เมืองซีเสีย แคว้นขุมทรัพย์ เป็นเมืองโบราณที่งดงาม
เมืองโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่บนที่ราบสูง ท้องฟ้าปลอดโปร่งอย่างยิ่ง ปราศจากการศึกที่ต่อเนื่องยาวนาน วิถีชีวิตเรียบง่าย ไม่นับว่ารุ่งเรืองแต่กลับสุขสงบอย่างยิ่ง
ทางตะวันตกของเมืองเป็นทะเลทรายไม่เห็นที่สิ้นสุด คลองจักษุกว้างขวางเป็นล้นพ้น ทางใต้กลับเป็นที่ราบยาวิเศษพันลี้ แต่ไอปราณไม่ขาดสายช่วยปรับปรุงสภาพแวดล้อมรอบข้าง
และที่นี่สามารถมองเห็นแสงสายัณห์อันงดงามยามพลบคล่ำได้ทุกวัน
สวีเสี่ยวหลานเยื้องย่างบนถนนของเมืองโบราณ นางตัดสินใจจะใช้ชีวิตที่เหลือ ณ เมืองโบราณที่สวยงามแห่งนี้
เมื่อย่ำค่ำ นางยืนอยู่บนกำแพงเมืองตะวันตก เหม่อมองสีสันบนท้องนภา
นางหวนคิดถึงทุกวันที่ชมพระอาทิตย์หายลับไปในทะเลเมฆในสรวงสวรรค์ นึกถึงช่วงเวลาที่นอนสรวลเสเฮฮากับอันหลินบนปุยเมฆนุ่ม พวกเขายังมีสัญญาอีกหนึ่งอย่างคือ รอให้แสงตะวันเจ็ดสีอันเป็นทิวทัศน์ในตำนานของสำนักความร่วมมือบำเพ็ญเซียนปรากฏ จะถ่ายรูปด้วยกันเป็นที่ระลึก
วันเวลาเหล่านี้จากไปไกลเสียแล้ว…
น้ำตาทำให้ภาพของแสงสายัณห์เต็มนภาเลือนรางโดยไม่รู้ตัว
สวีเสี่ยวหลานอยู่บนกำแพงเมืองตะวันตก มองพระอาทิตย์กระทั่งลาลับขอบฟ้า ถึงได้มองหาโรงเตี๊ยมแล้วเข้าพัก
แสงเทียนวูบไหว ท่ามกลางรัตติกาลที่เงียบสงบ นางลูบกระบี่มังกรวิหค อาวุธเซียนที่งดงามประณีตเล่มนี้เบาๆ
พลังยุทธ์ของนางตกลงมาถึงกายแห่งมรรคขั้นเจ็ดแล้ว ถ้ายังลดด้วยความเร็วระดับนี้ต่อไป อีกสองวัน นางก็จะกลายเป็นปุถุชนที่บำเพ็ญเพียรไม่ได้แล้วอย่างสิ้นเชิง
จู่ๆ สวีเสี่ยวหลานก็พบปัญหาข้อหนึ่ง หากนางกลายเป็นคนธรรมดา จะใช้แหวนมิติไม่ได้อีก ของข้างในจะทำอย่างไร กระบี่มังกรวิหคล่ะจะทำอย่างไร
“ข้ามันโง่จริงๆ…ข้าน่าจะทิ้งกระบี่มังกรวิหคกับของในแหวนมิติให้อันหลิน ของพวกนี้พกติดตัวไปก็สูญเปล่า”
ใบหน้าของสวีเสี่ยวหลานฉายความเสียดาย แต่ไม่นานก็ส่ายหน้าอีกครั้ง สลัดความคิดนั่นทิ้งไป ในใจลอบเกลียดที่ตัวเองหน้าไม่อายขนาดนี้ จวบจนตอนนี้แล้วยังคิดถึงตู้ชายคนนั้นอยู่
นางตั้งใจว่าจะนั่งสมาธิสงบจิตใจ ภายหลังพบว่าชักนำพลังปราณฟ้าดินไม่ได้แล้ว นางถึงได้รู้สึกตัวว่า ตนบำเพ็ญเพียรไม่ได้อีกแล้ว
สวีเสี่ยวหลานแค่นยิ้ม เป่าเทียนให้ดับแล้วนอนลงบนเตียง
ราตรีนี้นางนอนไม่ค่อยหลับ นึกถึงเรื่องราวมากมาย ทั้งแตนการใช้ชีวิตหลังจากนี้ ไหนจะสิ่งของในแหวนมิติอีกจะจัดการอย่างไร…
เช้าตรู่วันต่อมา สวีเสี่ยวหลานมองหาเรือนที่ค่อนข้างดีในเมืองซีเสียแล้วซื้อด้วยหินวิญญาณ และจ้างสาวใช้อีกสองสามคน
นางมีเงิน หลายแสนหินวิญญาณในมิติเพียงพอจะให้นางใช้ชีวิตอย่างมั่งคั่งและเสรีไปได้ชั่วชีวิตแล้ว
หากว่านางเหงา ก็แต่งงานกับสามีที่ใจหมายปองสักคน ใช้ชีวิตนี้ด้วยฐานันดรของหญิงสาวปุถุชน…
ไม่! เมื่อคิดถึงตรงนี้ สวีเสี่ยวหลานก็ส่ายหน้าอย่างหนักแน่น
ไม่รู้ด้วยเหตุใด นางต่อต้านชีวิตแบบนี้อย่างยิ่ง ชั่วชีวิตนี้นางยอมรับคนอื่นไม่ได้อีกแล้ว บางทีการใช้ชีวิตนี้เพียงลำพังก็อาจจะไม่เลว…
สวีเสี่ยวหลานนำหินวิญญาณออกจากแหวนมิติแล้วเก็บในห้องหินห้องหนึ่งของเรือน ส่วนของอื่นๆ ในแหวนมิติค่อยหาโอกาสจัดการทีหลังแล้วกัน
นางเดินเตร่บนท้องถนน มีตู้คนไม่น้อยที่เหลือบมองเขา ในแววตามีความสงสัย และมีความอิจฉา
จู่ๆ ก็มีหญิงงามสะคราญคนหนึ่งเพิ่มมาในเมืองโบราณ ไม่ว่าใครก็ต้องอดมองไม่ได้
สวีเสี่ยวหลานเคยชินกับสายตาเหล่านี้นานแล้ว ไม่ได้รู้สึกแย่แต่อย่างใด นางกำลังเสาะหาอาชีพสุจริตที่ตนพึงมี แม้จะมีเงินมีทอง แต่จะเอาแต่กินๆ นอนๆ รอความตายไม่ได้หรอกกระมัง
ไม่นานนางก็ตัดสินใจได้แล้วว่าจะทำอะไรต่อไป เปิดสำนักแพทย์!
สวีเสี่ยวหลานปรุงยายอดเยี่ยมแต่แรกอยู่แล้ว เป็นนักปรุงยาระดับเทพนิรมิต ความรู้ในทฤษฎียาทั้งหลายแหล่เรียกได้ว่าเป็นบุคคลระดับปรมาจารย์ แม้นางจะใช้พลังปราณไม่ได้อีก แต่ก็ยังอาศัยความรู้อันมหาศาลตรวจรักษาจ่ายยา ช่วยเหลือคนที่ติดโรคในเมืองนี้ได้เช่นกัน
ทางใต้ของเมืองซีเสียมีที่ราบยาวิเศษพันลี้ด้วย สมุนไพรนานาชนิดมีมากเหลือล้น ยามว่างเว้นก็ยังศึกษาได้อีกด้วย ไม่ปล่อยให้ชีวิตน่าเบื่อเกินไป
อีกหนึ่งสาเหตุที่นางเลือกอาชีพนี้เป็นเพราะ จะอาศัยศาสตร์แพทย์อันเลิศล้ำสร้างชื่อเสียงและมิตรภาพ จะได้ไม่ถูกคนของอิทธิพลอื่นข่มเหงรังแก…
นางรู้สภาพของตัวเองดี นางไม่ใช่อัจฉริยะของสำนักวิหคชาดคนนั้นอีกแล้ว
ตอนนี้นางเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาที่หน้าตาสะสวย มนุษย์ปุถุชนที่ไม่มีกำลังจะต่อต้านพลังภายนอกเลยสักนิด…ฉะนั้นภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ นางจำต้องรู้จักป้องกันตัว
เปิดสำนักแพทย์ในเมืองโบราณช่วยเหลือคนได้มากหลาย กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ คนที่นางช่วยเหลือเหล่านี้ ก็เป็นเกราะป้องกันของนางด้วย
ตอนนี้พลังยุทธ์ของสวีเสี่ยวหลานลดถึงกายแห่งมรรคขั้นสองแล้ว ประสาทสัมตัสที่มีต่อสิ่งรอบกายค่อยๆ เชื่องช้าลง
ภาพที่เคยชัดเจนในคราแรกก็เริ่มเลือนราง


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม