อันหลินตั้งราคาซาลาเปาไว้ที่เข่งละหนึ่งพันสองร้อยหินวิญญาณ ประเด็นเพราะราคานี้อยู่ในขอบเขตที่ลูกศิษย์ของสำนักบำเพ็ญเซียนทั้งหลายยอมรับได้ รับรองว่าจะมีลูกค้าประจำ
ถ้าเขาขึ้นราคาเป็นสองพันหินวิญญาณต่อเข่ง ถึงขั้นว่าห้าพันหินวิญญาณต่อเข่ง อาจขายได้วันละหนึ่งร้อยเข่ง แต่การค้าขายแบบนี้ไม่มีทางยั่งยืนแน่นอน คนมากมายจะไม่ซื้ออีกหลังกินไปครั้งเดียว จะเป็นการลองชิมเพียงอย่างเดียว นักเรียนมากมายจะเกิดความคิดในใจว่า แม้ซาลาเปาอร่อย แต่จ่ายเงินมากขนาดนี้ไม่คุ้ม
แต่ราคาหนึ่งพันสองร้อยหินวิญญาณ เหล่านักเรียนของสรวงสวรรค์กินเดือนละครั้ง ไม่มีปัญหาอย่างสิ้นเชิง เศรษฐีนีอย่างหลิวเชียนฮ่วนสามารถกินซาลาเปาวันละสองครั้งได้!
ด้วยเหตุนี้ ตลอดหลายวันมานี้ ซาลาเปาของอันหลินล้วนขายหมดภายในสิบนาที
ซาลาเปาต้าไป๋เมินมีชื่อกึกก้องทั่วรั้วสำนักความมั่นคงบำเพ็ญเซียนอย่างแท้จริง กลายเป็นของกินฟุ่มเฟือยที่รู้กันถ้วนทั่ว
“ซูเชี่ยน พรุ่งนี้เราไปเข้าแถวซื้อซาลาเปาต้าไป๋เมินที่เขตบ้านพักชั้นปีที่สามกันดีกว่า!”
“ฮะ ข้าไม่ชอบกินซาลาเปาสักหน่อย อีกอย่างเขตบ้านพักปีสองกับปีสามไกลเกินไป”
“เหอะๆ แม้แต่ซาลาเปาต้าไป๋เมินก็ยังไม่เคยกิน ไม่นับว่าเป็นนักเรียนของสำนักบำเพ็ญเซียน! หากเจ้าไม่ได้กิน ต้องเสียใจแน่นอน!”
“ข้า…”
“เลิกพล่ามได้แล้ว พรุ่งนี้เช้าหกโมงไปแย่งที่ ช้าหมดจะอด!”
…
อีกไม่กี่วันต่อมา ซาลาเปาต้าไป๋เมินก็ถูกเหล่านักเรียนยกย่องเป็นอาหารอันดับหนึ่งของสรวงสวรรค์ หากไม่กินเท่ากับไม่เคยเข้ารั้วสำนัก…สมญานามของยอดพ่อครัวอันก็เริ่มเป็นที่นิยม
ยอดพ่อครัวอันรักษากำไรหนึ่งแสนหนึ่งหมื่นหินวิญญาณทุกวัน ได้กินซาลาเปาหลายเข่งกับเหล่าสัตว์เลี้ยง ชีวิตมีความสุข ส่วนทางด้านต้นทุน แม้ทำซาลาเปาร้อยเข่งจะใช้วัตถุดิบที่ดีที่สุดของสำนักบำเพ็ญเซียน รายจ่ายก็แค่ราวๆ หนึ่งพันหินวิญญาณ เรียกได้ว่ากำไรถล่มทลาย
“กระทะก้นแบน ข้ารักเจ้าเหลือเกิน”
สิ่งที่อันหลินชอบพูดที่สุดในแต่ละวันก็คือประโยคนี้ แถมยังไม่ลืมจูบไปฟอดหนึ่ง
เขาว่างเว้นทุกวัน มักนำกระบี่พิชิตมารออกมาหั่นผักหั่นเนื้อ แถมยังสอนเสี่ยวเสียให้หัดเอาอย่างพี่กระทะก้นแบนเสียบ้าง รู้จักมีเมตตาดูแลครอบครัว เป็นกระบี่ที่มีประโยชน์กับเจ้านาย เป็นกระบี่ที่แบ่งเบาภาระเจ้านาย
กระบี่พิชิตมารไม่อยากพูดจา ถึงขนาดว่าอยากเชือดคน
วันเวลาเรียบง่ายอย่างมาก
ถ้าว่างเว้นก็เล่นเกมกับหลิวเชียนฮ่วน สอนกระบี่ให้ซูเฉี่ยนอวิ๋น ฝึกภาษาต่างประเทศ ทำตามสัญญาสองประการนั่น จากนั้นก็ตั้งใจศึกษาการปรุงอาหาร...
เมื่อสวีเสี่ยวหลานเห็นอันหลินที่ไร้ใจบำเพ็ญเซียน จดจ่อกับการศึกษาการปรุงอาหารก็ปวดหัวขึ้นมาทันที ตอนแรกนางคิดจะโน้มน้าวให้อันหลินกลับตัวกลับใจ แต่เมื่ออันหลินนำซาลาเปาต้าไป๋เมินมาเยือน นางก็ลังเลเสียแล้ว
สามร้อยหกสิบอาชีพ ทุกอาชีพมีจอหงวน[1]
เกิดหนทางปรุงอาหารของอันหลินสำเร็จ กลายเป็นยอดพ่อครัวมือหนึ่งของปฐพี ไม่แน่ว่าอาจเป็นหนทางที่ดีก็ได้
กระต่ายจันทราส่งกระแสจิตให้อันหลินจากตำหนักดวงจันทร์ แสดงความขอบคุณอีกครั้ง และบอกว่าวิธีลดความอ้วนด้วยการเผาผลาญไขมันได้รับการยอมรับจากฉางเอ๋ออย่างมาก มันสามารถปล่อยพลังลดความอ้วนที่ตำหนักดวงจันทร์ได้ทุกวัน ไม่กลับมาแล้ว พร้อมกับบอกว่าเจอกันครั้งหน้าจะเตรียมของขวัญชิ้นใหญ่ให้อันหลิน
หลังอันหลินรู้เรื่องก็ดีใจจากหัวใจ คุยอีกไม่กี่ประโยคก็ปิดยันต์ส่งสาร จดจ่อกับเรื่องที่ยิ่งใหญ่อย่างการปรุงอาหารอีกครั้ง
ช่วงเวลาที่เรียบง่ายล่วงเลยไปช้าๆ พริบตาเดียวก็ผ่านไปยี่สิบวัน
ตลอดยี่สิบวันมานี้ อันหลินหาเงินได้สองล้านสามแสนหินวิญญาณ!
นักเรียนเกือบห้าหมื่นชีวิต จำนวนประชากรจำนวนนี้สูงเหลือเกิน ต่อให้ในห้าคนมีหนึ่งคนซื้อแค่เข่งเดียว เขาก็ได้กำไรสิบสองล้านหินวิญญาณอยู่ดี มิหนำซ้ำ มันเป็นแค่การประเมินตัวเลขในเชิงสงวนเท่านั้น ตัวเลขแท้จริงไม่ได้มีเพียงแค่นี้แน่นอน ไม่เกินหนึ่งปี อันหลินต้องรวยล้นฟ้าแน่ๆ!


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม