จี้หย่งฟางร้องไห้อยู่พักใหญ่กว่าจะหยุดลง น้ำตาคลอเบ้าชี้อันหลินที่อยู่บนแท่นพิธีพลางตะโกนเกรี้ยวว่า “อันหลิน! เป็นฝีมือเจ้าแน่ๆ เจ้าทำอะไรข้า!”
“พอแล้ว!”
เสียงตวาดดังแทรกคำพูดของจี้หย่งฟาง
“ทั้งร้องไห้ทั้งตะโกน ใช้ได้ที่ไหนกัน!” ชายวัยกลางคนหนึ่งตะโกนด้วยความโกรธ
จี้หย่งฟางมองบุรุษที่พูดด้วยความตะลึง ปิดปากฉับ น้ำตาไหลเป็นทาง น่าสงสารอย่างยิ่ง “ท่านพ่อ ทำไม…”
ผู้อาวุโสจี้ไม่อยากเห็นท่าทางแบบนี้ของจี้หย่งฟางเลย หากไม่ใช่เพราะต้องรับการถ่ายทอดพลังเพลิงศักดิ์สิทธิ์ คงลากเจ้านี้ออกจากจัตุรัสไปแล้ว
“เรื่องนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับอันหลินเลย บางที…เจ้าอาจจะเสียใจเกินไปจริงๆ…” ผู้อาวุโสจี้พูดอย่างระอาใจ
จี้หย่งฟางชะงัก เศร้ามาจากภายใน ร้องไห้ ‘โฮๆ’ ออกมาอย่างกลั้นไม่ไหว
ผู้อาวุโสจี้เบือนสายตาขึ้นมองท้องฟ้า ไม่มองใบหน้าเลย
ลูกศิษย์ในจัตุรัสก็หัวเราะจนเหน็ดเหนื่อยแล้ว พากันนวดคลึงใบหน้ากับท้องของตน
ม่อไห่ยังหัวเราะร่าไม่หยุด มองจี้หย่งฟางด้วยความนับถือ “ศิษย์พี่จี้ ถ้าเรื่องร้องไห้ ข้ายอมแค่ท่าน เป็นที่หนึ่งของสำนักได้แล้ว!”
อีกหนึ่งคนที่ยังหัวเราะไม่หยุดคือหลานเยียน นางเส้นตื้นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตอนนี้เมื่อเห็นท่าทางที่ร้องไห้ปานจะขาดใจของจี้หย่งฟาง ก็หัวเราะจนแทบจะสลบไสล
หัวเราะพลางด่าทอว่าจี้หย่งฟางเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆาตกรรม จะทำให้นาง ‘หัวเราะจนตาย’
สวีเสี่ยวหลานช่วยลูบหลังให้หลานเยียนด้วยสีหน้าเอือมระอา หลานเยียนจะได้ไม่หัวเราะจนตายไปจริงๆ
“อันหลิน ในเมื่อเจ้าไม่ได้การยอมรับจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ก็ลงมาเถอะ”
ขณะที่เหตุการณ์ค่อยๆ สงบลง ผู้อาวุโสจูก็เอ่ยเสียงนุ่ม พูดไกล่เกลี่ยสถานการณ์
อันหลินพยักหน้า กำลังจะเก็บขนนกหงส์ไฟ จู่ๆ เพลิงศักดิ์สิทธิ์กลางนภาก็สว่างโชติช่วง
ครืน
เพลิงศักดิ์สิทธิ์สีขาวระเบิดโดยพลัน จากนั้นก็กลายเป็นรูปร่างหงส์ไฟสีขาวตัวหนึ่ง บินฉวัดเฉวียนใต้นภายามราตรีกาล
เหล่าผู้อาวุโสแห่งสำนักวิหคชาดเห็นเช่นนั้นสีหน้าต่างก็เปลี่ยนไป แต่บรรดาลูกศิษย์กลับจ้องท้องฟ้าอย่างงุนงง
“เพลิงศักดิ์สิทธิ์แปลงร่างด้วยตัวเองหรือ มันเพราะอะไรกัน” ผู้อาวุโสเฉินซิ่นหรานพูดด้วยความตกใจ
อันหลินยืนอยู่บนแท่นพิธี ยังไม่แสดงท่าทีอะไร ทะเลปราณก็พลันเดือดพล่านรุนแรงขึ้นมา พญาหงส์สีขาวที่อยู่ภายในแผดร้องอย่างปีติ จากนั้นพลังมวลหนึ่งก็หลั่งไหลออกจากกายมัน ถ่ายทอดสู่หน้าผากของอันหลินผ่านทะเลปราณ จากนั้นก็พุ่งออกจากหว่างคิ้ว บินไปหามายาเพลิงวิหคชาดสีทอง
มายาเพลิงวิหคชาดสีทองค่อย ชัดเจนขึ้น จากนั้นกลายเป็นขนนกสีขาว ลอยอยู่กลางอากาศ
ลูกศิษย์หลายหมื่นชีวิตงงเป็นไก่ตาแตก รวมถึงอันหลินเองก็งวยงงด้วยเช่นกัน
“ทำไมกลายเป็นสีขาว หรือขนนกถอดสี”
“ข้าได้ขนนกปลอมมาหรือ เพลิงศักดิ์สิทธิ์เลยไม่ยอมรับ” อันหลินโพล่งขึ้นมา
ทุกคนได้ฟังก็พากันกลอกตา
หลานเยียนที่ไม่ง่ายเลยกว่าจะกลับมาเป็นปกติถูกกระตุกต่อมฮาอีกครั้ง หัวเราะแทบหงายหลัง มือค้ำเอวคอดกิ่วอย่างยากลำบาก ไม่ให้ตัวเองล้มลงไป
ผู้อาวุโสที่เจนประสบการณ์บางส่วนกลับมองขนนกสีขาวที่แจ่มชัดอย่างตกตะลึง
“หรือนี่…จะเป็นขนหงส์ไฟเที่ยงแท้”
“คลื่นพลังลูกนี้ไม่ผิดแน่ ไหนจะขนนกที่กลายเป็นของจริงนั่นอีก เป็นขนหงส์ไฟเที่ยงแท้จริงๆ!”
“ไยจึงมีขนนกเที่ยงแท้โผล่มาที่นี่ได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้อันหลินปล่อยภาพมายาออกมาแท้ๆ”
“มีพลังแผ่ออกจากร่างกายของเขา ทำให้มายาเพลิงวิหคชาดชั้นสูงกลายเป็นของจริง”
“ไม่คิดเลยว่าข้าจะได้เห็นขนนกเที่ยงแท้ที่นี่ คราวนี้น่าสนใจแล้ว…”
…
บทสนทนาของเหล่าผู้อาวุโสไม่ได้ปิดบัง ลูกศิษย์ส่วนใหญ่จึงพอจะเข้าใจปรากฏการณ์ประหลาดนี่บ้างแล้ว

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม