สำหรับสำนักความร่วมมือบำเพ็ญเซียนแล้ว วันนี้เป็นวันพิเศษ
ข่าวหนึ่งแพร่สะพัดไปทั่วรั้วสำนัก ซาลาเปาต้าไป๋เมินของเซียนกระบี่อันหลิน ดาราอันดับหนึ่งของสำนักเริ่มขายอย่างเป็นทางการแล้ว!
หน้าประตูเขตบ้านพักชั้นปีที่สาม ซาลาเปาหนึ่งร้อยเข่งวางซ้อนกันสูง ดึงดูดสายตาปานเสาสูงเสียดฟ้า
ฟ้าเพิ่งเริ่มสาง ที่นี่ก็มีคนหลายร้อยคนเบียดเสียดยัดเยียดแล้ว ต่างก็พากันมามุงดู
ไม่พูดไม่ได้ว่า การโฆษณาจากซาลาเปาที่อันหลินแจกจ่ายเมื่อวานได้ผลดีทีเดียว เหล่านักเรียนต่างก็กระตือรือร้นกันมาก
ใต้กระทะก้นแบน เพลิงเทวะสุริยะกำลังลุกโชน ไอร้อนสีขาวผุดขึ้นจากกระทะปานมังกรแหวกว่าย ซาลาเปายังไม่สุก ฝูงชนก็เริ่มพูดคุยกันอื้ออึงแล้ว
โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาเห็นราคาบนแผ่นไม้ด้านหน้าซาลาเปาร้อยเข่ง ต่างก็พากันหายใจเข้าดังเฮือก
‘ซาลาเปาต้าไป๋เมิน เข่งละหนึ่งพันหินวิญญาณ’
“คุณพระ อันหลินบ้าไปแล้วกระมัง ซาลาเปาเข่งละพันหินวิญญาณ!”
“หนึ่งพันหินวิญญาณซื้อยาวิเศษที่ไม่เลวได้เม็ดหนึ่งเลยนะ ซาลาเปานี่แพงขนาดนี้ คิดว่าพวกเราเป็นคนโง่เงินหนาหรือ”
“ข้าบอกแล้วว่าสหายอันหลินข้ามอสนีบาตถูกสายฟ้าสวรรค์ฟาดจนสมองกลับแล้ว เจ้าก็ไม่เชื่อ ตอนนี้เชื่อแล้วสินะ”
“ฮ่าๆ พวกเราก็แค่มุงดูที่นี่ ถือโอกาสดูสิว่าจะมีนักเรียนหน้าโง่เงินหนาคนไหนมาซื้อซาลาเปา”
…
ผู้คนวิจารณ์กันไม่ขาดสาย แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคำพูดที่ไม่เข้าใจถึงขั้นว่าถากถาง
อันหลินกำลังตั้งใจบังคับไฟอยู่อีกมุม ทำหูทวนลมกับถ้อยคำวิจารณ์พวกนั้น
เพราะเรื่องที่เขาชื่นชอบที่สุดก็คือ…ใช้ซาลาเปาตบหน้าคนพวกนั้น!
เขามั่นใจกับสิ่งนี้มาก เชื่อว่าอีกหนึ่งชั่วยามข้างหน้า ชาวจีนมุงเหล่านี้จะยิ้มไม่ออกแน่นอน
คนมากันเยอะขึ้นเรื่อยๆ หน้าประตูมีคนออกันร่วมพันคนโดยไม่รู้ตัว บางส่วนขำกับวิธีการนึ่งซาลาเปาที่พิลึกกึกกือ บางส่วนกลับตกใจกับราคาหนึ่งพันหินวิญญาณ
“ศิษย์พี่อันหลิน ไม่ว่าซาลาเปาของท่านจะเป็นอย่างไร ข้าก็จะซื้อแน่!”
“เทพอัน ท่านเป็นความเชื่อของพวกเรา ซาลาเปาต้าไป๋เมิน ข้าซื้อแน่!”
“หนึ่งพันหินวิญญาณจะเท่าใดกันเชียว ข้ายอมกินยาบำรุงผิวน้อยลงเม็ดหนึ่ง!”
แฟนคลับตัวยงก็มากันพร้อมหน้า ตะโกนสนับสนุนเสียงดัง
คนมีสติบางส่วนพากันส่ายหน้าถอนใจ แม้จะเล่าลือกันว่าซาลาเปาต้าไป๋เมินอร่อยอย่างยิ่ง แต่คงไม่ถึงขั้นเข่งละหนึ่งพันหินวิญญาณหรอกกระมัง มันเกินราคาที่ซาลาเปาควรเป็นไปไกลแล้ว
ขณะที่เสียงวิจารณ์ของผู้คนร้อนแรงขึ้นทุกที อันหลินก็เริ่มกวาดตามองนักเรียนที่ล้อมมุงดู ชี้ตำแหน่งด้านหน้าตนพร้อมกับตะเบ็งเสียงว่า
“ซาลาเปาได้ที่แล้ว คนที่จะซื้อมาเข้าแถวตรงนี้!”
นักเรียนส่วนใหญ่ได้ยินก็อดขำไม่ได้ คิดว่านักเรียนที่หน้าโง่เงินหนามีเยอะปานนั้นเชียวหรือ ซาลาเปาราคาสูงลิ่วแบบนี้จะมีคนมาเข้าแถวซื้อหรือ
คงไม่ได้เสียสติไปแล้วหรอกนะ
แต่ในตอนนั้นเอง เงาดำทั้งหลายก็พุ่งพรวดมาประหนึ่งสายฟ้าฟาด ความเร็วหอบเอาลมพัดถึงขั้นทำให้นักเรียนกลุ่มหนึ่งถอยหลัง
“ข้ามาก่อน เจ้าห้ามแซงนะ!”
“พับผ่าสิ เจ้าหน้าไม่อายหรือไง ข้าถึงก่อนแท้ๆ!”
“เลิกเบียดได้แล้ว จะทับกันตายแล้ว!”
…
นักเรียนร่วมพันคนมีนับร้อยคนพากันเข้าแถวภายในหนึ่งวินาที
นักเรียนที่เหลืองงกันถ้วนหน้า อะไรกัน คนพวกนี้กำลังแย่งอะไรกัน
แม้แต่แฟนคลับตัวยงบางส่วนก็ไม่เข้าใจ พวกเขาแค่คิดว่าจะซื้อซาลาเปาเข่งเดียวอุดหนุนสักหน่อย แต่ผู้คนตรงหน้ากลับเข้าแถวภายในวินาทีเดียว นักเรียนที่ถึงขั้นว่ายื้อแย่งกันมันอย่างไรกันแน่
“เถ้าแก่ ข้าขอซาลาเปาหนึ่งร้อยเข่ง!”
คนแรกของแถวเป็นหญิงสาวผมสั้นสีชมพู ท่าทางงดงามอย่างยิ่ง โบกไม้โบกมือตะโกนเสียงดัง
คุณพระ! ครั้งละหนึ่งร้อยเข่งเลยหรือ
นักเรียนที่เหลือต่างก็หน้ามืด กะไม่เหลือให้คนอื่นเลยหรือ!
“คุณพระ เทพหลิวบ้าไปแล้ว มันหนึ่งแสนหินวิญญาณเชียวนะ!”
“เป็นไปไม่ได้ เทพหลิวน่าจะโฆษณาให้ศิษย์พี่อันหลิน”
“บ้านเจ้าโฆษณาด้วยการขายสินค้าของตัวเองให้คนคนเดียวทั้งหมดในครั้งเดียวหรือ ศิษย์พี่อันไม่ต้องหารายได้ ไม่ให้มวลชนคลุกคลีกับสินค้าของตัวเองหรือไง”
“…”
อันหลินจ้องหลิวเชียนฮ่วนที่เป็นคนแรกของแถวแล้วกลอกตา พูดอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “จำกัดแค่คนละสองเข่ง!”
เมื่อสิ้นประโยคนี้ ฝูงชนก็ฮือฮาขึ้นมาทันที
หลิวเชียนฮ่วนถลึงตาใส่อันหลิน “งั้นข้าขอสองเข่ง!”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม