม่ให้ข้าทำอาหารให้ ก็จะเก็บไว้พิจารณา” อันหลินพยักหน้า
ต้าไป๋สั่นสะท้าน รู้ว่าพลาดโอกาสไปแล้ว แต่เมื่อฉุกคิดขึ้นได้ จู่ๆ ดวงตาก็พลันเป็นประกาย “พี่อัน หลังสวีเสี่ยวหลานกินไก่เสร็จ ยังมีกระดูกเหลือไม่ใช่หรือไง อย่าทิ้งกระดูก เก็บไว้ให้ข้ากิน! โฮ่ง!”
อันหลิน “…”
ครึ่งชั่วยามต่อมา
อันหลินหยิบฝามาปิดจานอาหารอย่างระมัดระวังแล้วเดินไปยังบ้านพักที่อยู่ข้างๆ
เขาจะสร้างเซอร์ไพรส์ให้สวีเสี่ยวลหาน ทำลายช่องว่างระหว่างทั้งคู่โดยสิ้นเชิง!
ติ๊งหน่อง…
หญิงสาวคนหนึ่งเปิดประตูออก เมื่อเห็นชายหนุ่มยกจานอาหาร ใบหน้างามสะคราญก็มีความประหลาดใจปรากฏ
“ฮาย เซียนหญิงหลานหลาน กินข้าวหรือยัง”
“กินแล้ว”
“…”
อันหลินปาดเหงื่อ ให้ตายสิ พล็อตไม่ถูกนี่นา…
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาอาหารไม่ใช่เหรอ
เซอร์ไพรส์ของเราจะทำอย่างไรดี ไก่อบโค้กของเราจะทำอย่างไร!
“กิน…อีกมื้อดีไหม” อันหลินมองสวีเสี่ยวหลาน เอ่ยเสียงละห้อย
สวีเสี่ยวหลานมองจานในมืออันหลิน กะพริบตาปริบๆ ถามว่า “เจ้าทำเองหรือ”
“ใช่ วางใจได้ อร่อยมากนะ” อันหลินพยักหน้า
สีหน้าของสวีเสี่ยวหลานผ่อนคลายลง เบี่ยงตัวหลบพลางพูดว่า “งั้นเจ้าเข้ามาก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“ได้เลย!”
ในที่สุดอันหลินก็ได้เข้าบ้านของสวีเสี่ยวหลานอีกครั้ง นี่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่!
“เซียนหญิงหลานหลาน ข้าไม่ได้โม้นะ ระยะนี้ฝีมือการปรุงอาหารของข้าก้าวหน้านิดหน่อย กวาดตามองทั่วแดนจิ่วโจว น่าจะไม่มีใครสู้การปรุงอาหารของข้าได้ แม้แต่สัตว์เลี้ยงที่เย่อหยิ่งสามตัวนั้น ก็วิวาทกันใหญ่โตทุกวันเพราะอาหารที่ข้าทำ” พออันหลินเข้ามาก็สะกดกลั้นอารมณ์ของตัวเองไม่ไหว เริ่มคุยโวโอ้อวดทันที
สวีเสี่ยวหลานเบะปาก “ฝีมือเป็นหนึ่งในแดนจิ่วโจวหรือ ฉายาพรรค์นี้ยังกล้าตั้ง ยังจะบอกว่าเจ้าไม่ได้โม้อีกหรือ ขืนเจ้ายังหน้าด้านเช่นนี้อีก ก็ขอให้เจ้าออกไปเดี๋ยวนี้เลย”
“อย่าสิ เจ้าชิมก็จะรู้ รับรองว่าเจ้าจะสุขสมอารมณ์หมายจนถอนตัวไม่ขึ้น!” อันหลินหย่อนตัวนั่งลง ไม่คิดจะขยับก้นอีกต่อไป วางจานอาหารลงกลางโต๊ะ เอ่ยวาจาด้วยสีหน้าอิ่มเอม
สวีเสี่ยวหลานแสยะยิ้ม “เหอะๆ”
อันหลินเห็นดังนั้นไม่โกรธ แต่พยักหน้าจริงจังพลางพูดว่า “เจ้าไม่เชื่อหรือ งั้นเรามาพนันกันดีกว่า”
สวีเสี่ยวหลานเลิกคิ้ว “พนันอะไร”
“พนันว่าหากเจ้ากินอาหารของข้าคำหนึ่ง จะอดทนไม่กินจนหมดทั้งจานได้หรือไม่ หากว่าเจ้าทนได้ถือว่าข้าแพ้ แต่หากเจ้าทนไม่ได้กินจนหมดจานถือว่าข้าชนะ!” อันหลินพูดอย่างเคร่งขรึม

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม