เต้าเต๋อเทียนจุนมองคู่รักที่จะวิวาทกันอีกครั้งด้วยความอ่อนใจ จึงใช้วิชางดเสียงทันที
อันหลินกับสวีเสี่ยวหลานพบว่าไม่มีเสียงพูดแล้ว ถึงได้รู้ตัวว่าเมื่อครู่ลืมตัวเสียกิริยาไป จึงก้มหน้าลงอย่างละอายใจ
เต้าเต๋อเทียนจุนยิ้มพอใจแล้วพูดต่อว่า “ข้าจะขอพูดวิธีที่เหลือสักหน่อย แน่นอนว่าวิธีที่สองคือ ค้นหานักพรตที่มีสายเลือดพญาหงส์ ให้พวกเขายินยอมถ่ายเลือดให้สวีเสี่ยวหลา าน ยิ่งถ่ายเลือดได้มากเท่าใด ความบริสุทธิ์ก็ยิ่งสูงมาก เช่นนั้นอัตราความสำเร็จก็จะยิ่งสูงไปด้วย แน่นอนว่า ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่ปานใด ก็ไม่มีทางได้ผลลัพธ์เท่าการถ่ายเลือดพญาหงส์ จากร่างกายอันหลิน”
“วิธีที่สามก็คือ ค้นหาพญาหงส์ สัตว์เทพบรรพกาล เพื่อให้ได้มาซึ่งเลือดบริสุทธิ์ของมัน เช่นนั้นก็ย่อมสร้างพลังแห่งสายเลือดได้อีกครั้ง วิธีนี้ข้าอนุมานอัตราความสำเร็จไว้ท ที่ราวๆ ร้อยละห้าสิบ เพียงแต่ว่าในหมื่นดินแดนมีพญาหงส์จำนวนน้อยนิด จะหามันให้เจอเกรงว่าจะสิ้นเปลืองแรงกาย อีกอย่างเลือดบริสุทธิ์ก็ไม่ใช่เลือดทั่วไปด้วย แต่เป็นส่วนหนึ่ง งที่แฝงพลังดั้งเดิมของมัน จะได้เลือดแบบนี้มาเรียกได้ว่ายากเสียยิ่งกว่ายาก”
“เอาละ มีสามวิธีนี้นี่แหละ ลองว่าความคิดของพวกเจ้ามาเถอะ”
เพิ่งสิ้นคำของเต้าเต๋อเทียนจุน วิชางดเสียงก็เริ่มคลายมนต์
สวีเสี่ยวหลานไม่แม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ โพล่งมาทันทีว่า “ใช้วิธีที่สาม ไม่เป็นไร ข้ารอได้”
อันหลินกลับไม่ออกปากโต้แย้งอย่างที่เห็นได้ไม่บ่อย กลับใช้สายตาจับจ้องที่หน้าอกของสวีเสี่ยวหลานแทน
สวีเสี่ยวหลานสังเกตเห็นสายตาที่เจือความคุกคามของอันหลิน ใบหน้าจึงแดงก่ำ เอ่ยเสียงเบาว่า “เจ้ามองอะไรน่ะ”
อันหลินไม่พูดอะไร แต่ยื่นมือไปยังลำคอขาวผุดผ่องเป็นยองใยของสวีเสี่ยวหลาน คว้าสร้อยคอที่ส่องแสงสีขาวเส้นนั้นแล้วยกขึ้น
เลือดที่มีรูปร่างคล้ายหยดน้ำตาหยดหนึ่งปรากฏสู่สายตาของทุกคน
สีเลือดของมันเข้มและเจิดจ้าภายใต้การขับดุนจากสีผิวขาวหยวกของสวีเสี่ยวหลาน ดุจว่าหยดเลือดทั่วหล้ารวมกันอยู่ในเลือดหยดนี้
“เต้าเต๋อเทียนจุน เลือดหยดนี้ใช้ได้หรือไม่” อันหลินพูดอย่างสงสัย
หลังเต้าเต๋อเทียนจุนเห็นเลือดหยดนี้ ลมหายใจก็หยุดชะงัก
ยิ่งเป็นสิ่งที่สูงส่งมากเท่าใด บางครั้งจะยิ่งรับรู้ได้ยากมากเท่านั้น
เพราะพวกนี้สามารถกลายเป็นธรรมชาติ หลอมเป็นหนึ่งเดียวกับฟ้าดินได้
แต่เมื่อเลือดบริสุทธิ์หยดนี้ปรากฏตรงหน้าเต้าเต๋อเทียนจุน เขาก็ไม่อาจละสายตาได้อีกเลย
“นี่มัน…นี่มันเลือดบริสุทธิ์ของสัตว์เทพ! อีกอย่างสัมผัสจากปราณของมันแล้ว น่าจะเป็นเลือดดั้งเดิมของวิหคชาด!” สีหน้าที่นิ่งสงบของเต้าเต๋อเทียนจุนหายไปแล้ว กลับกลายเ เป็นท่าทางที่ตะลึงอย่างยิ่งแทน
อันหลินรู้ได้ทันทีว่าเขาเดาถูกแล้วเมื่อได้ฟังดังนั้น หงส์ดำลอบเข้าไปช่วงชิงพลังของสัตว์เทพวิหคชาดในคุกวิหคชาด พลังนั่นรวมถึงเลือดบริสุทธิ์หยดนี้ด้วย!
“เต้าเต๋อเทียนจุน แล้วเลือดหยดนี้ทดแทนเลือดดั้งเดิมของพญาหงส์ได้หรือไม่” อันหลินพูดอย่างไม่ค่อยแน่ใจ
“ทำไมจะไม่ได้เล่า ไยจะไม่ได้ วิหคชาดถือกำเนิดในปฐมกาล เป็นบรรพชนของเผ่าพันธุ์ปักษา เป็นหนึ่งในสี่สัตว์เทพที่ไม่เหมือนใครในสวรรค์และหมื่นดินแดน หากว่ากันตามการสืบสายเล ลือดแล้ว มันเป็นบรรพชนของพญาหงส์ด้วยซ้ำ!” เต้าเต๋อเทียนจุนพูดอย่างตื่นเต้น
บรรพชนของพญาหงส์งั้นเหรอ อันหลินเหม่อลอย
ในความเข้าใจของเขา พญาหงส์กับวิหคชาดเป็นสิ่งมีชีวิตที่แตกต่างกัน ไม่คิดเลยว่าจะมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดจริงๆ ด้วย
ถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับว่า…สำเร็จแล้วไม่ใช่หรือไง!
สวีเสี่ยวหลานก็ใจลอยอยู่บ้างเหมือนกัน ถูกความสุขมหาศาลกระแทกโดนอย่างจัง ดวงตาเลื่อนลอย
นางไม่คิดเลยว่าสร้อยคอเส้นนี้ที่อันหลินมอบให้นางจะมีความเป็นมาเช่นนี้
นั่นมันเลือดบริสุทธิ์ดั้งเดิมของสัตว์เทพเชียวนะ! นั่นมันสมบัติที่แม้แต่เต้าเต๋อเทียนจุนก็ยังหวั่นไหวอย่างยิ่ง!
สวีเสี่ยวหลานเตรียมใจแล้วว่าอันหลินไม่อาจหาเลือดพญาหงส์เจอในร้อยปี จากนั้นค่อยๆ แก่ตาย
ไม่คิดเลยว่า ของขวัญในวันนั้นจะกลายเป็นความหวังให้นางได้โบยบินกลางนภาอีกครั้ง
อ้อมไปอ้อมมา คิดไม่ถึงเลยว่าสมบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจะอยู่ตรงหน้า!
บางทีนี่คงเป็นความมหัศจรรย์ของโชคชะตากระมัง…
เต้าเต๋อเทียนจุนยิ้มอย่างชื่นบาน “ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าพวกเจ้าจะมีเลือดดั้งเดิมของวิหคชาด คราวนี้ง่ายเลย พลังสายเลือดที่ใกล้เคียงกับธาตุของพญาหงส์ แต่กลับสูงกว่าพญาหงส์ อยู่หนึ่งขั้นเช่นนี้ จะกระตุ้นแก่นแท้แห่งเต๋าที่แฝงเร้นในสายเลือดมังกรที่อยู่ในตัวสวีเสี่ยวหลานได้ดีกว่า ไม่เพียงแต่สร้างรากฐานได้สมบูรณ์แบบเท่านั้น ยังทำให้พลังสายเลือ อดของนางก้าวล้ำขึ้นอีกขั้นด้วย!”
อันหลินสูดหายใจเข้าลึก “แล้ว…อัตราความสำเร็จเล่า”
“เหอะๆ ยังต้องถามอัตราความสำเร็จอีกหรือ เมื่อมีเลือดดั้งเดิมของวิหคชาด พิธีสร้างรากฐานใหม่ที่ข้าจัดการด้วยตัวเองแล้ว ไม่มีความล้มเหลว!” เต้าเต๋อเทียนจุนยิ้มบางๆ ใบหน้าเ เปี่ยมด้วยความมั่นใจ
สิ้นคำพูดนี้ แม้แต่เหล่าสัตว์เลี้ยงก็อดโห่ร้องอย่างดีใจไม่ได้
มือขาวเรียวของสวีเสี่ยวหลานกำสร้อยคอไว้แน่น พยายามควบคุมอารมณ์ของตน
บัดนี้เต้าเต๋อเทียนจุนนำระฆังทองม่วงออกมาแล้ว เสียงระฆังที่แฝงด้วยเสียงแห่งมรรคาดังขึ้น ฟ้าดินเปลี่ยนแปลงไป
ผู้คนมาอยู่กลางนภาสูงเหนือเมืองซีเสียโดยไม่รู้ตัว
เหล่าสัตว์เลี้ยงค่อนข้างนิ่งเฉย แต่สาวใช้ทั้งสี่กลับตกใจจนเกาะกันเป็นกลุ่ม พวกนางมองบ้านเรือนที่เล็กเหมือนมด แข้งขาก็อ่อนแรงแล้ว โดยเฉพาะเสี่ยวชิวที่เป็นโรคกลัวความส สูง กอดเสี่ยวตงไว้แน่นอย่างสั่นเทา
เต้าเต๋อเทียนจุนมองสวีเสี่ยวหลาน มือประสานไม่หยุด คลื่นที่ลึกลับยวดยิ่งกระจายตัวออกไปทั่วทุกสารทิศ
“อย่าปฏิเสธ ปล่อยทุกอย่างให้เป็นตามธรรมชาติ” คำพูดของเขาเป็นประกาศิต กล่าวถ้อยคำที่แฝงด้วยกฎเกณฑ์ธรรมชาติ
เลือดของวิหคชาดถูกพลังงานบางอย่างกระตุ้น จึงเปล่งแสงสีแดงออกมาแล้วค่อยๆ หลุดออกจากสร้อยคอ ลอยหายไปในหน้าผากของสวีเสี่ยวหลาน
ปฐพีที่กว้างไกลสุดลูกหูลูกตาเกิดลวดลายสีทองอ่อน มันคือค่ายกล


ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม