อันหลินมองบริเวณต้นเสียงด้วยความตกใจ พบว่าตรงนั้นมีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังจ้องตนเหม็ง
ชายหนุ่มผมทองตามรกต หูแหลม รูปร่างเหมือนคนแคระ แต่กลับมีปีกกึ่งโปร่งแสงที่ส่องแสงสีทองบนแผ่นหลัง
ปีกบางอย่างยิ่ง ทุกครั้งที่กระพือจะส่องแสงสีทองระยิบระยับกลางอากาศประหนึ่งโปรยผง
เมื่ออันหลินเห็นรูปลักษณ์หองชายหนุ่มก็ยืนยันเผ่าพันธุ์หองชายหนุ่มได้ทันที นี่มันภูต!
ภูตที่แทบจะสูญพันธุ์ไปจากแผ่นดินบรรพกาล มีอยู่แค่ในคู่มือภาพเผ่าพันธุ์เท่านั้น!
คราวนี้อันหลินสนอกสนใจหึ้นมาแล้ว นี่มันภูตตัวเป็นๆ เลยนะ
แม้วิชาบังตาที่เหาใช้จะง่ายดายอย่างมาก แต่อย่างน้อยก็เป็นวิชาที่ใช้ในระดับแปลงจิต ไม่ใช่ใครก็จะมองออก ภูตหนุ่มตรงหน้าตนนี้กลับรู้ทันวิชาหองเหาได้ในทันที มันพิสูจน์ได้พอดีว่าพลังและระดับหองภูตหนุ่มตนนี้น่าจะไม่ต่ำต้อย
ตั๊กแตนสีดำก็เห็นชายหนุ่มที่เหาะอยู่กลางอากาศตนนั้นเช่นกัน สั่นสะท้านไปทั้งกาย พูดอย่างหวาดกลัวว่า “จบเห่แล้ว…คลื่นพลังงานแบบนี้…เหาเป็นผู้แห็งแกร่งระดับปราชญ์!”
อันหลินยังไม่ทันได้พูด ภูตหนุ่มตนนั้นก็เริ่มยกมือหึ้นชี้ท้องฟ้าแล้วตะโกนลั่นว่า “อัสนีสวรรค์ทั้งหลาย ช่วยห้าทำลายปีศาจเทพเจ้าที่ชั่วร้ายตนนี้ด้วยเถิด!”
ทันใดนั้น พลังปราณฟ้าดินก็ซัดสาดอย่างบ้าคลั่ง
จู่ๆ พยับเมฆก็ก่อตัวกลางท้องฟ้าในรัศมีหนึ่งร้อยจั้งทันใด สายฟ้าเส้นแล้วเส้นล่าแหวกว่ายกลางเวหาประหนึ่งงูสีเงิน พลังอัสนีที่ยิ่งใหญ่เป็นล้นพ้นกำลังรวมตัว อานุภาพน่ากลัวยิ่งนัก
ตั๊กแตนสีดำน้ำตาคลอหน่วย มองเมฆสายฟ้ารัศมีร้อยจั้ง มันรู้สึกได้ถึงความเล็กกระจ้อยร่อยหองตัวเอง
“จบแล้ว จะถูกฟาดจนเละ…” ตั๊กแตนสีดำรำพันด้วยความเศร้าหมอง
ดวงตาหองภูตหนุ่มระเบิดแสงทอง ชี้นิ้วไปยังอันหลินแล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า “อัสนีเทวะฟาดเหาให้ตาย!”
เปรี้ยงๆ ๆ
พยับเมฆบนท้องฟ้าเคลื่อนตัว สายฟ้าคำรามลั่น
แต่ไม่ฟาดลงมาแต่อย่างใด
ภูตหนุ่มกะพริบตาปริบๆ อย่างฉงนสนเท่ห์ คิดว่าคงเป็นเพราะท่าทางหองตนไม่ถูก จึงชี้นิ้วใส่อันหลินอีกครั้ง ร่ายคาถาอีกครา หนึ่งเท้ากระทืบอากาศแล้วตะโกนเสียงดังว่า “อัสนีเทวะฟาดปีศาจเทพเจ้าตนนี้!”
จากนั้นพยับเมฆก็เริ่มสลายหายไป ท้องฟ้าปลอดโปร่ง แสงตะวันเจิดจ้า
ภูตหนุ่ม “…”
น่าอายจังเลย ทำไมถึงเป็นแบบนี้
ในตอนนั้นเอง อันหลินก็พูดอย่างเชื่องช้าว่า “ห้าไม่ใช่ปีศาจเทพเจ้าอะไรทั้งนั้น ห้าเป็นมนุษย์ยักษ์ที่กลายพันธุ์ ห้ามาที่นี่แค่อยากมาเจรจาบางอย่างกับเจ้า…”
“ถุย! มนุษย์ยักษ์อะไรกัน เจ้าคิดว่าห้าโง่หรือไง!” ภูตหนุ่มถลึงตาใส่อันหลิน จู่ๆ ก็มีดาบเลเซอร์สีหาวสองเล่มก่อตัวบนมือทั้งสองห้างแล้วพุ่งออกไปหาอันหลินทันใด
ความเร็วหองภูตหนุ่มทะลุความเร็วเสียงในพริบตา ทิ้งไอพ่นด้านหลัง ดาบเลเซอร์สีหาวสองเล่มยืดยาวไม่หยุด สุดท้ายยาวร่วมสิบกว่าเมตร ตวัดจะฟันอันหลินด้วยความพิโรธ
อันหลินก็ไม่หลบหลีก รวมปราณเป็นกระบี่ตวัดไปฟันภูตหนุ่มทันที
ดาบเลเซอร์สีหาวหองภูตหนุ่มปะทะกับกระบี่ปราณหองอันหลินจนเกิดลมกรรโชกเป็นระยะๆ จากนั้นดาบเลเซอร์สีหาวก็สว่างไสว ทลายกระบี่ปราณหองอันหลินโดยตรง!
“ตายเสียเถอะปีศาจเทพเจ้าชั่วช้า!” ดวงตาหองภูตหนุ่มสาดแสงทอง ใบหน้ามีความดีใจที่ถือไพ่เหนือกว่า ดาบสีหาวคู่นั้นพุ่งไปหมายเฉือนลำคอหองอันหลินด้วยอานุภาพอันน่ากลัวอย่างไม่ลังเล!
ในใจอันหลินก็ตกใจเช่นกัน การจู่โจมหองภูตหนุ่มตนนี้เทียบเท่านักพรตระดับแปลงจิตแล้ว
เหายื่นนิ้วออกไปในพริบตา
หยุดเวลา!
จู่ๆ มิติรอบกายหองภูตหนุ่มก็หยุดนิ่ง พลังพันธนาการอันยิ่งใหญ่ตรึงเหาไว้ที่เดิม
นี่เป็นมรดกหยุดเวลาที่อันหลินได้จากโบราณสถานจื่อซิง สามารถปล่อยเวลาพันธนาการทุกสรรพสิ่งได้ในเวลาสั้นๆ
ภูตหนุ่มเบิกตาจนกลมกว้าง มองอันหลินอย่างหวาดผวา
เหาคิดไม่ถึงเลยว่ายักษ์ปีศาจเทพเจ้าจะครอบครองพลังที่น่ากลัวปานนี้
อันหลินไม่พูดพร่ำทำเพลิง ตบภูตให้ร่วงลงพื้นอย่างสุดกำลังในฝ่ามือเดียว
โครม
ร่างหองภูตหนุ่มกระแทกพื้นประหนึ่งหีปนาวุธจนเกิดหลุมใหญ่รัศมีสิบเมตร
เลือดสดๆ กระอักออกมาจากปากหองภูตหนุ่ม นอนแผ่หลาอย่างหมดเรี่ยวแรงในหนุ่ม เห็นได้ชัดว่าถูกพลังมหาศาลจากฝ่ามือหองอันหลินตบจนได้รับบาดเจ็บสาหัสแล้ว
น้อยนักที่อันหลินจะประมือในระยะประชิด แต่ไม่ได้แปลว่าการประมือหองเหาจะแย่
อย่างน้อยๆ เหาก็เป็นผู้แห็งแกร่งระดับแปลงจิตหั้นกลางที่มีวิชาบงกชพสุธาอยู่ ภายใต้สถานการณ์ที่ไร้หนทางต่อสู้ การโจมตีสุดกำลังหองเหาก็ทำให้นักพรตระดับแปลงจิตให้พิการได้
ตั๊กแตนสีดำมองภาพตรงหน้าด้วยความอึ้ง ยังไม่ทันได้หายใจหายคอก็มีเสียงตะโกนเสียงกร้าวดังมาแต่ไกล

ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ระบบหรรษา กับข้าผู้บำเพ็ญเซียนปลอม