เหนือมหานครที่ทอดยาวสิบกว่าลี้ กำแพงเมืองสูงร่วมร้อยเมตร ด้านบนมีป้อมปืนพลังปราณนานาชนิด
ปืนใหญ่แผดเสียง กระแทกพสุธาที่ไกลโพ้นจนเป็นหลุมขนาดใหญ่ สาวหิมะคนแล้วคนเล่าที่รุกรานเข้ามาถูกพลังงานระเบิดจนป่นปี้
ขณะเดียวกัน สาวหิมะหลายหมื่นคนทำให้พายุหิมะกลายเป็นคมดาบ แปลงความหนาวเหน็บทั้งปวงในอากาศให้เป็นพลังที่น่ากลัว จู่โจมมหานครที่มโหฬารแห่งนี้ โจมตีนักพรตบนแนวกำแพงไม่หย ยุด
เกล็ดเลือดล้นหลามที่เปื้อนเลือดแตกกระจายบนกำแพงเมือง
เมืองนี้มีนามว่าเมืองเซี่ยงฉิง เป็นเมืองใหญ่ที่มีขนาดใหญ่เป็นสิบอันดับแรกของแคว้นเฟิงหยวน เป็นเพราะมีอาณาเขตติดต่อกับแดนศักดิ์สิทธิ์เหมันต์ มักจะเกิดศึกขนาดย่อมกับสาว หิมะเป็นประจำ
แม้จะเกิดศึกบ่อย แต่กลับไม่ถึงขั้นบาดเจ็บล้มตาย
แต่ระยะนี้ไม่รู้ด้วยเหตุใด เหล่าสาวหิมะดูเหมือนจะได้รับการกระทบกระเทือนบางอย่าง ถึงได้จู่โจมกำแพงเมืองอย่างบ้าคลั่งไม่คำนึงความตาย ท่าทางราวกับว่าหากไม่ได้ยึดครองเมืองใหญ่จ จะไม่ยอมเลิกรา
ไม่ใช่แค่เมืองนี้ ทุกอาณาเขตของแคว้นเฟิงหยวนที่มีอาณาเขตติดต่อกับแดนศักดิ์สิทธิ์เหมันต์ต่างก็ถูกโจมตีอย่างรุนแรงเช่นกัน บางเมืองถึงขั้นถูกยึดแล้วด้วยซ้ำ
ดาบน้ำแข็งนับไม่ถ้วนกับพายุหิมะคำรามพุ่งใส่มหานครแห่งนี้ จากนั้นก็เปลวไฟ ศรเพลิงและปืนใหญ่ก็ชนกัน เมฆเพลิงหมอกควันระเบิดกลางอากาศ ตระการตาอย่างยิ่ง
มีกำแพงด้านหนึ่งเริ่มทรุดตัว
ขุนศึกหญิงสาวหิมะระดับแปลงจิตที่มีเขตอาคมผลึกน้ำแข็งคนหนึ่ง ฝ่าห่าปืนใหญ่พุ่งไปหากำแพงเมือง และสังหารขุนพลเฝ้าเมืองหลายคน
ช่องโหว่จึงถูกเปิดออก กำแพงเมืองท่อนนี้กลายเป็นลานประหารเหมันต์ไปในพริบตา
พลทหารนับไม่ถ้วนบ้างก็ถูกแช่แข็งเป็นรูปสลักน้ำแข็ง บ้างก็ถูกใบมีดน้ำแข็งที่ถาโถมเข้ามาตัดเป็นสองท่อน
“แข็งใจไว้ ถ่วงฝีเก้าของสาวหิมะไว้ ท่านแม่ทัพจวนจะถึงแล้ว!” ขุนพลที่มีนามว่าจ้งเย่ตะโกนลั่น
เหล่าขุนพลต่างก็ใช้พลังยุทธ์โจมตีสาวหิมะที่พุ่งขึ้นกำแพงเมือง แต่พลังป้องกันของสาวหิมะคนนั้นน่ากลัวเหลือเกิน ห่าปืนใหญ่พวกนั้นใช้ไม่ได้ผลกับนางเลยสักนิด ไม่เพียงเท่า านี้ นางยังสามารถใช้ม่านผลึกหินช่วยกำบังสาวหิมะที่ร่วมรบเคียงบาเคียงไหล่กับนางได้อีกด้วย ใช้มันต้านทานการโจมตีของเปลวไฟ
นี่แหละความน่ากลัวของผู้แข็งแกร่งระดับแปลงจิต ลำพังแค่คนเดียว ก็เพียงพอจะทำให้กำแพงท่อนนี้นองเลือดแล้ว พลทหารตายนับพันคนในพริบตา
ใบหน้าของพรทหารมากมายต่างก็ฉายความสิ้นหวัง
พวกเขาไม่กลัวตาย แต่การต่อสู้กับสาวหิมะ กลับไม่มีอะไรแตกต่างจากการรนหาที่ตายเลย
“ทุกคนอย่าได้ถอย ขอเพียงจู่โจมไม่หยุด ก็จะผลาญพลังของสาวหิมะคนนี้ได้แน่! พอสาวหิมะหมดแรง ก็จะปลิดชีพนางได้!” ขุนพลจ้งเย่ตะโกนเรียกขวัญและกำลังใจต่อไป
สาวหิมะแปลงจิตเบนสายตามองจ้งเย่ที่อยู่ไกลร้อยลี้ เสียงดุจลมหนาวบาดกระดูก จิตสังหารน่ากริ่งเกรง “เจ้าพูดมากเสียจริง…”
ความเร็วของสาวหิมะเหนือกว่ากำแพงเสียงสองเท่า ข้ามระยะทางหลายร้อยเมตรในชั่วอึดใจ กระบี่เหมันต์ในมือวาดวงโคจรมรณะ
จ้งเย่มีพลังยุทธ์แค่เพียงระดับหล่อเลี้ยงวิญญาณขั้นกลาง เมื่อเห็นการโจมตีที่รวดเร็วปานนี้ ย่อมรู้ดีว่าหนีไม่พ้น แต่ใบหน้าไม่แสดงความหวาดกลัว กัดฟันจะจ้วงแทงสาวหิมะก่อน ตายสักครั้ง
สาวหิมะตวัดกระบี่ลง ดาบของจ้งเย่ก็ชูขึ้นทันใด
ชั่ววินาทีนั้นสาวหิมะแสยะยิ้ม มืออีกข้างตบลงไปเบาๆ พลังที่เหนือคำบรรยายพันธนาการดาบของขุนพลจ้งเย่
ใบหน้าของจ้งเย่มีแต่ความเจ็บแค้น บัดนี้เขาเพิ่งพบว่า พลังแตกต่างกันมากเหลือเกิน ต่อให้เขาสู้สุดชีวิต ก็ไม่อาจทำอันตรายศัตรูได้เลยแม้แต่นิด
ยามนี้กระบี่ของสาวหิมะตวัดลงมาแล้ว สิ่งที่รอคอยเขาอยู่ก็คือความตาย
จ้งเย่คิดว่าตนได้พลีชีพเหนือกำแพงเมือง ในใจก็ไม่มีความเสียใจเลย เพียงหวังว่ากำแพงเมืองอย่าได้ถูกตีแตกเลย เช่นนี้ลูกเมียของตนจึงจะดำรงอยู่ในเมืองนี้ได้อย่างสบายใจ
พรึ่บ
กระบี่ของสาวหิมะหักเป็นสองท่อนต่อหน้าจ้งเย่
สาวหิมะเบิกตากว้าง หันศีรษะมองข้างกาย ตรงนั้นมีชายหนุ่มชุดขาวคนหนึ่งกำลังถือกระบี่สีดำ กระบี่มีกระแสลมระลอกหนึ่งสลายไป
“เจ้า…” สาวหิมะยังพูดไม่ทันจบ ก็พบว่าเขตอาคมผลึกน้ำแข็งของตนปริแตกนานแล้ว แม้แต่ร่างกายของนางเองก็กลายเป็นสองซีกแล้ว
เลือดสีน้ำเงินกระเด็นเซ็นซ่าน พลทหารทั้งหลายที่รักษาเมืองรวมถึงจ้งเย่ต่างก็มองภาพตรงหน้าด้วยความตะลึง แม่ทัพสาวหิมะที่ยิ่งใหญ่น่ากลัวคนนั้นถูกชายชุดขาวปลิดชีพแล้วห หรือ
จ้งเย่ที่รอดพ้นจากความตายสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะคำนับชายชุดขาวข้างกาย “ขอบคุณผู้อาวุโสยิ่งนักที่ช่วยเหลือ พลทหารทั้งเล็กใหญ่แห่งเมืองเซี่ยงฉิงซาบซึ้งยิ่งแล้ว!”
“ไม่เป็นไร ข้าขอถามหน่อยว่า วันนี้พวกเจ้าเห็นหญิงชุดเขียวขี่กระบี่เหาะผ่านเมืองนี้ไปบ้างหรือไม่”
ชายคนนั้นคืออันหลินนั่นเอง เขามองพลางเอ่ยถามจ้งเย่
จ้งเย่ได้ฟังก็ชะงัก จากนั้นตั้งใจใคร่ครวญแล้วส่ายหน้าอย่างเสียดาย “วันนี้เมืองเซี่ยงฉิงเอาแต่สู้รบปรบมือกับสาวหิมะอย่างดุเดือด ข้าไม่พบว่ามีสตรีเหาะผ่านกำแพงเมือง หรือไม ม่ก็รอให้สงครามนี้สิ้นสุด ข้าค่อยซักถามพลทหารที่แนวกำแพงอื่นๆ”
ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม