“สหายม่อไห่ชมเกินไปแล้ว” อันหลินยิ้มบางๆ
เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมากเหลือหลาย เขาชินตั้งนานแล้ว
ม่อไห่เข้ามาใกล้งูยักษ์ผลึกกาฬ ใช้ดาบฟันร่างของมัน
เห็นลูกไฟที่มีรูปร่างคล้ายขนนกเพลิงสีแดงฉาน ลุกโชนในตัวของงูยักษ์ พลังเพลิงที่บริสุทธิ์ก่อตัวเป็นริ้วคลื่นแผ่กระจาย ชวนให้คึกขึ้นมา
“โชคดีใช้ได้ อสูรเพลิงพสุธาตัวแรกก็เจอมายาเพลิงวิหคชาดชั้นกลางแล้ว มา อันหลิน เจ้ารับไว้ ดูดซึมมันเสีย!” ม่อไห่ยื่นขนเพลิงให้อันหลินพร้อมรอยยิ้ม
ลูกเพลิงเก็บใส่แหวนมิติไม่ได้ ยามกลับสำนักวิหคชาด ทุกคนจะนำลูกเพลิงไปได้แค่หนึ่งเดียว แต่เป้าหมายของพวกเขาเป็นมายาเพลิงวิหคชาดชั้นสูง สำหรับลูกเพลิงชั้นต่ำพวกนี้ แน่นอนว่าเลือกดูดซึมพลังงานของมัน
อันหลินรับมายาเพลิงมาแล้วเริ่มกระตุ้นวิชาดูดซึม รับพลังเพลิงที่แฝงอยู่เข้าสู่ร่างกาย
พลังเพลิงที่แฝงอยู่ในลูกเพลิงล้นหลามยิ่งนัก ไม่ด้อยไปกว่าสรรพคุณของสุดยอดยาวิเศษเลยสักนิด
เมื่อเขาดูดซึมพลังงานเพลิงเสร็จ ดวงตาก็กระจ่างใส เพลิงเทวะทั้งสี่ในกายต่างก็เพิ่มขึ้นเล็กน้อย
“ลูกเพลิงนี่เป็นของดีจริงๆ ด้วย หากว่าล่าอสูรที่นี่ รวบรวมลูกเพลิงไม่พัก เชื่อว่ามรรคพลังเพลิงต้องทะลวงขั้นอย่างใหญ่หลวงแน่ๆ!” อันหลินอุทาน
ม่อไห่ส่ายหน้ายิ้มๆ “มีแต่สหายอันหลินที่พูดเช่นนี้ได้ ลูกศิษย์ของสำนักล้วนเสี่ยงอันตรายมายังแดนต้องห้ามแห่งนี้ ได้มายาเพลิงวิหคชาดชั้นกลางลูกหนึ่งก็ขอบคุณสวรรค์แล้ว ไหนเล่าจะกล้ามองที่นี่เป็นลานล่าสัตว์…”
ดวงตาของอันหลินลุกวาว “การทดสอบคุกวิหคชาดจำกัดเวลาหรือไม่”
ม่อไห่ได้ฟังก็ชะงัก “พลังงานของป้ายเคลื่อนย้ายสีแดงมีเวลาราวๆ เจ็ดวัน ครั้นถึงเวลา ป้ายเคลื่อนย้ายสีแดงจะกระตุ้นมิติแล้วส่งพวกเรากลับสำนักวิหคชาดเอง แน่นอนว่า หลังพวกเราได้ลูกไฟแล้ว จะกระตุ้นก่อนก็ย่อมได้ สหายอันหลิน เจ้าคงไม่ได้คิดจะรวบรวมลูกเพลิงที่นี่อยู่ตลอดหรอกนะ ความอันตรายของแดนต่างมิติแห่งนี้เหนือกว่าที่เจ้าคาดการณ์อักโข แม้แต่นักพรตระดับแปลงจิตขั้นปลายก็เคยสิ้นชีพที่นี่ร่วมยี่สิบกว่าคน”
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่อยู่ที่นี่นานปานนั้นหรอก พวกเราออกล่ากันต่อเถอะ” อันหลินพูดยิ้มๆ
ไม่อยู่เจ็ดวัน อยู่แค่หกวันแล้วกัน!
ม่อไห่ได้ยินว่าอันหลินไม่ได้คิดเช่นนั้น ก็โล่งอกไปเปราะหนึ่ง
ตอนนี้เขายอมรับความสามารถของอันหลินแล้ว ทั้งสองร่วมมือกันแม้จะเจออสูรเพลิงสวรรค์ บางทีอาจหาโอกาสสังหารมันได้ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ใช้อาวุลับที่มีมูลค่าสูงยิ่งชิ้นนั้น
หากไม่มีอะไรผิดพลาด คงรวบรวมลูกเพลิงขั้นสูงสองลูกได้ภายในสี่วัน
ทั้งคู่ไม่ประวิงเวลาอีก เหาะขึ้นฟ้าแล้วหายลับไปในขุนเขาอีกครั้ง
ผ่านไปอีกราวๆ สิบชั่วยามโดยไม่รู้ตัว
ทั้งคู่สังหารอสูรเพลิงวิญญาณไปทั้งสิ้นสิบกว่าตัว อสูรพสุธาสี่ตัว เก็บเกี่ยวเรียกได้ว่ามหาศาลอย่างยิ่ง แต่ไม่เจออสูรเพลิงสวรรค์สักที
พรึ่บ
ลำแสงสีแดงยาวสิบกว่าจั้งเส้นหนึ่งแฝงด้วยพลังเพลิงอันน่ากลัว ทลายม่านเพลิงของเสือขาว อสูรเพลิงพสุธา ร่างมโหฬารก็ถูกลำแสงฉีกเป็นสองท่อนในพริบตา
ม่อไห่ชักดาบกลับอย่างสง่างาม ใบหน้าฉายความหงุดหงิด เอ่ยเสียงเย็นว่า “แมวตัวกระจ้อยยังอาจหาญมาคำรามใส่ข้า ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงจริงๆ!”
“แปะๆ ๆ…” อันหลินปรบมือ “ความเท่เจ็ดสิบคะแนน ถ้าสายตาของเจ้าไม่มองเสือที่ล้มลง แต่จ้องมองท้องฟ้า คะแนนจะเพิ่มอีกสิบคะแนน!”
ม่อไห่ได้สติทันใด พยักหน้าอย่างถ่อมตัว “ขอบคุณสหายอันหลินที่ชี้แนะ ครั้งหน้าข้าจะระวัง!”
อันหลินผงกศีรษะอย่างปลื้มใจ ระหว่างการล่าอสูรที่จืดชืด เขาจะชี้แนะม่อไห่ว่าควรวางมาดอย่างไรอยู่ตลอด ตลอดระยะเวลานี้ ความขี้เก๊กของม่อไห่จึงพุ่งทะยาน ได้ประโยชน์ก่ายกอง
ม่อไห่ดูดซึมพลังเพลิงของมายาวิหคชาดแล้วพยักหน้าอย่างพออกพอใจ ก่อนจะพูดว่า “เราไปกันเถอะ ค้นหาอสูรเพลิงสวรรค์กันต่อ”
อันหลินได้ฟังกลับนิ่งไม่ไหวติง แต่มองเนื้อสีขาวแกมทองของเสือขาวตัวนั้น
เขาคำนวณเวลาครู่หนึ่ง คิดว่าตอนนี้พลังของกระทะก้นแบนน่าจะฟื้นฟูแล้ว จะพลาดโอกาสทำอาหารครั้งนี้ไม่ได้เด็ดขาด เพราะนั่นมันอาหารเลิศรสเชียวนะ!
“สหายอันหลิน เจ้าเป็นอะไรไป” เมื่อเห็นอันหลินทำหน้าแปลกๆ ม่อไห่ก็ถามด้วยความสงสัย
“ฮะ” อันหลินได้สติ ถามจริงจังว่า “สหายม่อไห่ เจ้าหิวหรือยัง”

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม